7 พฤศจิกายน 2554
การแข่งขันโคมไฟลอดห่วง ภาพถ่ายจากงานมหกรรมโคมลอยบ้านหนองโค้งและหัตถกรรมอำเภอสันกำแพง ครั้งที่ 2
The 2 nd Lamp Fastival 2011 at Nongkhong Villege,Tonpao,Sankamphaeng ,Chiangmai.
งานนี้จัดงานกันที่หมู่บ้านหนองโค้ง ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
กำหนดการจัดงานได้จัดงานไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาครับ


งานมหกรรมโคมลอยบ้านหนองโค้งและหัตถกรรมอำเภอสันกำแพง ครั้งที่ 2 เป็นงานที่จัดกันในระดับตำบล แต่ก็ยังพอมีข่าวการจัดงานให้ทราบกันอยู่บ้าง

เทศบาลตำบลต้นเปา จับมือ ททท.จัดงานมหกรรมโคมลอยบ้านหนองโค้งและหัตถกรรมอำเภอสันกำแพงครั้งที่ 2 ประจำปี 2554 หวังชูจุดขายหมู่บ้านทำโคมแห่งแรกในประเทศไทย ผลักดันเป็นสัญลักษณ์และบันทึกลงในปฎิทินท่องเที่ยวไทย โดยงานนี้มีข่าวแจ้งประชาสัมพันธ์กันที่ ททท. อีกด้วย
กำหนดการคร่าวๆ มีดังนี้
วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554 ช่วงเช้ามีการแข่งขันทำโคม (ภูมิปัญญาล้านนา) การแสดงศิลปวัฒนธรรม และในเวลา 18.00 น. มีพิธีเปิด ณ ปะรำพิธีบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านหนองโค้งและจะมีขบวนแห่โคมที่ยิ่งใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการปล่อยโคม 1,000 ลูก ณ สนามกีฬาโรงเรียนบ้านหนองโค้ง

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2554 ช่วงเช้ามีการประกวดโคมลอย (โคมควัน) ประเภท 72 แผ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม และช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมถนนคนเดิน จำหน่ายสินค้าโคมลอย สินค้าหัตถกรรม อ.สันกำแพง ในราคาพิเศษ และในเวลากลางคืนพบกับกิจกรรมปล่อยโคมสะเดาะเคราะห์ บริเวณวัดหนองโค้งและการแข่งขันโคมไฟลอดห่วง

วันอาทิตย์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2544 ช่วงเช้ามีการประกวดโคมลอย (โคมควัน) ประเภท 36 แผ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม และช่วงบ่าย มีกิจกรรมถนนคนเดิน จำหน่ายสินค้าโคมลอย สินค้าหัตถกรรมอ.สันกำแพง ในราคาพิเศษ และในเวลากลางคืน จะมีกิจกรรมปล่อยโคมลอยสะเดาะเคราะห์ บริเวณวัดหนองโค้ง การแข่งขันโคมไฟลอดห่วงและการประกวดธิดาโคม

อ่านกำหนดการมาด้วยความสนใจในกิจกรรมหลายๆ อย่าง
แล้วพอเป็นกิจกรรมต่างถิ่นต่างอำเภอ ที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้ออกไปถ่ายภาพกันบ่อยๆ ก็คิดชวนเพื่อนๆ ไปถ่ายภาพร่วมกันอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่างานวันที่ 4 มีกิจกรรมงานที่ชนกันอยู่หลาย งาน
สุดท้ายเลยเลือกงานที่ในตัวเมืองที่วิ่งรอกกันถ่ายภาพถึง 2 งาน แล้วก็ไม่ได้มาถ่ายภาพพิธีเปิดของงานมหกรรมโคมลอยบ้านหนองโค้งและหัตถกรรมอำเภอสันกำแพงครั้งที่ 2 นี้ด้วย

หนึ่งในหลายกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ
และแอบมาชื่นชอบพร้อมกับเล็งๆ ที่อยากจะมาชม มาถ่ายภาพการแข่งขันโคมไฟลอดห่วงกันด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็เคยสอบถามเพื่อนๆ คนที่สนิทๆ กันอยู่เหมือนกันว่าการแข่งขันโคมไฟลอดห่วงเป็นอย่างไร ถ่ายภาพยากไหม ต้องใช้เลนส์ช่วงไหนถ่ายภาพ
สอบถามดูแล้วไม่มีใครตอบได้สักคน
เลยเอาเป็นว่าช่วงงานวันสุดท้ายของค่ำคืนวันที่ 6 พ.ย. 54 ที่ตัวเมืองยังมีกิจกรรมสำคัญๆ อยู่อีก 1 งาน แต่ด้วยความตั้งใจจะมางานมหกรรมโคมไฟฯ นี้ด้วย เลยรีบถ่ายภาพในกิจกรรมงานในตัวเมือง และพอได้ภาพที่ต้องการแล้ว รีบบึ่งรถออกจากตัวเมืองมาคนเดียว โดยที่ยังไม่รู้จุดของการจัดงานนี้เลย แต่เอาเป็นว่าดูว่าเป็นงานใหญ่ๆ อยู่ เดี๋ยวคงไปสอบถามทางกันเอาข้างหน้าละกัน


เอาเป็นว่าตัดบทเข้าเรื่องของการแข่งขันโคมไฟลอดห่วงกันเลยละกัน



งานนี้พอเดินทางไปคนเดียว และเป็นการไปถ่ายภาพในต่างตำบล ต่างอำเภอ และเป็นยามค่ำคืนดึกดื่น (แอบมีกลัวอยู่เหมือนกัน) บึ่งรถมอเตอร์ไซค์ไป พอได้จอดรถเป็นที่เรียบร้อย ได้เดินตามเสียงตามสายที่มีเสียงเพลง สลับกับเสียงของการแสดงอื่นๆ อยู่เป็นระยะๆ



พอเข้าเขตวัดหนองโค้ง ก็แอบได้ยินเสียงพากษ์ของโฆษก พร้อมกับมีเสียงเฮกันเป็นระยะๆ
เดาเอาแล้วว่าน่าจะเป็นการแข่งขันโคมไฟลอดห่วง แน่ๆ



พอเจอะเจอจุดที่แข่งขันโคมไฟลอดห่วงกันแล้ว
แอบดูแล้ว เป็นอะไรที่ไม่ยากของการแข่งขันสักเท่าไร
แต่ดูแล้วว่าคงจะยากๆ กับการถ่ายภาพแน่นอน




กติกาการแข่งขันโคมไฟลอดห่วง (เขียนตามความเข้าใจและจากที่ได้เห็นครับ)
ซื้อโคมไฟจากทางวัด ใบละ 35 บาท หรือ 3 ใบ 100 บาท
หากใครปล่อยโคมไฟลอดห่วงเข้าไปได้ รับเงิน 100 บาททันที
ความสูงของห่วงสูงจากพื้นดิน น่าจะสูงกันโดยประมาณ 10-15 เมตรครับ









การแข่งขันปล่อยโคมไฟแบบนี้ ผู้แข่งขันคงต้องพอรู้จักการปล่อยโคมตั้งแต่การจุดไฟที่ชนวนเชื้อเพลิง และถือโคมไฟให้มีแรงดันของก๊าซและความร้อน พอที่จะให้โคมไฟสามารถล่องลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เอง



ก่อนจะปล่อยโคมไฟ ก็อาจจำเป็นต้องรู้ทิศทางลมในช่วงก่อนการปล่อยโคมไฟด้วย
หลายๆ คนก็คอยดูโคมไฟของคนก่อนหน้านี้ ว่าลมพัดไปในทางทิศใด
หรือบางคนก็ใช้ไฟแช็คจุดดูทิศทางลมไปด้วย



การปล่อยโคมไฟ พอเห็นหลายแบบมีทั้งแบบค่อยๆ ปล่อยแแบบลุ้นกันไปกับทิศทางลม
แต่หลายๆ คนเอาแบบม้วนเดียวจบ พอโคมไฟเต็มไปด้วยก๊าซที่พร้อมจะลอยกันแล้ว
ผู้แข่งขันบางคนใช้การปล่อยเหมือนการโยนโคมไฟให้พุ่งขึ้นไปแบบรวดเร็ว
แบบนี้ก็เร็วดี ใช้แรงเหวี่ยงบวกกับแรงลมกันนิดหน่อย



งานนี้ตั้งแต่เริ่มได้ชม และถ่ายภาพไปด้วย
ก็ได้ลุ้นๆ สนุกสนานตามผู้แข่งขันกันไปด้วย



มีหลายคนที่ปล่อยโคมไฟไปแล้ว และดูเหมือนว่าไม่มีลุ้นกันตั้งแต่เริ่มปล่อย



แต่หลายคนที่พอรู้เทคนิคการปล่อยดีแล้ว
ก็ได้ลุ้นจากการปล่อยโคมไฟกันทุกๆ ใบไปเลย



มาพูดถึงการเล่าเรื่องการถ่ายภาพชุดนี้สักหน่อย
แรกๆ เริ่มเลย เลือกการใช้แฟลชถ่ายภาพก่อนเลย
เลือก speed ต่ำสุดกันเท่าที่มือจะถือกล้องถ่ายภาพกันได้ก่อนคือ 1/60
เลือกปรับ F จนต่ำสุดเท่าที่เลนส์ canon 15-85 มม. จะทำได้คือ F 3.5
จากนั้นปรับ ISO ไปเรื่อยๆ จนถึง 800-1200



ภาพที่ถ่ายมาได้ดูแสงค่อนข้างดี
แต่เป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้
เนื่องจากได้ภาพเป็นวงๆ ดวงๆ กับการสะท้อนของแสงกับฝุ่นละอองในอากาศ



จนสุดท้ายยอมถ่ายภาพติด under ยอมลด ISO มาเหลือแค่ 400
แต่ก็ยังพอเห็นภาพที่เกิดเป็นเงาสะท้อนเป็นวงๆ เป็นดวงๆ อยู่พอสมควร



ช่วงท้ายๆ ของการถ่ายภาพก็ยอมไม่ใช้แฟลชถ่ายภาพ
ยอมดัน ISO ขึ้นไปสูงๆ จนถึง ISO 6400
แต่ค่า speed 1/60 ไม่พอ จำต้องยอมลดค่า Speed ลงมาเหลือ 1/30
แต่ภาพก็ไม่ค่อยสวยถูกใจเท่าไร



เอาเป็นว่ามาชมกันสนุกๆ ไปด้วยกันครับ กับการแข่งขันโคมไฟลอดห่วง ด้วยกันครับ
กิจกรรมการแข่งขันโคมไฟลอดห่วงแบบนี้อาจจะไม่ได้เห็นกันในตัวเมืองเชียงใหม่
คงต้องออกมาชมกันในต่างถิ่น ต่างตำบล ต่างอำเภอ กันเช่นนี้ล่ะครับ























แวะมาขอบคุณเทศบาลตำบลต้นเปา (บ้านหนองโค้ง - วัดหนองโค้ง) อำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่กันด้วยครับ ที่จัดงานมหกรรมโคมลอยบ้านหนองโค้งและหัตถกรรมอำเภอสันกำแพง ครั้งที่ 2 กับจุดขายหมู่บ้านทำโคมแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมร่วมด้วยช่วยกันผลักดันเป็นสัญลักษณ์และบันทึกลงในปฎิทินท่องเที่ยวไทยกันด้วยครับ


ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายกันที่ blog ด้วยครับ