CoQ10 วิตามินเพิ่มพลังงานแถมดูแลหัวใจอีกด้วยนะ CoQ10 เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มพลังงาน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ผู้สูงอายุหรือคนที่เหนื่อยง่าย จะเห็นได้ชัดเจนว่า กิน Q10 แล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงานเพิ่มขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย เหมือนย้อนวัยได้เป็น 10 ปี แต่ในคนที่สุขภาพดี อายุยังน้อย กิน Q10 ไม่ค่อยเกิดประโยชน์เท่าไหร่นะคะ อย่างสามีแป้งอายุ 54 ปี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เคยให้กิน Q10 300 mg ต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน แกบอกว่า รู้สึกเฉยๆ แป้งเลยงดวิตามินไป แต่ช่วงปลายปี 2565 บ่นเหนื่อย ลองให้กิน Q10 อีกครั้ง ผลปรากฏว่า มีเรี่ยวแรงมากขึ้น ไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนเมื่อก่อน Coenzyme Q10 หรือเรียกว่า CoQ10 เป็นสารประกอบที่ช่วยสร้างพลังงานในเซลล์ของมนุษย์ จ่ายพลังงานให้กับเซลล์ ขนส่งอิเล็กตรอน และควบคุมระดับความดันโลหิต บทบาทสำคัญอื่นๆ ของ CoQ10 คือ การทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดขึ้นในร่างกาย เรียกว่า กระบวนการเมตาบอลิซึม( Metabolism )CoQ10 เป็นสารที่พบได้ทั่วร่างกาย พบมากในหัวใจ ตับ ไต และตับอ่อน ถูกเก็บไว้ในไมโตคอนเดรียของเซลล์เรียกว่า "โรงไฟฟ้า" ของเซลล์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม CoQ10 จึงเกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานร่างกายสามารถผลิต CoQ10 ได้ตามธรรมชาติ แต่การผลิตมีแนวโน้มลดลงตามอายุ เมื่อเราอายุล่วงเลยไปประมาณ 40 ปี CoQ10 สารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เป็นเวลาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นใช้สำหรับการรักษาโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ อายุรแพทย์โรคหัวใจมักจ่ายอาหารเสริม CoQ10 ให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจทุกรายอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งอาจรบกวนการทำงานของเซลล์ตามปกติ นานวันเข้าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯมีประโยชน์อย่างไร1. อาจช่วยรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวภาวะหัวใจล้มเหลวมักเป็นผลจากภาวะหัวใจอื่นๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเพิ่มขึ้น การอักเสบของหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า CoQ10 สามารถเพิ่มประสิทธิผลในการรักษาผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวได้ การทบทวนการศึกษา 14 ชิ้นอีกครั้ง พบว่า ผู้มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร CoQ10 มีอัตราการเสี่ยงชีวิตลดลงและเพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานยาหลอก2. สามารถช่วยเรื่องการเจริญพันธุ์ภาวะเจริญพันธุ์ของเพศหญิงจะลดลงตามอายุ เนื่องจากปริมาณการผลิตและคุณภาพของไข่ที่มีอยู่น้อยลงCoQ10 เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการนี้ เมื่ออายุมากขึ้น การผลิต CoQ10 จะน้อยลง ร่างกายจึงมีประสิทธิภาพในการปกป้องไข่จากอนุมูลอิสระลดลงในทำนองเดียวกัน สเปิร์มของผู้ชายไวต่อความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนสเปิร์มลดลง คุณภาพของสเปิร์มไม่ดี และเกิดภาวะมีบุตรยากงานวิจัยหลายชิ้นสรุปว่า การเสริม CoQ10 อาจช่วยเรื่องคุณภาพของไข่และสเปิร์มให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น3.อาจช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรงจากการศึกษาหนึ่งในปี 2558 การใช้ CoQ10 กับผิวหนังโดยตรงอาจลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระทั้งภายในและภายนอก โดยเพิ่มการผลิตพลังงานในเซลล์ผิวเมื่อใช้ CoQ10 กับผิวหนังโดยตรง อาจช่วยลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดจากรังสี UV และช่วยลดความลึกของริ้วรอย ป้องกันความเสียหายต่อผิวหนัง ซึ่งอาจช่วยชะลอวัยของผิวให้แข็งแรง ตามการศึกษาของมนุษย์และการทดลองในสัตว์ 4. สามารถลดอาการปวดศรีษะการทำงานของไมโตคอนเดรียที่ผิดปกติ ทำให้เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากเซลล์และการผลิตอนุมูลอิสระที่มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เซลล์สมองมีพลังงานต่ำและอาจทำให้เกิดไมเกรนได้การศึกษาขนาดเล็กอีกชิ้นหนึ่งในกลุ่มตัวอย่าง 80 คน พบว่า ผู้ที่รับประทาน CoQ10 100 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลทำให้ความถี่ ความรุนแรง และระยะเวลาของการเป็นไมเกรนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ การศึกษาหนึ่งในปี 2560 แสดงให้เห็นว่า CoQ10 อาจช่วยลดความถี่ของอาการปวดศีรษะ ทำให้อาการปวดสั้นลงและรุนแรงน้อยลง 5.สามารถช่วยในการออกกำลังกายความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันอาจส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ และส่งผลต่อประสิทธิภาพการออกกำลังกายยิ่งไปกว่านั้น การเสริม CoQ10 อาจช่วยลดความเหนื่อยล้า ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายได้ด้วย6. อาจช่วยเรื่องเบาหวานการทบทวนหนึ่งจากการศึกษา 13 ชิ้น แสดงให้เห็นว่า CoQ10 สามารถลดน้ำตาลในเลือดและระดับฮีโมโกลบิน A1c (HbA1c) ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดทุก 3 เดือนในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 7.ช่วยลดผลข้างเคียงของยากลุ่มสแตติน(Statin)เป็นยาที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล มีผลช่วยป้องกันภาวะหัวใจวาย แต่ผลข้างเคียงคือ ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อและอ่อนแรง ซึ่งมักเกิดในเพศหญิง งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่า CoQ10 อาจลดผลข้างเคียงเหล่านี้ได้การทบทวนในปี 2018 พบว่าการเสริม CoQ10 ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ตะคริว และความล้าของกล้ามเนื้อที่เกิดจากยากลุ่ม statinCoQ10 มีอยู่ 2 รูปแบบคือ ยูบิควินอล(Ubiquinol) และ ยูบิควิโนน(Ubiquinone)Ubiquinol คิดเป็น 90% ของ CoQ10 ในเลือดและเป็นรูปแบบที่ดูดซึมได้มากที่สุด ดังนั้นควรเลือกอาหารเสริมที่มีรูปแบบยูบิควินอล(Ubiquinol)ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร CoQ10 มีจำหน่ายในขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 30- 600 มก.มีการใช้ปริมาณ 100–400 มก. ต่อวันในการศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจ ในขณะที่ปริมาณตั้งแต่ 600–3,000 มก. ถูกใช้เพื่อรักษาความผิดปกติของระบบประสาท เนื่องจาก CoQ10 เป็นสารประกอบที่ละลายในไขมัน การดูดซึมจึงช้าและจำกัด การเสริม CoQ10 พร้อมอาหารสามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าQ10 พบมากในอาหารหลายประเภท ดังนี้เครื่องในสัตว์: หัวใจ ตับ และไตเนื้อติดมันบางส่วน: เนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ปลาที่มีไขมัน: ปลาเทราต์ ปลาเฮอริ่ง ปลาแมกเคอเรล และปลาซาร์ดีนพืชตระกูลถั่ว: ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล และถั่วลิสงถั่วและเมล็ดพืช: เมล็ดงาและถั่วพิสตาชิโอน้ำมัน: น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันคาโนลาผลไม้ ผัก ผลิตภัณฑ์นม และซีเรียลบางประเภทก็มี CoQ10 เช่นกัน แม้ว่าในปริมาณที่น้อยกว่ามาก การเสริมด้วย CoQ10 สามารถใช้ได้ในปริมาณสูงถึง 1,200 มก.ต่อวันผลข้างเคียงอาจมีอาการนอนไม่หลับ(ในกรณีที่กินในมื้อเย็น)หรืออาหารไม่ย่อย เสียดท้อง ปวดท้องหรือท้องไส้ปั่นป่วนหมายเหตุ ไม่ควรใช้ยานี้หากกำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น Warfarin (Jantoven) และยารักษามะเร็งบางชนิดที่มา : www . healthline . com/nutrition/coenzyme-q10www . medicalnewstoday . com/articles/327209draxe . com/nutrition/all-about-coq10/ Create Date :28 กุมภาพันธ์ 2566 Last Update :28 กุมภาพันธ์ 2566 18:40:55 น. Counter : 464 Pageviews. Comments :0 twitter google