by Witoon Wattananit
เช้าวันก่อน เดินออกจากที่ทำงานผ่านทางเชื่อมตึกเห็นขนนกพิราบเกลื่อนพื้น
เจ้าของขนนกคงตายไปแล้ว มันคงเป็นนกปีกหักหรือนกป่วยบินไม่ได้ที่เดินและหลับพักตามพื้น นกพวกนี้มักตกเป็นอาหารของหมาโซ แมวโหย หรือเหี้ยหิว
พวกหมาแมว กินนกจะไม่กินขน ส่วนพวกเหี้ยนั้นผมไม่เคยเห็นตอนมันกินนก เคยเห็นแต่ตอนที่มันกินปลากับเต่า มันใช้วิธีค่อย ๆ กลืนเข้าไปทั้งตัว แต่ถ้าเหี้ยมันงับนกมันก็คงกลืนเข้าไปทั้งตัวเหมือนกัน แต่ก่อนที่นกจะถูกกลืนกิน ก็เป็นได้ที่นกจะดิ้นรนจนขนหลุดเกลื่อน
บางคนบอกว่าเหี้ยเป็นสัตว์กินซาก ใช่ครับ เหี้ยกินซากสัตว์แต่มันก็ล่าด้วย พวกปลากับเต่านานี่เป็นอาหารที่มันล่ากินประจำ บางครั้งมันก็ออกล่าออกขโมยเป็ดไก่ชาวบ้าน
จำได้ว่าสมัยเรียนพักอยู่หอ พี่ยามทำเล้าเป็ดเล็กๆไว้ข้างโรงจอดรถหลังหอพัก เลี้ยงได้ไม่กี่วัน ปรากฏว่าถูกเหี้ยบุกเล้าขโมยกินเป็ด
ยังมีแมวน่ารักอาศัยในหอพักตัวหนึ่ง วันหนึ่งผมพบในสภาพเป็นแผลถูกเย็บที่ขาหลังและลำตัว สอบถามเพื่อนดู เพื่อนเล่าว่าช่วยมันมาจากปากเหี้ยโดนกัดเป็นแผลเหวอะต้องพาไปให้หมอทำแผล เท่าที่ฟังความดูคงหมายถึงเหี้ยจริงๆ ไม่ใช่แค่เปรียบเปรยว่าช่วยมาจากคนที่ทำร้ายแมว
กลับมาเรื่องขนนกที่เกลื่อนพื้น อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะเป็นเหยื่อของตัวอะไร ผมหยิบขนนกขึ้นดู เป็นแผ่นบางเบามีแกนแข็ง ดูทั้งบอบบาง ทั้งยืดหยุ่น แต่ก็แข็งแรง พลิกหน้าพลิกหลัง ดูไปดูมาขนนกนี่ช่างน่าสนใจ ลองเอามาถ่ายภาพในScanning Electron Microscope ดูเป็นดี
ขนนกพิราบ ภาพขยายใกล้ส่วนปลายขนนก จะเห็นว่าในหนึ่งขนนกมีแขนงย่อยๆ แตกออกไปอย่างกับใบมะพร้าว
ซูมเข้าไปจะเห็นขนย่อยที่คล้ายใบมะพร้าวเรียงตัวกันแน่น
ปลายของส่วนที่คล้ายใบย่อยของมะพร้าวมีปลายเรียวเป็นเส้นเล็ก บ้างมีลักษณะหงิกงอ
ขอบนอกของขนนก
ภาพขยายในส่วนช่วงกลางๆ ของขนนกจะเห็นว่าแขนงย่อยแต่ละอันนั้นเบียดกัน โดยมีปลายของขนย่อยพันเหนี่ยวยึดติดกันไว้
เมื่อเราดูภาพขยายของแผ่นขนนก จะพบว่าในหนึ่งขนนก ประกอบด้วยแขนงเล็กๆ ย่อยลง ซึ่งในหนึ่งก้านดูคล้ายใบมะพร้าวที่มีใบย่อยมากมายเรียงติดกันแน่น และปลายของใบย่อยที่มีมากนี้เรียวเล็กและไปเกาะเกี่ยวกับปลายใบของใบย่อยที่ชิดติดกันดูคล้ายกับซิปที่รูดปิดจนฟันซิปมาขบซ้อนเชื่อมต่อกัน
และนี่คงเป็นเหตุให้ขนนกที่บางเบา นั้นมีความยืดหยุ่น และแข็งแรง
ในการเตรียมตัวอย่างนั้น ทำโดยนำขนนกมาตัดเฉพาะบริเวณที่สนใจจะถ่ายภาพ และนำไปติดบนStub ที่เป็นฐานอลูมิเนียมด้วยเทปกาวสองหน้า จากนั้นนำเข้าเครื่องเพื่อถ่ายภาพด้วยระบบสุญญากาศต่ำ(Low Vacuum) โดยใช้ตัวรับสัญญาณแบบBack Scattered Electron
ทั้งนี้ไม่มีการเคลือบทองตัวอย่าง เมื่อใช้ระบบสุญญากาศต่ำ จะยอมให้มีอากาศเหลืออยู่ในห้องตัวอย่างเล็กน้อยมากๆ โดยอากาศบางเบาที่เหลืออยู่ในห้องตัวอย่างนี้จะเป็นตัวช่วยนำประจุสะสมบนผิวตัวอย่างออกไปซึ่งในการถ่ายภาพขนนกนี้ผมใช้ความดันอากาศที่ 5-15 Pa
ทุกภาพ ถ่ายด้วยกล้อง TESCAN MIRA3 - Field Emission Scanning Electron Microscope จากศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ขอศานติและความสุขสถิตย์ในดวงใจ
โดย: จันทร์ฉาย ทองปิ่น IP: 202.28.73.163 30 มกราคม 2561 19:25:08 น.
โดย: ไบรท (bite25 ) 31 มกราคม 2561 12:58:30 น.
โดย: เพรางาย 7 เมษายน 2561 15:48:37 น.
ปล ระวังเชื้อโรคที่ขนนกด้วยนะคะ
มีคนรู้จักป่วยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเชื้อที่มาจากนกพิราบค่ะ
น่ากลัวมากเลย
โดย: VELEZ 22 เมษายน 2561 13:29:54 น.
โดย: Cookie notice IP: 139.99.104.95 6 กุมภาพันธ์ 2562 11:50:31 น.
โดย: Service und Kontakt | norisbank IP: 139.99.104.95 6 กุมภาพันธ์ 2562 11:52:03 น.
โดย: Sang IP: 1.10.222.58 25 ธันวาคม 2562 22:39:37 น.
แต่ต้องระวังเชื้อโรคที่ติดมากับขนนกด้วยนะคะ
คนที่บ้านเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะติดเชื้อมาจากนกพิราบ น่ากลัวค่ะ
โดย: VELEZ IP: 49.49.237.111 3 พฤษภาคม 2563 12:10:33 น.
-คุณ Sang ได้เลยครับ
-คุณ เพรางาย ใช่ครับการนำตัวอย่างเข้ากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดขั้นตอนจะเยอะนิดนึงครับ
โดย: bite25 24 กุมภาพันธ์ 2564 10:22:51 น.