bloggang.com mainmenu search
.





ภิกษุ ท. !
เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว, เทวบุตรชื่อ โรหิตัสส์ มีวรรณะอย่างยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างอยู่, ได้เข้ามาหาเราถึงที่อาศัย ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ข้างหนึ่ง. ได้กล่าวกะเราว่า

"พระองค์ ! ในที่สุดโลกแห่งใด ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น ใคร ๆ อาจ เพื่อจะรู้ จะเห็น จะถึงที่สุดโลกแห่งนั้น ด้วยการไป ได้หรือไม่ ?"

ภิกษุ ท. !
เทวบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว, เราได้ตอบว่า

"แน่ะเธอ !
ที่สุดโลก ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น เรากล่าวว่า ใครๆ ไม่อาจรู้ ไม่อาจเห็น ไม่อาจถึงที่สุดโลกนั้น ด้วยการไปได้เลย".

ภิกษุ ท. !
เรากล่าวดังนี้แล้ว เทวบุตรนั้นได้กล่าวสืบไปว่า

"พระองค์ !
อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย คือคำที่พระองค์ตรัสนี้.

ข้าแต่พระองค์ !
ในกาลก่อนข้าพระองค์เป็นฤาษีชื่อโรหิตัสส์ ผู้โภชบุตร มีฤทธิ์ไปได้โดยอากาศ. ความรวดเร็วของข้าพระองค์ เช่นเดียวกับลูกธนูของอาจารย์ผู้คล่องแคล่วลือชาในการยิงธนูขนาดหนัก สามารถยิงถูกขนทรายได้ในระยะอุสุภหนึ่ง ที่ยิงตลอดเงาแห่งตาลโดยขวาง ด้วยลูกศรอันเบาปลิวฉะนั้น. การก้าวเท้าของข้าพระองค์ (ก้าวหนึ่งมีระยะไกล) ประมาณเท่า จากสมุทรฟากตะวันออก ถึงสมุทรฟากตะวันตก.

(บาลี = ติริยํ ตาลจฺฉายํ, น่าจะเป็นเงาต้นตาลตามพื้นดิน?)

ข้าแต่พระองค์ !
เมื่อประกอบด้วยความรวดเร็ว และการก้าวไกลถึงเช่นนี้ ข้าพระองค์เกิดความปรารถนาว่า เราจักถึงที่สุดโลก ด้วยการไปให้จงได้.

ข้าพระองค์จึงงดการบริโภค การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม งดการถ่ายอุจจาระปัสสาวะงดการหลับ อันเป็นเครื่องบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเสีย, มีอายุ มีชีวิต ๑๐๐ ปี ก็เดินทางทั้ง ๑๐๐ ปี, ยังไม่ถึงที่สุดแห่งโลกเลย ได้ตายเสียในระหว่าง.

ข้าแต่พระองค์ !
อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย, คือคำที่พระองค์ตรัสว่า

"เรากล่าวว่า ใคร ๆ ไม่อาจรู้ อาจเห็น อาจถึงที่สุดโลก ด้วยการไป ได้เลย," ดังนี้

ภิกษุ ท. !
เราได้กล่าวกะเทวบุตรนั้นว่า

"แน่ะเธอ ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิดไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ, เราไม่กล่าวการรู้ การเห็น การถึงที่สุดโลกนั้น เพราะการไป.

แน่ะเธอ !
ในร่างกายที่ยาววาหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสัญญา และใจนี่เอง เราได้บัญญัติโลก, เหตุเกิดของโลก, ความดับไม่มีเหลือของโลก และทางให้ถึงความดับไม่มีเหลือของโลกไว้" ดังนี้.

(หมายเหตุ จขบ

"โลก" ที่พระพุทธองค์บัญญัตินี้ คือขันธ์ 5 นั่นเอง .. และไม่ใช่"โอกาสโลก"อย่างที่บรรยายในไตรภูมิพระร่วงแต่อย่างใด

และโลกในร่างกายนี้ .. ย่อมมีแต่ปัจจุบันเท่านั้น .. ไม่มีโลกในอดีตหรือโลกในอนาคต .. และโลกในกายนี้เองที่เป็นไปตามไตรลักษณ์ คือ เป็นทุกข์ เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นตัวตนอะไร

สิ่งที่พระพุทธองค์ไม่พูดถึง .. แปลว่าไม่มีประโยชน์ต่อการดับทุกข์ .. จะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องหยิบยกมาคิด พิจารณา )
.
.
.
บาลี ปฐมปัณณาสก์ จตฺก. อํ. ๒๑/๖๒/๔๖.
เล่าแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่ทรงสนทนา
Create Date :01 ธันวาคม 2555 Last Update :1 ธันวาคม 2555 5:22:42 น. Counter : 1111 Pageviews. Comments :0