bloggang.com mainmenu search

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักรบโบราณที่มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้มากที่สุด ดาบคาตานะอาวุธประจำกายของซามูไรก็ได้รับการพิสูจน์จากโลกสมัยใหม่แล้วว่าเป็นดาบที่คมที่สุดในโลก และบุรุษผู้ซึ่งชาวญี่ปุ่นยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งซามูไรนั้นมีนามว่า "มิยาโมโตะ มุซาชิ"


ซามูไร แปลว่านักรบ แต่อีกความหมายหนึ่งของซามูไรคือ คนรับใช้ ซึ่งบ่งบอกถึงการมีนายเหนือหัว ซามูไรที่ปราศจากนายเรียกว่า โรนิน "มุซาชิ" ถูกจัดว่าเป็นซามูไรประเภทนี้ เขาเกิดในช่วงปี พ.ศ.2127ที่เมืองฮะริมะ ในครอบครัวซามูไร มีบิดาเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาดาบและการต่อสู้ให้ เขาสังหารคนครั้งแรกขณะที่มีอายุเพียง14 ปี และหลังจากที่บิดาของเขาได้เสียชีวิตลงเขาตัดสินใจสมัครเข้าเป็นทหารร่วมรบในสงครามเซกิงาฮาร่า(สมรภูมิที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่าเป็นสมรภูมิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สงครามโบราณของญี่ปุ่น)เพื่อแสวงหาโอกาสและชื่อเสียงเฉกเช่นชายหนุ่มคนอื่นๆในสมัยนั้น

หลังสงครามสงบมีโรนิน(ซามูไรพเนจร) เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก มุซาชิก็เป็นหนึ่งในนั้น ซามูไรเหล่านี้มีวิถีชีวิตที่ลำบาก ยากไร้ อดมื้อกินมื้อ การต่อสู้จึงเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับคนเหล่านี้เพื่อหวังว่าจะมีไดเมียวหรือเศรษฐีผู้มั่งคั่งมาจ้างตนให้ไปเป็นองครักษ์

มุซาชิในวัยหนุ่มนั้นเรียกได้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อการฆ่าเท่านั้น ผ่านการดวลตัวต่อตัวมานับครั้งไม่ถ้วนที่สำคัญตลอดชีวิตการเป็นซามูไรของเขานั้นไม่เคยแพ้ในการต่อสู้เลยสักครั้งเดียว ครั้งหนึ่งมุซาชิเคยสังหารเจ้าสำนักโยชิโอกะตาย3คนและได้ฆ่าลูกศิษย์ของสำนักโยชิโอกะที่ตามมาล้างแค้นไปถึง70 กว่าคนภายในระยะเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

credit://reiokami.fr

การดวลที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา คือการดวลกับ "ซาซากิ โคจิโร่" ครูดาบที่มีชื่อเสียงสาเหตุเกิดมาจากการที่ผู้คนในสมัยนั้นต่างพากันถกเถียงกันว่า 2คนนี้ใครกันแน่ที่เก่งกว่ากอปรกับความแค้นส่วนตัวของทั้งคู่ ไดเมียวซึ่งเป็นตัวแทนของทั้ง 2 ฝั่ง จึงจัดการประลองนี้ขึ้นมา (ปัจจุบันสถานที่การประลองได้มีการตั้งอนุสรณ์สถานขึ้นมา)

มาถึงตรงนี้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินญี่ปุ่นทั้งไดเมียวและเศรษฐีจากทั่วแคว้นต่างต้องการตัวมุซาชิไปเป็นองครักษ์ของตนทั้งสิ้น แต่มุซาชิกลับคิดว่าการไปเป็นลูกน้องให้กับใครสักคนนั้น เป็นความไม่จีรังสิ่งที่เขาต้องการกลับเป็นวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย และชื่อเสียงอันเป็นนิรันดร์ ในช่วงท้ายๆของชีวิต เขาได้อุทิศเวลาให้กับผลงานศิลปะงานปั้น เขียนภาพพู่กัน เปิดสำนักถ่ายทอดวิชาดาบและการต่อสู้ และยังเขียนคำภีร์ 5 ห่วง อันโด่งดังเป็นมรดกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง

credit://goodreads.com

คนญี่ปุ่นยกย่องมุซาชิ เป็นอย่างมากถึงกับนำไปตั้งเป็นชื่อเรือรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และถือเป็นแบบอย่างในวิถีการปฏิบัติในการเดินทางแสวงหาความฝันของคนในวัยหนุ่ม เรื่องราวของเขานั้นได้ถูกสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่ท่องเที่ยว ละครโทรทัศน์ หนังสือการ์ตูน และหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คซึ่งถูกตีพิมพ์แปลเป็นภาษาต่างๆทั่วโลก

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านเรื่องราวของมุซาชิได้ที่หนังสือ"มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์ สำนักพิมพ์คบไฟ"

Create Date :12 ธันวาคม 2557 Last Update :12 ธันวาคม 2557 7:34:17 น. Counter : 1678 Pageviews. Comments :0