bloggang.com mainmenu search

                   

  ว้าว เรียกได้ว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทำให้เราตื่นตะลึงกันเลยทีเดียว ทะเลหมอกสุดอลังการ ปุยนุ่นสีขาวก้อนมหึมา ปกคลุมไปทั่วทั้งขุนเขา เราอยู่บนสวรรค์กันหรือไร

             นี่ไม่ใช่ภาคเหนือ แต่คือทะเลหมอกที่ “พะเนินทุ่ง” เพชรบุรี ที่ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นทะเลหมอกที่มีทั้งปีตลอด 365 วัน

 

           นักท่องเที่ยวอาจตั้งต้นเดินทางจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งต้องพักค้างคืนที่นั่น เพื่อรอเดินทางขึ้นพะเนินทุ่งในเช้าวันรุ่งขึ้น หรือจะมาเองก็ตาม

 

          

          

  ทั้งนี้จะต้องไปตั้งต้นที่บ้านกร่างแคมป์เพื่อรอรถขึ้นพะเนินทุ่ง ควรจะใช้รถ 4WD เท่านั้น เพราะถนนเป็นสภาพธรรมชาติที่ไม่มีการราดยาง ทางจะค่อนข้างขุรขระ หรือจะใช้รถกระบะของอุทยานก็สะดวกดี แล้วทิ้งรถไว้ที่บ้านกร่างแคมป์ ขอแนะนำให้ใช้รถของอุทยานดีกว่าค่ะ เพราะถนนชันในบางช่วง ต้องใช้ความชำนาญในการขับขี่สูง

          ที่สำคัญเขามีเวลารถขึ้นลงด้วยนะคะ เพราะบางช่วงทางแคบไม่สามารถสวนกันได้ เวลาขึ้นคือ 05.30- 07.30 น.และ 13.00 – 15.00 น. ส่วนเวลาลงคือ 09.00 – 10.00 น.และ 16.00 – 17.00 น.ต้องอยู่ภายในเวลาที่อุทยานฯกำหนดไว้นี้เท่านั้นนะคะ

 

 

   ปีนี้ได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง ให้ไปเที่ยวชม ซึ่งตัวเองก็เคยขึ้นไปชมเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็อยากไปอีกครั้ง เพราะนี่คือหนึ่งใน10แห่งของ Dream Destinations จากทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยว จุดหมายในฝันกันเลยทีเดียว

          

 

            

  เราร่วมทริปกับผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่านของททท.คือคุณสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ททท.และคุณอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานเพชรบุรี (รับผิดชอบเพชรบุรี-ราชบุรี) ขึ้นไปนอนค้างบนยอดเขาพะเนินทุ่งซึ่งมีบ้านพักอย่างดีของอุทยานในคืนวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดวันแรกของทะเลหมอกพะเนินทุ่งในเช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อเก็บบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปชมวันแรก (อุทยานปิดพักฟื้นธรรมชาติ 3 เดือนช่วงกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี)

           เมื่อไปถึงบ้านกร่างแคมป์ เราใช้รถกระบะโฟล์วิลของอุทยาน ขับผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และลัดเลาะไปตามเส้นทางที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติตลอด 2 ข้างทาง ชมผีเสื้อมากมาย เห็นขี้ช้างด้วยค่ะ อิอิ รถกระแทกกระทั้นเล็กน้อยตามสภาพทาง แต่ก็ได้บรรยากาศธรรมชาติดี ดีกว่าสร้างถนนราดยางขึ้นไป

 

          เย็นวันแรกที่ไปถึงเราเก็บบรรยากาศพานอรามาของวิวรอบๆพะเนินทุ่ง ซึ่งมีทิวเขาลดหลั่นสลับซับซ้อนสวยงามมาก ชมท้องฟ้าสีแดงอร่ามยามพระอาทิตย์ใกล้ตก หลายคนยังถ่ายภาพเก็บบรรยากาศดวงดาวรอบๆที่พักในยามดึกด้วย ได้ยินเสียงสัตว์บางอย่างร้อง เช่น ชะนี ที่นี่มีสัตว์ป่านานาชนิดๆ เช่น ค่างแว่นถิ่นใต้ กวาง นกเงือก ฯลฯ

 

 

รอบๆที่พักยังมีมอสและเฟิร์น ขึ้นอยู่โดยรอบ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 230 กม.ก็ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ ไม่ต้องขึ้นเหนือเลยค่ะ

 

เช้าวันต่อมาเราตื่นแต่เช้า เพื่อไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกเขาพะเนินทุ่ง กม.30 และ กม.36  ชมมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ถูกซ่อนเอาไว้ท่ามกลางเทือกเขาตะนาวศรี กับทะเลหมอกสีขาวโพลนลอยปกคลุมอยู่เหนือยอดเขา พร้อมกับลมหนาวที่พัดเข้ามา อากาศที่แสนบริสุทธิ์ มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาวันเปิดวันแรกมากมายทีเดียว

 

ว่ากันว่าที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี เพราะที่นี่เป็นจุดกึ่งกลางของ 2 ฟากฝั่งทะเลไทย ทำให้ลมจากทะเล 2 ด้านมาปะทะกันตรงนี้ และเกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้น ประกอบกับแถวนี้มีป่าทึบและภูเขามากมาย มีความชื้นสูง ทะเลหมอกจะมีตลอดทั้งปีเพียงแต่จะมากหรือน้อย อีกอย่างเขาเรียกว่าภูลวงตา เพราะภูเขามากมายที่มองเห็น จะไม่สามารถจดจำได้ว่าเป็นลูกไหน ด้วยทะเลหมอกที่พัดเปลี่ยนทิศทางตลอดเวลา

และอยู่ดีๆ เราก็เห็นหมอกพร้อมใจกันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นสายยาว แปลกมากทีเดียว สักพักก็ลงมารวมตัวกันเหมือนเดิม

เมื่อหมอกเริ่มกระจายออก เราก็จะเห็นยอดต้นไม้โผล่พ้นหมอกขึ้นมาเป็นหย่อมๆ  สวยจนทำให้ลืมโลกไปเลย

 

คุณสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ภูมิภาคภาคกลาง ททท.เล่าให้ฟังว่า จุดขายของพะเนินทุ่งคือ Dream Destinationจุดหมายในฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาชม ซึ่งภาคกลางมีอีกแห่งคือสะพานเมฆ เขาช้างเผือก กาญจนบุรี ซึ่งยังสามารถมาเที่ยวหน้าหนาว นอนนับดาว ดูทะเลหมอก ชมสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ซึ่งนอกจากการมาพักบนอุทยานแห่งชาติแล้ว ยังสามารถพักที่หัวหิน ชะอำ ซึ่งมีสถานที่ให้เที่ยวมากมาย และอากาศดีมาก มีทะเลหมอกสวยๆไม่แพ้ภาคเหนือ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาชมกัน

 

การเดินทาง   จากกรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ผ่าน จ.สมุทรสงคราม – สมุทรสาคร ถึง แยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี ถึงสามแยกท่ายาง (กม.183-184) เลี้ยวเข้าถนน 3187 ผ่าน อ.ท่ายางและเลียบคลองชลประทาน ระยะทางประมาณ 7 กม. ถึงเขื่อนเพชรใช้เส้นทาง 3499 ระยะทางประมาณ 30 กม. ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงบ้านกร่างแคมป์ ระยะทาง 35 กม. และ ต่อไปอีก 15 กม.ถึงเขาพะเนินทุ่ง

 

        

 

 เรื่องน่ารู้ 1 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้กำหนดปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ตั้งแต่บริเวณด่านสามยอด – บ้านกร่างแคมป์ – เขาพะเนินทุ่ง ในวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม และจะเปิดอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกปี 2 ติดต่อเช่ารถขึ้นเขาพะเนินทุ่ง หรือจองเต๊นท์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 032-459293 3สอบถามข้อมูลโรงแรม/ที่พัก นอกที่ทำการอุทยานที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร.032-471005-6 ติดตามเรื่องราวการเดินทางได้ที่  facebook/travelista

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Create Date :03 พฤศจิกายน 2558 Last Update :4 พฤศจิกายน 2558 7:30:17 น. Counter : 3837 Pageviews. Comments :4