ที่บ้านอิชั้นเพิ่งกลับกันจากฮ่องกงมาค่า ช๊อปกันเพลิดเพลิน
ขนาดว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงเซลทั้งเกาะ แต่หมู่เราก็ยังสนุกสนานมากมายกับการเลือกซื้อของซึ่งถูกเหลือเกิน
ถูกใจมากมายเลยค่ะ


น้ำหอมขวดแรกเป็นน้ำหอม "HARAJUKU LOVE"
ขวดนี้น้องสาวเชียร์สุดใจขาดดิ้น เค้าว่าถูกกว่าเมืองไทยมากกก
(เมืองไทยเกือบสี่พัน ที่นี่พันนิดๆเอง)
ทำไมถูกกว่าเยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้

ได้มาปุ๊ปก็ต้องลองฉีดปั๊บ
ตัวนี้กลิ่นเราว่าออกแนวสปอร์ตๆนิดนึง แบบหอมเท่ๆ
ไม่หอมหวานมาก (สำหรับอิชั้น)
ก็เป็นกลิ่นที่น่าจะฉีดวันสบายๆ ไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องอะไรมาก

เสียนิดนึงที่ติดไม่ทนเท่าไหร่ จะไม่ปลื้มก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ










HARAJUKU LOVE เนี่ยเค้าเด่นเรื่องดีไซน์นะ ทำออกมาได้น่ารักดี
แบบว่าตุ๊กตาก็สามารถวางประดับโต๊ะได้นะคะ เข้าใจทำดีอ่ะ....






น้ำหอมขวดที่สอง เป็นของ PARIS HILTON รุ่น "TEASE"
จริงๆเราจะซื้อไซส์กลาง เกือบสองพัน แต่คนขายเค้าเชียร์ซื้อขวดใหญ่ เพราะได้แถม BODY LOTION ด้วย
อิชั้นมาคิดๆดูแล้ว...คุ้มแฮ่ะ
เพราะรุ่นนี้ไซส์ใหญ่เมืองไทยสองพันสี่ แต่ที่นี่สองพันนิด (ได้แถม BODY LOTION ขวดใหญ่ด้วยด้วย)

อิชั้นลองดมกลิ่นแล้ว ค่อนข้างถูกใจ หอมหวานแบบเย้ายวนมากๆ
กลิ่นประมาณกล้วยไม้ป่าค่ะ ดมแล้วชอบ หอมมากๆ
ก็เลยตัดสินใจเอาแบบขวดใหญ่มาเลย


พอใช้แล้วก็โอเคนะคะ กลิ่นติดค่อนข้างทน
ประมาณว่าฉีดตอนเช้า อยู่ได้ถึงหัวค่ำ
ดมแล้วรู้สึกว่าตัวเราหอมดี....
เรียกว่าปลื้มค่ะ กลิ่นนี้






ขวดใหญ่....บิ๊กเบิ้ม





อันนี้เป็น BODY LOTION ที่ได้แถมฟรีมาจ้า





รายการสุดท้าย เป็น "ESCADA MARINE GROOVE"
ยี่ห้อนี้เชื่อขนมกินได้ค่ะ ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยผิดหวัง หอมทุกราย
ESCADA เนี่ยชอบทำแนวกลิ่นผลไม้ เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นแนว Fruity ค่ะ
อย่างขวดนี้ กลิ่นสัมผัสเหมือนนี่เลย........"เสาวรส"
แบบว่าออกแนวกลิ่นเปรี้ยวๆหวานๆหน่อย หอมดีค่ะ

แต่ ESCADA มีสองขวดแล้ว อันเก่าก็ยังใช้ไม่หมด
หนนี้เลยสอยมาแค่ขวดเล็กพอ ราคาพันนิดๆเอง
ราคาถูกใจอีกแย้ววว









ต่อไปเป็นน้ำหอมขวดเล็ก แบบ Tester ที่วางขายในกะบะร้าน Sasa ค่ะ เราซื้อมาสองอัน
อันแรกเป็น Burberry Brit ขวดนิดเดียว
ราคาไม่ถึงสองร้อยบาท
ยังไม่ได้แกะดมเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าหอมแค่ไหน








อันนี้แกะดมแล้ว "BE DELICIOUS"
ปกติ DKNY เค้าจะฮิตรุ่นแอ๊ปปเปิลเขียว เพราะออกมาก่อน
แต่อิชั้นหาไม่เจอ เจอแต่แอ๊ปเปิลสีชมพูแบบนี้
แต้มไปก็หอมดีนะคะ (ฉีดไม่ได้ ไม่ได้เค้าไม่ได้ทำหัวฉีดมาให้)
กลิ่นประมาณสดชื่น สดใสดี เหมาะกับวัยแรกแย้ม...หุหุ









มาดูที่หมวดเครื่องสำอางค์ อันนี้ซื้อจากดิวตี้ฟรีที่สนามบินแห่งชาติฮ่องกง
อิชั้นว่าเครื่องสำอางค์ที่นี่ราคาใช้ได้ค่ะ ไม่แพง สามารถซื้อได้เลย


อันแรกเป็นพาแลตของชู อูเอมูระ









โทนสีแบบธรรมชาติค่ะ อย่างบลัชออนซิสีชมพูส้มๆ หวานมากกก
แต่กล้องมันด๋อยๆหน่อย สีเลยเพี้ยนไปนิดนุง
ตลับจริงสีสวยกว่านี้ค่ะ
เม็ดสีก็ดี ละเอียดดี ทาแล้วไม่เป็นคราบ
ที่ถูกใจเป็นพิเศษก็ตรงมีอายไลเนอร์สีดำกับสีขาวมาให้ในตลับเดียว
เพราะอิชั้นกำลังอยากได้อายไลเนอร์ของบ๊อบบี้บราวน์อยู่พอดี ได้ตลับนี้มาจึงไม่ต้องซื้อ...ฮูเล่!

ส่วนอายไลเนอร์สีขาว เอาไว้ทำไฮไลท์ที่ใต้โหนกคิ้ว สันจมูก สวยมาก....
ทาออกมามันก็ไม่ได้ขาวเว่อร์เหมือนในตลับ มันจะออกวิ้งๆนิดเดียว ไม่เวอร์เลยค่ะ ใช้ง่าย คอนโทรลน้ำหนักง่ายสุดๆ
เรียกว่าปลื้มมากค่ะสำหรับพาเลตตลับนี้

ส่วนค่าเสียหาย อยู่ที่ประมาณ 1600 ค่ะ





อันนี้เป็นที่ดัดขนตาอันลือชื่อของลุงชู ที่นี่ขายแบบแพ็ตแก็ต 2 อัน 800 บาท
ตกอันละ 400 บาท ถูกกว่าเมืองไทยเท่าตัวได้มั๊ง
เราเลยแบ่งกับน้องสาว ได้คนละอัน

ที่ดัดขนตาใช้ดีค่ะ ดัดได้งอนดี ขนตาอยู่ตัวมากมาย










ส่วนอันนี้ก็เป็นที่ดัดขนตาคร่า....ของ SHISEDO
เห็นแล้วอาจมีข้อสงสัย เอ๊ะ ! ซื้อมาทำไมอีก
คือว่าซื้อเจ้านี่มาจากร้าน Sasa ค่า เพราะหนนี้อิชั้นหาซื้อที่ดัดขนตาของชูไม่ได้
(มาหาได้ตอนจะกลับเมืองไทยวันสุดท้ายนี่เอง)
อารามว่ากลัวจะอดได้ที่ดัดขนตา แล้วเห็นเจ้านี่ในร้าน Sasa ก็เลยขอสอยมาก่อนกันเหนียว

จะบอกว่ายังไม่ได้ทดลองใช้เลย แต่คิดว่าไม่น่าจะขี้เหร่เท่าไหร่
อ้อ...ราคาอยู่ที่ประมาณสองร้อยกว่าบาทนะคะ









ในร้าน Sasa มีลิปสติกของ Dior Addict ราคาน่าจะเกือบ 800 บาท
อิชั้นว่ามันถูกกว่าเมืองไทยนะ และเจอสีนี้สวยดี อดใจไม่ได้ ก็เลยสอยมาอันนึง (แต่แม่น่ะเอาไปฝากเค้าอีกหลายแท่งเลย)




สีมันออกชมพูอ่อนๆ มีประกายชิมเมอร์
สวยดีค่ะ








ต่อไปเป็นลิปกรอสที่ทำให้ปากเอิบอิ่ม (เดาจากในรูป)
ราคาประมาณ 200 กว่าบาท...
ไม่รู้ว่าทามาแล้วปากน่าเอิบอิ่มน่าจุ๊บแบบในรูปหรือเปล่า อิอิ



มาถึงฮ่องกง ไม่ได้สอยคาสิโอ ก็คงไม่เรียกว่ามาถึงฮ่องกงซินะคะ
นาฬิกานี้ เราสอยตอนไปช๊อปที่ม่งก๊ก ด้วยราคาที่ถูกอย่างน่าตกใจ
เพราะเรือนนี้เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกในฮ่องกง เมื่อ Spring ที่ผ่านมา แล้วร้านเค้าเอามาลด
ราคาในเมืองไทยไม่ต้องพูดถึง 5,000 ซื้อได้หรือปล่าวไม่รู้
แต่ที่นี่....ลดราคาแล้วอยู่ที่ 2,000 บาท เองคร่า พี่น้อง
วุ้ย.......ถูกใจมาก อิชั้นอดรนทนไม่ได้

สุดท้ายต้องสอยมาหนึ่งเรือน สีชมพู หวานแหววเชียว งุงิ งุงิ












เสื้อยืด Giodano กะลังเซลเลยค่ะ
ซื้อที่ Citygate Outlet ใกล้ๆกับสถานีขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปนองปิง
ราคา 3 ตัว 400 บาท ตกตัวละ 100 กว่าบาท
ถือว่าไม่แพงเลยนะคะ เพราะที่เมืองไทยอียี่ห้อนี้แพงพอสมควร









ถุงเท้าก็เซล !! 10 คู่ 400 บาท ตกคู่ละ 40 บาท
สีสวย เนื้อหนา น่าใส่มากค่ะ
เราว่าจะเอาไว้ใส่วิ่งอ่ะ






มาถึงฟาก การ์ตูนดิสนีย์ในดวงใจค่ะ
จริงๆพวกเราไม่ได้ไปดิสนีย์แลนด์กันนะคะ ของนี่ไม่ได้ซื้อจากที่นั่น
แต่พอดีไกด์เราเค้าเอามาขายจากโรงงานค่ะ เค้าว่าถูกกว่าข้างในมากมาย
ซึ่งอิชั้นก็เคยไปดิสนีย์มาเหมือนกัน ก็เห็นด้วยเหมือนกันว่าถูกกว่ามากกก

อย่างเช่นพวงกุญแจแพ็คนี้ ราคาต่ออัน 700 กว่าบาท
แต่นี่ 6 อัน 400 กว่าบาทเอง ตกอันนึงไม่ถึงร้อยเลย ถูกมากๆ
แล้วลายก็น่ารักอีกตังหาก
อดใจไม่ไหว สอยมาอีกแล้ว










มี 6 แบบค่ะ





ส่วนอีกแพ็คเป็นปากกาหัวการ์ตูน ปากกานี่เขียนดีนะคะ แถมน่ารักมากๆ
ชอบค่ะ










อันนี้ไปแกะของแม่มาค่ะ เอามา 2 อัน เป็นแม็ตเน็ตติดตู้เย็น
ฉกลายมิกกี้เม้าส์กับมินนี่เม้าส์มาค่ะ น่ารักดี....ชอบ





อันนี้ก็ไปแกะมา เป็นพวงกุญแจเจ้าตัวสติทส์
ออกแนวกวนๆค่ะ






และก้อนาฬิกามิกกี้เม้าส์ แบบว่าเด็กๆ
เอาไว้ใส่เล่นนะคะ อิอิ เรือนนึงไม่ถึงร้อยเลย




อันนี้เป็นแผ่นแปะกันหนาวค่ะ เป็นซองกำมะถันข้างใน เมื่อฉีกออกมาจากถุงมันจะอุ่นขึ้นมา
ใช้แปะกับเสื้อกันหนาวได้อย่างดี
ที่ฮ่องกงเค้านิยมใช้กันมากค่ะ เพราะอากาศหนาวววว ได้ใจสุดๆ
พวกเราที่ไปเที่ยวก็ได้ไอ้เจ้าแผ่นเนี่ยแหล่ะ แปะกันหนาวตาย
ใช้ได้นานมากกก แปะเช้าใช้ได้ถึงดึกเลย ไม่น่าเชื่อนะคะ
ราคาประมาณ 10 กว่าบาทต่อแผ่น อิชั้นว่าถูกมากกก
(ดีกว่าหนาวตายอ่ะ)






ส่วนสุดท้าย เป็นแหวนกังหันนำโชค ซื้อที่ร้านจิวเวลลี่จาก TSL
จริงๆแล้วรายการนี้ เป็นรายการที่อิชั้นและครอบครัวไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเล้ยยย แม้แต่น้อย
แต่เพราะได้ไปไหว้พระที่วัดกังหัน หรือแชกงหมิวค่ะ แล้วเค้าฮิตเรื่องกังหันลมนำโชคมากๆ.........


ประมาณว่าที่ฮ่องกงเนี่ย เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยอย่างมาก
เพราะเวลาที่ใครกิจการการค้ามีปัญหา
หากได้ซินแสดูฮวงจุ้ยให้ และแนะนำให้ปรับปรุงด้วยวิธีใด
หากเค้าทำปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามที่ซินแสบอก
กิจการการค้าก็จะดีขึ้นมากกก อย่างถนัดตา
นึกถึงรายการของวิลลี่นะคะ แต่ที่วิลลี่ทำเค้าถ่ายที่สิงคโปร์ (มั้ง)
จึงไม่แปลกใจที่คนฮ่องกงจะมีความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยมากขนาดนี้


ส่วนในเรื่องแหวนกังหันอันนี้ มันก็เป็นเหมือนเครื่องรางนำโชคค่ะ
เพื่อให้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากชีวิต และพัดพาสิ่งดีๆเข้ามาแทน
พูดไปก็ยาว คงต้องย้อนกลับไปดูที่บล็อควันที่ไปไหว้เทพเจ้าแชกงที่วัดแชกงหมิว แล้วจะเข้าใจสิ่งที่อิชั้นกล่าวมามากขึ้น....

ส่วนตัวอิชั้น บอกตรงๆว่าไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ก็คงต้องเชื่อและถือว่าแหวนนี้เป็นเครื่องรางที่นำโชคและปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวเราออกไป....(ก็ซื้อมาแล้วนี่นา)


อ้อ....จะบอกว่าราคาแหวนวงนี้ก็แพงงงง
สมควรแก่การเชื่อเลยค่ะ....

เท่าไหร่เหรอค่ะ....
ห้าหลัก (ไทย) อั๊พ
(ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ แหวนวงเล็กๆแค่เนี้ย แพงจังเง้อ )

ที่บ้านเราซื้อมาทุกคนเลยคะ ใส่ทุกคน
จะลองดูว่าสิ่งดีๆจะเข้ามาในชีวิตจริงหรือเปล่า
ถ้าจริง.....ปีหน้าจะกลับมาไหว้อีกนะ









บรรดาของนานาสารพัดก็หมดเพียงเท่านี้
(จริงๆมีอีกมาก แต่เป็นของคุณนายแม่ทั้งสิ้น รีวิวทั้งวันก็ไม่หมด เพราะของชีเยอะมาก)
แต่เท่าที่อิชั้นสรุปได้ก็คือ ฮ่องกงเป็นแหล่งช๊อปปิ้งที่สนุกมาก หากเรารู้แหล่ง
เพราะราคาที่ถูกกว่าเมืองไทยมากกก จนตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากเลย....



แต่สำหรับอิชั้น ช่วงนี้หลังจากผ่านการช๊อปอย่างหนักแล้ว ก็ว่าจะเข้าถ้ำ ปลีกวิเวกจากโลกภายนอกชั่วคราว เพราะงบ (ของปีนี้) หมดแล้ว...
เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน....อ้าว



สำหรับวันนี้บ๊าย บายค่ะ