กลับจากด่านเจดีย์สามองค์และห้วยซองกาเลีย ก็แวะเที่ยววัดจมน้ำกันต่อ


1.จุดที่เราลงเรือคือสะพานมอญฝั่งอำเภอ


2.ทัศนียภาพของหมู่บ้านริมน้ำยามแล้ง


3.น้ำลดตอผุด ช่วงเดียวกันของปีก่อนตอนมาเที่ยวน้ำลงต่ำแต่ไม่ต่ำจนตอไม้โผล่มาแบบนี้ ผลประโยชน์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในการสร้างเขื่อนคือสัมประทานไม้ ในส่วนของไม้ที่จะถูกน้ำท่วม


4.เตรียมตัวนะครับจะถึงแล้ว


5.เมื่อปีก่อนก็มาช่วงแล้งแต่สภาพของปีนี้น้ำลดต่ำกว่าปีก่อนมาก


6.ถ่ายปีก่อน ช่วง พ.ค. 2552 จะเห็นว่าลานด้านล่างยังมีน้ำอยู่


7.


8.


9.นาคมุมโบสถ์


10.เสาโค้งตัว


11.ฐานพระพุทธรูป


12.


13.เดินดูบริเวณพื้นดินแห้งๆ เจอหอยกาบน้ำจืดเยอะเลย หน้าตาและขนาดคล้ายหอยแมงภู่

เดินเที่ยวชมถ่ายรูปสักพัก ก็ลงเรือกลับ


14.ขากลับคนขับเรือพาเราแวะไปดูเจดีย์สามองค์เก่าที่สามประสบ คนขับเรือว่าเป็นเจดีย์โบราณ ปีที่แล้งน้ำลงเหลือน้อยมากๆ จึงจะโผล่มาให้เห็น ในภาพบนคือฐานอิฐที่อยู่เหนือระดับน้ำด้านซ้าย


15. คนเรือพาเรือออกจากซากเจดีย์เก่า ยกกล้องถ่ายภาพพุทธคยาเจดีย์อีกครั้ง


เรือส่งเราที่ฟากกระต๊อบที่เราพัก เราเดินผ่านดินแตกระแหงขึ้นที่พักอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนเล็กน้อย

ต่อจากนั้นผมและพวกก็ข้ามสะพานกลับไปฟากอำเภอ หาอะไรรองท้องแล้วจึงขึ้นรถกลับนครปฐม และจบเรื่องราวการเดินทางของการเที่ยวสังขละบุรีในหน้าแล้งปีนี้ของผม

ที่ผ่านมาน้ำในเขื่อนเหลือน้อยเหลือเกิน หวังว่าฝนที่จะมาคงจะช่วยเติมเต็มน้ำในเขื่อนได้ และหวังเพียงคนทั้งในส่วนของเมือง ส่วนของภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ใช่น้ำ-พลังงาน และของกินของใช้ทุกอย่าง อย่างคุ้มค่า เราจะได้ไม่หมดเปลีองน้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์

ขอความสุข และสันติสถิตกับทุกท่าน

สวัสดี