ทางเข้าร้านของแกจะหายากสักหน่อยนะคะ ถ้าขับรถมาทางตลาดทรัพย์สินในตัวเมืองชล ให้เล็งร้านหมูสะเต๊ะอพอลโล่ทางซ้ายไว้ค่ะ (หรือมองคลินิคผิวหนังชื่อนิพนธ์คลินิคทางขวาไว้)
ถ้าเจอแล้วให้เตรียมจอดเลย หลังจากนั้นเดินเข้าซอยเล็กๆ ที่ตรงข้ามกับร้านหมูสเต๊ะอะพอลโล่นั่นแหล่ะ เดินไปนิดเดียวร้านอยู่มุมซ้ายมือ มองไปตรงข้ามจะเป็นศาลเจ้าค่ะ
ซอยนี้เล็กมากกก เวลามีรถเข้ามาต้องระวังนะคะ
ร้านจะไม่เหมือนร้านค้าเลยค่ะ เป็นบ้านเก่าๆ สองห้อง โต๊ะเก่าๆ 2 ตัว ไม่มีป้ายร้าน ไม่มีตู้โชว์ มีแต่ป้าอ่อนยืนทำอาหารอยู่
เห็นอย่างนี้อย่าทำเป็นเล่นไป แกขายดีนะคะ เที่ยงๆอย่างนี้ในบ้านไม่มีโต๊ะนั่งแล้ว ต้องมานั่งข้างนอก
จดรายการอาหารเองโลดเลยค่า ป้าไม่ว่างมารับออเดอร์
น้ำชาอันนี้ฟรี
อุปกรณ์บนโต๊ะ ได้แก่พริกน้ำปลา กับต้นหอมไว้กินกับข้าวผัด
ข้าวเปล่ามาก่อน
วันนี้เราสั่งเป็นต้มยำปลากระพงน้ำใส แกใส่กุ้งมาด้วย
อยากจะบอกว่าอร่อยมากก น้ำเข้มข้น ปลากับกุ้งก็สดผุดๆ
พระเอกของเรามาแว้ว เราสั่งเป็นปูผัดผงกระหรี่ ปูสดมากๆ จะเป็นส่วนก้ามนะคะ ป้าอ่อนให้ตรึม กินสะใจเลย
จริงๆร้านนี้ข้าวผัดปูขึ้นชื่อนะคะ แต่อย่างว่าพี่ศักดิ์อยากหม่ำให้สะใจ เลยสั่งมาแบบนี้ดีกว่า
หม่ำเสร็จอิชั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี คุณสามีเลยเดินไปจ่ายเงินก่อน ดันลืมถามว่าราคาเท่าไหร่บ้าง (ไม่ช่วยเมียทำมาหากินเล้ยยย พี่ศักดิ์เนี่ย ) รู้อย่างเดียวว่ามื้อนี้ 370 บาท
เลยต้องมานั่งกะเองคร่าวๆ ต้มยำปลานี่น่าจะ 150 บาท ปูผัดผงกะหรี่ 200 บาท ข้าวเปล่าสองจาน 20 บาท รวมได้ 370 บาทพอดี
ฟังดูราคาค่อนข้างแรงนะ แต่อาหารเค้าสดและอร่อยมากๆ ปริมาณเยอะสะใจด้วยค่ะ เราสองคนกินปูไม่หมดอ่ะ ต้องใส่ถุงกลับบ้านด้วย
แนะนำให้ลองมาชิมดูเน้อ
ไว้กลับเมืองชลเมื่อไหร่ จะตามรอยไปบ้างนะค๊า..
แต่นาทีนี้ยังนึกพิกัดไม่ออกเลยค่ะ จำได้คลับคลาว่าหมูสะเต๊ะอพอลโล่อยู่ถึงก่อนสะพานศาลเจ้าเนาะ