ทำก๋ากั่น"เคี้ยว"หมากฝรั่ง ระวังเจอตีนกาเป็นของแถม (ไทยโพสต์)
ภาพของสาว ๆ ที่เคี้ยวหมากฝรั่งจั๊บ ๆ
เสร็จแล้วก็เป่าลูกโป่งโชว์ทักษะความสามารถในการใช้ชิวหา
ถ้าถามคนเฒ่าคนแก่หรือพ่อแม่พี่น้องแล้วเชื่อว่า
ส่วนใหญ่จะส่ายหน้าเพราะเห็นเป็นวัฒนธรรมก๋ากั่นที่ไม่เหมาะสม
แต่สำหรับเด็กวัยรุ่นแล้ว พวกเขาจะคิดทันทีว่า
คนที่บ่นหรือห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งในที่สาธารณะหรือที่ไหน ๆ ก็ตามแต่นั้น
"น่าเบื่อ" มาก วันนี้
คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองอาจจะมีเหตุผลใหม่นำไปอธิบายหรือหว่านล้อมให้เด็ก ๆ
โดยเฉพาะลูกสาว ละ เลิกการเคี้ยวหมากฝรั่งที่ได้ผลกว่าเก่าแล้ว
เพราะมีข่าวจากสหรัฐอเมริการะบุว่า
การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำจะส่งผลกระทบทำให้เกิดรอยตีนกาบนใบหน้า
และรอยย่นรอบปากที่ดูไม่น่ารักสุด ๆ
ดร.โจ
เอล ชเกลซิงเกอร์ คุณหมอด้านศัลยกรรมในโอมาฮา เปิดเผยว่า
เขาสังเกตลูกค้าหรือคนไข้ที่มา "ยกกระชับ" หน้า
ส่วนใหญ่มีนิสัยชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นชีวิตจิตใจ และสาวๆ
เหล่านี้มีรอยย่นที่ชัดเจนบริเวณรอบริมฝีปาก ดังนั้นเขาแนะนำว่า
การเคี้ยวหมากฝรั่งติดต่อกันตั้งแต่ 5-20 นาทีทุกวัน
จะเป็นอันตรายต่อความสวยงามและความเต่งตึงบนใบหน้าอย่างยิ่ง
"ผม
ไม่พูดถึงคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งเป็นบางโอกาส หรือเคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปาก
แต่ผมพูดถึงคนที่ตื่นก็ต้องมีหมากฝรั่งในปาก
และเคี้ยวตลอดเวลาไม่ว่าสถานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม
ระวังนะครับว่าจะต้องเสียสตางค์เพื่อรักษาความเหี่ยวย่นหรือตีนกามากกว่าคน
ปกติทั่วไป" ดร.โจเอลกล่าว
อย่าง
ไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนหนึ่ง
ออกมาคัดค้านแนวคิดเกี่ยวกับโทษของหมากฝรั่งต่อความสวยความงามว่า
หากเปรียบเทียบแล้วหมากฝรั่งจะมีประโยชน์สำหรับหลายคนทีเดียว เช่น
ทำให้ลมหายใจสะอาด ทำให้สุขภาพปากดีเพราะช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟัน
ช่วยคนที่กำลังลดความอ้วนให้กินอาหารน้อยลง ช่วยลดความตื่นเต้น
และช่วยให้เกิดสมาธิสำหรับนักกีฬา เป็นต้น
สรุปว่า อะไรมากไปก็ไม่ดี เคี้ยวหมากฝรั่งบางโอกาสโอเค แต่ถ้าเคี้ยวแบบสาวก๋ากั่นอยากโชว์ความเก๋าล่ะก็ เตรียมแก่ก่อนวัยได้เลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก