bloggang.com mainmenu search

มีโอกาสนั่งคุยกับคุณศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าเมืองกาญฯเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ กับหลากหลายกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่จะเดินหน้าส่งเสริมเมืองกาญสู่เป้าหมายนักท่องเที่ยว 15 ล้านคนในปี 2560

 

ปี 2558 เป็น “ปีท่องเที่ยววิถีไทย” ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้ขับเคลื่อนโครงการ “ตลาดโต้รุ่งอาหารปลอดภัยเมืองกาญจน์ ส่งเสริมท่องเที่ยววิถีไทยสู่นานาชาติ” เพื่อยกระดับมาตรฐานร้านอาหารในตลาดโต้รุ่งในจังหวัดกาญจนบุรีให้มีคุณภาพ มาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยววิถีไทยในการเที่ยวชมสัมผัสชีวิตของชุมชนในตลาดโต้รุ่งของท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย

 

ทั้งนี้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่องาน “โต้รุ่งเมืองกาญจน์ อาหารปลอดภัย ส่งเสริมท่องเที่ยววิถีไทยสู่นานาชาติ” โดยกิจกรรมเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการด้านอาหาร ณ บริเวณตลาดโต้รุ่ง จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ร้านจำนวนผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 100 คน อบรมด้านสุขาภิบาลอาหาร การสร้างภาพลักษณ์ร้านอาหารแผงลอย การต้อนรับและการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวและมีการตรวจประเมินผลหลังการอบรมตามเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรม จัดทำผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผม สำหรับผู้เข้ารับการอบรม และจัดทำคู่มือ 2 ภาษา (ภาษาไทยและแปลภาษาอังกฤษ) แนะนำการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวและบทสนทนาเบื้องต้นอาทิแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี

 

ในการจัดพิธีเปิดงาน วันที่ 19 ธันวาคม 2558 จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรมบนเวที อาทิ การจัดประกวดตกแต่งรถเข็นจำหน่ายอาหาร การจัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตรและจัดทำป้ายชื่อร้านอาหาร หรือเมนูอาหารในตลาดโต้รุ่ง 2 ภาษา (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) สำหรับสถานประกอบการและร้านค้าในตลาดโต้รุ่ง

 

ยิ่งไปกว่านั้น การผนึกพลังของหน่วยงานภาครัฐของ ประกอบไปด้วยจังหวัดกาญจนบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจ.กาญจนบุรี สาธารณสุขจังหวัดและเทศบาลอำเภอเมืองกาญจนบุรี ในโครงการฯในครั้งนี้ จะนำไปสู่มาตรฐานการให้บริการการท่องเที่ยวทั้งเชิงวัฒนธรรมด้านอาหารไทยและวัฒนธรรมวิถีชีวิตแบบคนไทยเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวอย่างสุขใจ สบายใจ และมั่นใจ

 

 

            นอกจากนี้จังหวัดกาญจนบุรี ยังมีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นอันดับต้นๆ 7-8 ล้านคนต่อปี ระยะทางเดินทางจากกรุงเทพฯเพียง 100 กว่ากม. หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมง มีจุดสนใจทางธรรมชาติหลากหลาย

 มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ของประเทศ มีเขื่อนใหญ่ 2-3 เขื่อนที่มีความจุน้ำหลักหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร มีอุทยานแห่งชาติและน้ำตกหลายแห่ง มีชายแดนที่ติดเพื่อนบ้านอย่างพม่า และเป็นดินแดนประวัติศาสตร์การสู้รบไทย-พม่า เช่นที่ด่านเจดีย์ 3 องค์ และมีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์สมัยทวาราวดีย้อนไป 1,500-2 พันปี

 

    นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่ญี่ปุ่นนำทัพเข้าประเทศไทย เพื่อสร้างทางรถไฟไปพม่า จนก่อเกิดเรื่องราวของทางรถไฟสายมรณะ แต่ละปีจะมีชาวยุโรปมาท่องเที่ยวจำนวนมาก และพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งรีสอร์ท ที่พักแบบลองสเตย์และแม้แต่แพ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแพมากที่สุดในไทยและมีหลายประเภททั้งแพพัก แพอาหาร ฯลฯ สร้างรายได้ให้กาญจนบุรี

 

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งวัตถุดิบทางอาหารทั้งเกษรและแปรรูป เป็นแหล่งโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ ปลูกอ้อยและมันจำนวนมาก เป็นแหล่งเกษรอินทรีย์อันดับต้นๆของประเทศ

 

ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแบบอันซีนไทยแลนด์จำนวนมาก ซึ่งทางจังหวัดกำลังจัดทำแหล่งท่องเที่ยวแบบอันซีน 20-30 แห่ง หรืออันซีนอินกาญจนบุรี และเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ นอกจากนี้ได้มีการก่อสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 32 เมตร ในพื้นที่ 300 ไร่ของอำเภอห้วยกระเจา และจะมีพิธีเปิดในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก

 

จังหวัดกาญจนบุรียังได้รับเลือกให้มีการจัดไตรกีฬาระดับโลก ซึ่งมีการย้ายจากที่ภูเก็ตมาจัดที่กาญจนบุรี ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 17 เดือนนี้ นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัด

 

สำหรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงจะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ยิ่งใหญ่ที่สะพานมอญ ในอำเภอสังขละบุรี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจมาก ขณะนี้กำลังเร่งแก้ปัญหาการจราจรเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาได้สะดวก และจะจัดเต็นท์บริการประมาณ 2-3 พันเต็นท์

 

ในอนาคตกาญจนบุรีจะมีการท่องเที่ยวและการค้าขยายตัวมาก เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งติดกับพม่า จะมีหน่วยงานขนาดใหญ่มาลงที่นี่ครบเช่นศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ และทางญี่ปุ่นยังสนใจสร้างมอเตอร์เวย์จากบางใหญ่มายังกาญจนบุรี ใช้งบประมาณราว 5.5 หมื่นล้าน ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาทีเท่านั้น

 

 ติดตามข่าวสารท่องเที่ยวได้ที่

Facebook/travelista นักข่าวนักเดินทางที่อยู่ในแวดวงท่องเที่ยวกว่า 30 ปี 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Create Date :08 ธันวาคม 2558 Last Update :8 ธันวาคม 2558 7:51:32 น. Counter : 3284 Pageviews. Comments :1