เมือลดน้ำหนักผ่านไป หนึ่งเดือน ทำอะไรกันบ้างลองดู(ตอนที่ 1)
  จริงๆว่าจะเขียนเป็นกระทู้ แต่คิดว่าคงจะหายไปตามการเวลามากกว่า คิดว่ามาเขียนเป็นบล็อกเราเอง จะอ่านก็ง่ายดี แถมไม่ลบด้วย 

จริงๆเรื่องราว มันเริ่มตั้งแต่กรกฏาคมปีที่แล้ว ...................กรกฏา 2556 

ข้อมูลพื้นฐาน ความสูง 168 ซม น้ำหนักปกติ 55-58 เป็นคนกระดูกใหญ่มาก ถ้าผอมจะน่าเกลียดสุดๆ หน้าตอบ และตูดแบน(ดังนั้นจะไม่ลดน้ำหนักไปมากกว่านั้น) 

น้ำหนักที่มากที่สุด 74.8 กิโล นั่นคือ กรกฏาคม 2556 และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทุกอย่าง

น้ำหนักปกติ คือ 55 ปี 2553 แต่ปลายปี 2554 คือประมาณ 58 เพราะมีแฟนน้ำหนักขึ้น แต่ตอนนั้นเกือบจะแต่งงาน อีกยี่สิบวันจะแต่งงานจับได้ว่าแฟนมีอีกคนนึงเลยเลิก หลังจากเลิกก็เลย มีความสุขกับชีวิต กิน เที่ยวแบบสุดๆไปเลย ย้ายที่อยู่ จาก คอนโด (ซึ่งปกติเล่น ฟิตเนส ทุกวัน มาอยู่บ้านไม่ได้ออกกำลังกาย กินและดูซีรีส์ ทุกวัน) 

คำถาม : ทำไม ปล่อยให้น้ำหนักขึ้นไปเกือบ 20 กิโลได้ 
คำตอบ : ไม่รู้ว่าทำไมขึ้นเยอะได้ขนาดนั้น คือ ประมาณว่าปลงโลก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เบื่อหน่ายบ้างานกลับถึงบ้าน ตอบสนองความเหนื่อยด้วยการกิน มีตังค์ เพราะไม่ได้อยู่คอนโดไม่ต้องจ่ายส่วนกลาง กินข้าว นอกบ้านทุกวัน ถ้าว่าง ชอบกินกาแฟร้านอร่อยๆ เบเกอรี่นี่ตัวดีเลย 

ไม่ได้สนใจ ไม่ได้ส่องกระจก วันดีคืนดี ไปหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เรื่องงาน อาจารย์ทักว่า 

" เอ็งไปทำอะไรมา ทำไมอ้วนแบบนี้ " 

และวันเดียวกันนั้นเอง ... รุ่นน้องที่ทำงานที่สนิทกัน (น้องพูดตรงดีพี่รักน้องจริงๆ ) บอกว่า

" พี่อ้วนมากเลย พี่รู้ตัวไหม ตูดใหญ่มาก " 

วันนั้น มันช็อกอ่ะ ...... คือก็รู้ว่าอ้วน เพราะซื้อเสื้อผ้าใหม่หมดเลย 1 ตู้คือเสื้อผ้าเก่าก็ไม่ใส่ไง มันใส่ไม่ได้ จากคนเสื้อผ้า Size S ก็ต้องมาใส่ M แล้ว สุดท้าย ก็คือ เบอร์ L 

มันก็นะ คือ เราก็เป็นผญ ธรรมดาที่ชอบซื้อเสื้อผ้าอยู่แล้ว ก็เลยไม่สนใจเบอร์ที่เปลี่ยนไป หลังๆ Free size ใส่ไม่ได้ ก็รู้ตัว 

วันนั้นเลยเหมือนจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยก็ว่าได้ 

จำได้ว่าวันนั้นเอง เราเอาฮูล่าฮูป และรองเท้าวิ่งออกมา ตอนเลิกงาน กลับมาวิ่งรอบหมู่บ้านหนึ่งรอบ และเล่นฮูล่าฮูป 10 นาที และไม่กินข้าวเย็นกินผลไม้แทน คือ แอบเปิ้ล 

ทรมาณเหมือนกันนะ จำได้ว่า มันหิว คนเคยกินเยอะทุกมื้อ ไม่ได้ออกกำลังกาย เกือบสองปี เลยนอนหลับยาวเลย ...........

วันที่สองของการลดน้ำหนัก 

เมื่อมีความมุ่งมั่นในการลดน้ำหนัก เราว่า ถ้าผ่านวันแรกได้ โดยไม่มีคำว่า "กินก่อนพรุ่งนี้ค่อยลด " มันจะมีวันที่สองได้ 
อาการอาจจะมีเมื่อยเนื้อตัว บ้างแต่เราเคยออกกำลังกายมาก่อน จะรู้ว่า จะเมื่อยไม่กี่วันตอนเริ่ม ซักพักจะชิน 

โอเค ลองมาดูอาหารกันว่าเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ปกติ 

อาหารเช้า ข้าว กับข้าวสามอย่าง กาแฟเย็น ขนมตามใจปากสุดๆ

กลางวัน ข้าว อาหารกลางวันที่ภาควิชา ส้มตำบ้าง อะไรบ้าง กินอิ่มสุดๆ

เย็น กินมาจากนอกบ้าน (ร้านในห้างสรรพสินค้า) ฟูจิ โออิชิ โอโตยะ โคโค่อิชิบัน และอื่นๆ 

กลางคืนหิวๆ ทุกอย่างในตู้เย็นกินหมด ขนมปัง น้ำผลไม้ (มีติดตู้เย็นตลอด ซื้อให้คุณแม่ ) 

(เดี๋ยวมาต่อ พอดีต้องออกไปช็อปปิ้งกับพี่ๆ น้องๆ ที่นี่ อเมริกาตอน 11.30 นค่ะ) 



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2557 23:19:57 น.
Counter : 863 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Travel-heart.BlogGang.com

หัวใจนักท่องเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด