bloggang.com mainmenu search

 

 

             

 

            หลายปีก่อน คลองโคน สมุทรสงครามต้องเงียบเหงาไประยะหนึ่ง เนื่องจากการบุกรุกผืนป่าชายเลน จนทำให้สัตว์น้ำชายฝั่งหดหายไป ชาวบ้านต้องทิ้งถิ่นฐานไปทำงานที่อื่น

 

            แต่ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวชุมชนและองค์กรต่างๆได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่นี้ ต่างช่วยกันปลูกป่าขึ้นใหม่อีกครั้ง ทำให้ “ป่าชายเลนบ้านคลองโคน” กลับมาเขียวขจีเป็นผืนป่าที่หนาแน่นอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ “บูมสุดขีด” ในระยะ 2-3 ปีมานี้ ด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวสารพัด ที่ผู้คนในพื้นที่ต่างบันดาลขึ้นมา

          

 

            หนึ่งในนั้นคือไพบูลย์ รัตนพงศ์ธระ หรือผู้ใหญ่ชงค์ ที่ได้ร่วมกับชาวบ้านปลูกป่าชายเลน จนเต็มไปด้วยทรัพยากรชายฝั่ง สร้างการทำประมงพื้นบ้านชายฝั่งให้กลับมาคึกคัก รวมไปถึงอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง ชาวบ้านได้รวมกันเป็นกลุ่มอาชีพต่างๆตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มกระเตง(ขนำกลางทะเล) กลุ่มชาวเรือ กลุ่มทำอาหาร ที่สำคัญคือกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน ที่กลับกลายมาสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นมากมายนักท่องเที่ยวเองก็ทั้งได้ความสนุก สาระความรู้ และความรู้สึกประทับใจที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ

           

 

            จุดเริ่มต้นของวันนี้อยู่ที่ "ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน"  เดินเล่นในศูนย์ ซึ่งมีเรือนพักให้น่าเล่นเย็นใจ ชมต้นโกงกางริมฝั่ง ก่อนจะนั่งเรือหางยาว ล่องชมวิถีการทำประมงพื้นบ้าน สัมผัสกับบรรยากาศของป่าชายเลนสองข้างทาง ชมป่าชายเลนที่นี่ ที่มีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ปลูกอย่างเป็นระเบียบเรียงรายสวยงาม จะมองเห็นป้ายของหน่วยงานต่างๆมากมายที่มาปลูกป่าที่นี่ หากนักท่องเที่ยวซื้อแพคเกจทัวร์ก็จะมีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ก่อนออกเดินทาง หรือจะจองเฉพาะล่องเรือหางยาวเที่ยวก็ได้คนเรือที่เป็นคนท้องถิ่นก็ให้ข้อมูลได้เป็นอย่างดี

          

 

            แม้จะเป็นช่วงหน้าฝนแต่การนั่งเรือที่นี่ก็ไม่มีอันตราย เพราะเป็นเขตคลื่นลมสงบ ชาวเรือบอกว่าเป็นแนวของอ่าวที่โค้งเว้า กันคลื่นและลมได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นเขตน้ำตื้นไม่ลึกนัก ตลอดทางที่เรือวิ่งออกไปในทะเล จะมองเห็นบ้านเรือนริมน้ำ แนวป่าชายเลน ก่อนแวะให้อาหารฝูงลิงแสม

         

 

            เมื่อถึงจุดที่ชาวเรือบอก ครั้งแรกเราไม่เห็นลิงแม้แต่ตัวเดียว แต่เมื่อโยนกล้วยและแตงโมลงไปในน้ำสักพักลิงจะยกขบวนกันออกมาจากป่า น่าตื่นเต้นทีเดียว มองเห็นลิงแม่ลูกอ่อนหลายตัวที่มีลูกเกาะแน่น เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว

 

            จากนั้นนั่งเรือต่อผ่านเขตชายเลน ชาวบ้านจะออกมาถีบกระดานหาหอยแครง ซึ่งในวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวมาถีบกระดานเลนกันมากมาย นักท่องเที่ยวยังสามารถปลูกป่าได้ตามแนวป่า แต่ก็ต้องย่ำโคลนกันเล็กน้อย จากนั่นเรือจะแล่นต่อไปในทะเล ผ่านแนวเสา ซึ่งเราจะมองเห็นนกเกาะเรียงแทบทุกเสาเลยทีเดียว และยังผ่านกลุ่มชาวประมงที่กำลังหากุ้งที่นำมาเป็นเคย ก่อนจะแปรรูปสู่กะปิคลองโคน สินค้าชื่อดังของที่นี่ 

            นั่งเรือไม่นานก็มาถึง “กระเตง” ซึ่งเป็นกระท่อมพักหรือขนำกลางทะเล ที่ชาวบ้านสร้างขึ้นอย่างง่ายๆไว้เฝ้าฟาร์มหอย เราจะมองเห็นกระเตงหลายแห่งเป็นหย่อมๆอยู่กลางทะเล ปัจจุบันกระเตงหลายแห่งได้ปรับปรุงเป็นที่พักและทานอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว มีทั้งแบบกระเตงที่เป็นเฉพาะที่แวะพักทานอาหารชมวิว และกระเตงสำหรับพัก บางแห่งก็มีห้องนอนและมีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน สำหรับการพักอาศัย กระเตง 1 หลัง สามารถจุคนได้ราว 15 คน จากกระเตงเมื่อมองออกไปจะเห็น ทิวทัศน์ของท้องทะเลและผืนป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยเสียงคลื่นและลมเย็นๆที่พัดโชยมาตลอด เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติ

 

อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยแม้คลื่นลมจะไม่แรง ที่พักในกระเตงนักท่องเที่ยวก็เหมาะจะพักเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม ถ้าเป็นช่วงอื่นไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องการอาบน้ำที่จะไม่สะดวกเหมือนพักบนฝั่ง นักท่องเที่ยวยังสามารถตกปลาบนกระเตงได้อีกด้วย หรือไม่ก็ขึ้นไปพักโฮมสเตย์บนฝั่งที่มีหลายแห่งชาวบ้านสร้างไว้อย่างสะอาด และราคาไม่แพง

 ผู้สนใจไปเที่ยวกระเตงนั้น เจ้าของกระเตงแต่ละที่เขาก็จะจัดเป็นแพคเกจพร้อมอาหาร 3 มื้อ และกิจกรรมตลอดวันให้เลย สำหรับกระเตงขนาดใหญ่รับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 100 คน

 

ขอบอกว่าทริปนี้ตื่นเต้นที่สุดกับการขึ้นลงกระเตง ซึ่งจะเป็นราวไม้ให้ปีนขึ้นและลง ซึ่งค่อนข้างสูงทีเดียว (ขึ้นกับระดับน้ำทะเลด้วย) แต่ทั้งหมดก็ปลอดภัยดี แม้จะมีผู้ใหญ่ในทริปด้วยก็ตาม

 

กระเตงกลางทะเลกำลังมีการขยายเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น เช่นของผู้ใหญ่ชงค์เองที่เราได้ไปเยี่ยมโฮมสเตย์กลางทะเล ก็กำลังขยายพื้นที่และความแข็งแรงของกระเตง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับกิจกรรมดีๆ ซึ่งมีมากมายของที่นี่ และเน้นความเป็นธรรมชาติ เที่ยวแบบมีประโยชน์ได้ทั้งความสนุกสาระความรู้ และความรู้สึกดีๆ ที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ

            หากมาเที่ยวคลองโคนโดยไม่แวะค้างคืน ขอให้แนะนำลองเที่ยวโปรแกรมมาเช้ากลับเย็น 1 วัน มันส์สุดขีด ซึ่งจะเริ่มต้นในเวลา 10.00 น. เมื่อเดินทางถึงศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน รับฟังการบรรยายให้ความรู้เรื่องป่าชายเลน และโปรแกรมท่องเที่ยวโดยชุมชน จากนั้นเดินทางออกจากศูนย์โดยการล่องเรือเพื่อชมระบบนิเวศน์ป่าชายเลน แวะให้อาหารลิงแสม ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชมการถีบกระดานเลนเก็บหอยแครง ล้อมกล่ำปลาดุกทะเล และรอเคยเพื่อทำกะปิคลองโคน ก่อนรับประทานอาหารทะเลแบบพื้นบ้านขึ้นชื่อของชาวสมุทรสงครามบนกระเตงกลางทะเล

 

เมนูเด็ดของที่นี่คือปลากะพงทอดกรอบราดซีอิ้ว ต้มส้มปลากระบอก น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ใบชะครามราดกะทิ อาหารซีฟู้ดปิ้งย่าง ชิมกุ้งแชบ๊วยสดๆ ปลาหมึก หอยแครง หรือจะแวะซื้ออาหารทะเลแถบนี้ ขอบอกว่าถูกและสดมาก

 

ช่วงบ่ายนักท่องเที่ยวจะสามารถล่องเรือชมฟาร์มหอยนางรมและหอยแมลงภู่ การเล่นกระดานลื่นไปตามโคลนหรือที่เรียกว่าแถกเรือ ร่วมปลูกป่าชายเลน เล่นสกีกระดานเลน ซึ่งแนะนำให้เตรียมเสื้อแขนยาว ครีมกันแดด หมวกไปให้พร้อม ก่อนเดินทางเข้าสู่ฝั่งแบบเลอะเทอะบ้าง แล้วไปอาบน้ำบนฝั่ง

 

            ทริปคลองโคนจบไปแล้ว แต่ยังนึกถึงและอยากกลับไปเที่ยวอีกหลายๆครั้ง

 

 

 

ล้อม

 

การเดินทางไปคลองโคน เส้นทางถนนพระราม 2 มุ่งสู่เพชรบุรี เมื่อลงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ผ่านไปเรื่อยๆให้สังเกตปั้มน้ำมันปตท. ทางเข้าคลองโคนจะติดกับปั้ม และเป็นเส้นทางลัดสู่เพชรบุรีย่นระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร

 

ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0-3475-2847-8

 

อีเมล์ tatsmsk@tat.or.th หรือ Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย

 

ผู้ใหญ่ชงค์ รัตนพงศ์ธระ โทร 0-3473-1188 , 08-6177-7942  โปรแกรม 1 วันมันส์สุดขีด 700 บาท(จองล่วงหน้า)

 

 

 

Create Date :01 สิงหาคม 2558 Last Update :1 สิงหาคม 2558 18:33:28 น. Counter : 3091 Pageviews. Comments :1