*~ต้นไม้ กับ ก้อนเมฆ~* "เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน" ............................... ต้นไม้แก่ ขอฝนจากเมฆก้อนน้อย เมฆก้อนน้อยตอบเพียงว่า น้ำฝนมีอยู่น้อย กลัวว่ามันคงจะไม่พอ ให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ วันต่อมา เมฆก้อนน้อยก็ยังคงบอกเช่นเดิม มันน้อยไป จึงไม่พร้อมที่จะให้..!! เมฆก้อนน้อยจึงเดินทางและพยายาม สะสมฝนเพื่อที่จะให้มันมีมากพอ...!! พอที่จะทำให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ เมื่อมีปริมาณมากพอ เมฆน้อยจึงกลับมา.. แต่สิ่งที่พบข้างหน้า มีเพียงซากต้นไม้แก่ที่ตายแล้ว...!! เมฆน้อยได้แต่รัองไห้ แล้วถามว่า...ทำไม ความพยายามของฉันไม่มีค่าเลยเหรอ..!?! ชายหนุ่มที่นั่งใต้ต้นไม้ จึงได้แหงนหน้า..แล้วบอกเมฆน้อยไปว่า.. *การที่เราจะให้อะไรแก่ใครสักคนที่เรารัก.. มันไม่ต้องรอให้มากพอ หรือรอให้พร้อมหรอก ให้เท่าที่มี..ก็ทำให้รับชื่นหัวใจได้ ♥ ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็มีเวลาเป็นเงื่อนไข!!! แล้วก่อนที่ต้นไม้แก่จะจากไป เขาฝากบอกเธอไว้ว่า.. ถ้าเห็นเธอผ่านมา ให้บอกเธอว่า "เขารักเธอ.." เมฆน้อยได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาเป็นเม็ดฝน อย่างไม่ขาดสาย ให้กับต้นไม้ที่ไม่มีวันแตกใบให้ได้เห็นอีกต่อไป...ตลอดกาล!! *อ่านกี่ทีก็ชอบ เพราะเตือนสติได้ดีมาก ในสิ่งที่เรามองข้าม บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นใน วันที่ 11 กันยายน 2001 (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่า ภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย.. ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น แต่ความอดกลั้นน้อยลง เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวเรากลับเล็กลง เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า.. แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้าน กลับยากเย็น เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง เรามีรายได้สูงขึ้น ศีลธรรมกลับตกต่ำลง เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพแย่ลง ทุกวันนี้ ทุกบ้านมีคนหารายได้ไม่ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น อย่าเก็บของดี ๆ ไว้ โดยอ้างว่า เพื่อใช้โอกาสพิเศษ จงแสวงหา การหยั่งรู้ จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชม กับการมีชีวิตอยู่โดยไม่ใส่ใจกับความอยาก จงใช้เวลากับครอบครัวเพื่อนฝูง คนที่รักให้มากขึ้น กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ ๆ อยากจะไป ชีวิตคือ "โซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุข" ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้ เอาคำพูดที่ว่า "สักวันหนึ่ง..." ออกไปเสียจากพจนานุกรม บอกคนที่เรารักทุกคนว่า เรา"รัก"พวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรา มีความสุขเพิ่มขึ้น ทุกวัน..ทุกชั่วโมง..ทุกนาที มีความหมาย.. เราไม่อาจรู้เลยว่า..เมื่อไร? มันจะสิ้นสุดลง และเวลานี้ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ forword ข้อความนี้ให้คนที่คุณรักอ่าน แล้วคิดว่า "สักวันหนึ่งค่อยส่ง" ละก้อ...! คุณอาจจะไม่มีโอกาสนั้นก็ได้..?!? ใครจะรู้..ใช่ไหม ?!? In addition to the point of view of the year of the day after the first
โดย: Phony IP: 223.24.65.90 วันที่: 14 ตุลาคม 2559 เวลา:8:48:25 น.
โดย: wonkert
![]() |
บทความทั้งหมด
|
แมกไม้ ได้อุ้มน้ำ เย็นชุ่มฉ่ำ ล้ำรุ่งเรือง
ก้อนกรรม กายก่อเกิด วิไลเลิศ เปิดเปล่าเปลือง
แมนมี มากมุมเมือง แน่นนองเนือง เชื่องเชื้อชาย
ต้นกล้า อาราดิน