bloggang.com mainmenu search



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก luangpunenkham.com

ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว สวมแว่นตาดำราคาแพง ใช้ไอโฟน และถือกระเป๋าแบรนด์เนม จนทำให้ทุกคนต่างอยากรู้ ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

หลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าว หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว สวมแว่นตาดำราคาแพง ใช้ไอโฟน และถือกระเป๋าแบรนด์เนม แถมพระเณรที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น ก็ล้วนแต่มีของใช้ราคาแพง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายในสังคมว่าการกระทำเช่นนี้ ถือว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ และที่สำคัญ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก คือใครกันแน่

          และเพื่อให้ทุกคนได้คลายข้อสงสัย วันนี้ กระปุกดอทคอม ขอนำประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก พระชื่อดังแห่งวัดป่าขันติธรรม มาฝากกัน โดย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เริ่มปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิ เดินจงกรม นอนในป่าช้า มาตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ และเมื่ออายุครบ 15 ปี หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เดินทางจาริกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดป่าดอนธาตุ จ.อุบลราชธานี โดยได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนา ว่า "ฉัตติโก"  หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมายัง วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ
ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

  หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก มีนามเดิมว่า "วิรพล สุขผล" เกิดที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2522 ทั้งนี้  หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้ง 5 คน ของนายรัตน์ สุขผล และนางสุดใจ สุขผล เมื่อ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฉัตติโก" หรือ "พระอาจารย์ วิรพล ฉัตติโก"

  สำหรับเส้นทางในการเข้าสู่ทางธรรมนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้เริ่มปฏิบัติตามแนวทางคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ครั้งที่ยังอายุ 6 ขวบ ด้วยการปฏิบัติจิต บำเพ็ญภาวนากรรมฐานมาโดยตลอด และเมื่อถึงช่วงวันพระ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จะหยุดเรียน และนุ่งขาวห่มขาวเข้าไปถือศีลบำเพ็ญภาวนาในวัด ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ รวมทั้งยังเดินจงกรมสลับกับการนั่งภาวนาใต้ร่มไทร นอกจากนี้ ในช่วงกลางวัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จะไปนอนในป่าช้า เพื่อฝึกจิตให้ตั้งมั่น ซึ่งผลจากการปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย เป็นเหมือนการบอกถึงความจริงในการบำเพ็ญบารมีของแต่ละคนว่า "แม้เราบำเพ็ญในชาตินี้หรือว่าชาติไหน ๆ ผลของการปฏิบัติบำเพ็ญนั้นมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่เสื่อมไปไหน"

          และในขณะที่ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็คิดอยู่เสมอว่า "ถ้าเสร็จจากภารกิจทางโลกแล้ว เราจะไม่กลับมาทางโลกอีก เราคงเคยเกิดมาหลายชาติแล้ว เราคงพอแก่การเกิดได้แล้วในชาตินี้ เห็นอะไรก็เกิดความสลดสังเวชไปหมด จึงเป็นแนวทางทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า เรารู้มาก่อน เห็นมาก่อน ตั้งแต่อดีตชาติ เหมือนกับเราจะได้ต่อเติมเส้นทางแห่งการปฏิบัติธรรมการบำเพ็ญเพียรเพื่อให้ หลุดพ้น"

ด้วยความคิดเช่นนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จึงได้หมั่นปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น โดยหลังเลิกเรียนของทุก ๆ วัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้ไปปักกลด นั่งบำเพ็ญภาวนาที่อยู่ที่กระต๊อบกลางน้ำ ที่ปลายนาของโยมพ่อโยมแม่ทุกวัน วันพระจะถือกลดไปโรงเรียนด้วย พอเลิกเรียนจะเข้าไปปักกลดบำเพ็ญภาวนาที่วัด บางครั้งก็ไปปักกลดนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่กระต๊อบกลางน้ำที่ปลายนาของโยมพ่อโยมแม่ทั้งคืนจนสว่าง ปฏิบัติเช่นนี้เป็นกิจวัตร

    จนกระทั่งเมื่อ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก อายุได้ 15 ปี ก็ได้ออกบวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยมีท่านหลวงปู่โชติ อาภัคโค เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งหลังจากบรรพชา หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ระยะหนึ่ง ซึ่งได้รับการอบรมธรรมะจากพระเดชพระคุณท่าน หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก อย่างนานัปการ
จากนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกเดินทางจาริกธุดงค์ ปักกลดอยู่ถ้ำภูตึก บ้านคุ้มปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยในขณะที่นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำภูตึกนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เนื่องจากมีงูเหลือมตัวหนึ่งได้เลื้อยมาพาดขา พาดตัก บางคืนนอนอยู่ที่ตัวของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และในบางครั้ง งูเหลือมจะเลื้อยมาขดอยู่บนหน้าอกของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แต่ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็มิได้หวาดหวั่นต่ออันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำภูตึกเป็นเวลา 3 เดือน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้เริ่มออกจาริกธุดงค์ เพื่อทำการเผยแผ่หลักธรรมคำสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

  ซึ่งระหว่างที่ออกธุดงค์นั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ที่วัดอรัญบรรพต ต่อจากนั้นไปที่วัดหินหมากเป้ง เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งท่านได้ให้ธรรมะชั้นสูง จากนั้นเดินทางด้วยเท้าเปล่าไปถึง เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี แล้วกลับมาที่วัดป่าดอนธาตุ เพื่อเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 โดย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฉัตติโก" หรือ "พระอาจารย์ วิรพล ฉัตติโก" ซึ่งเป็นอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกเดินทางมายัง จ.ศรีสะเกษ

       โดยปัจจุบัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก มีตำแหน่งเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และยังเป็นผู้เขียนหนังสือ "ชาติหน้าไม่ขอเกิด" และ "นิพพานมีจริง" อีกด้วย ส่วนเหตุที่เรียกตัวเองว่า "หลวงปู่" เพราะเป็นการรวมอายุในชาติที่แล้วกับชาตินี้นั่นเอง



//fb.kapook.com/hilight-87427.html
Create Date :19 มิถุนายน 2556 Last Update :19 มิถุนายน 2556 22:52:43 น. Counter : 3210 Pageviews. Comments :0