สศก.ลุยโคราชแหล่งระบาดใหญ่ โรคใบด่างมันฯ แนะเกษตรกรหมั่นสังเกต หากพบรีบแจ้ง
นางอัญชนา  ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ติดตามโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา ว่า จากสถานการณ์การระบาด  ของโรคใบด่างมันสำปะหลัง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 12 สิงหาคม 2563) พบการระบาดใน 29 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่ระบาดรวมทั้งสิ้น 442,564 ไร่

โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การระบาดมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา สระแก้ว และบุรีรัมย์ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมวิชาการเกษตร ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและชี้เป้าพื้นที่ระบาด โดยมีมาตรการกำจัดต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคและแมลงหวี่ขาวยาสูบ ซึ่งเป็นพาหะนำโรค พร้อมชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบในอัตราชดเชยไร่ละ 3,000 บาท



 



 
ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ท่อนพันธุ์สะอาด ควบคุมการนำเข้าท่อนพันธุ์จากต่างประเทศและการขนย้ายท่อนพันธุ์ภายในประเทศ รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรเพื่อป้องกันกำจัดโรคใบด่าง โดยได้ทำลายแล้ว ด้วยวิธีฝังกลบและราดสารกำจัดวัชพืช การใส่ถุง/กระสอบและตากแดด หรือวิธีบดสับและตากแดดต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคฯ จำนวน 117,802 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 26.62 ของพื้นที่ระบาดทั้งหมด คงเหลือพื้นที่ระบาด จำนวน 324,762 ไร่ ใน 25 จังหวัด

เมื่อวันที่ 20 - 24 กรกฎาคม 2563 สศก.โดย ศูนย์ประเมินผล ได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุด จำนวน 280,390 ไร่  คิดเป็นร้อยละ 63 ของพื้นที่ระบาดทั้งประเทศ โดยอำเภอ ที่มีพื้นที่ระบาดมากที่สุด 3 อำเภอแรก ได้แก่ อำเภอเสิงสาง ครบุรี และหนองบุญมาก





 



 
ขณะนี้ หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ทำลายมันสำปะหลังทีเป็นโรคใบด่างไปแล้ว จำนวน 38,135 ไร่ ทั้งนี้ คณะทำงานบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลังระดับอำเภอ กำลังเร่งดำเนินการทำลายในส่วนที่เหลือ สำหรับเงินชดเชยที่จะจ่ายให้แก่เกษตรกรนั้น  สำนักงบประมาณกำลังพิจารณาอนุมัติ  อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรหยุดพักการปลูกมันสำปะหลังหลังจากการทำลายไปแล้ว สัก 3 - 4 เดือน หรืออาจปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชทดแทน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค

ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเน้นสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาดังกล่าว  โดยเกษตรกรสามารถสังเกตอาการของโรคใบด่างฯ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรค จะมีใบด่างเหลือง ใบลดรูป และเสียรูปทรง ลำต้นแคระแกร็น และไม่มีการเจริญเติบโต หรือมีการเจริญเติบโตน้อย



 



 
โดยหากเกษตรกรพบหรือสงสัยว่ามันสำปะหลังที่ปลูกเป็นโรคใบด่างฯ ให้รีบติดต่อผู้นำชุมชน (กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน) หรือนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรประจำตำบล เพื่อวินิจฉัยโรค และหากพบเป็นโรคใบด่างฯ เจ้าหน้าที่จะชี้แจงขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการฯ และการเตรียมหลักฐานประกอบการขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการต่อไป

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดทำแนวทางการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจระดับภาคและการวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจสินค้าเกษตร เพื่อเสนอทางเลือกการผลิตพืชหรือการดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสมตามเขตความเหมาะสมพื้นที่ ทั้งระดับภาคและระดับจังหวัด ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อแนะนำทางเลือกให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ สศก. จะมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้โครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

 





 



Create Date : 25 สิงหาคม 2563
Last Update : 25 สิงหาคม 2563 17:35:29 น.
Counter : 503 Pageviews.

0 comments
เที่ยวฟิน in ภาคกลาง ๑๒-๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อุ้มสี
(20 เม.ย. 2567 15:02:48 น.)
ดราม่า "ออกัส วชิรวิชญ์" : สรุปประเด็นร้อนฉ่า สมาชิกหมายเลข 7995226
(17 เม.ย. 2567 17:07:47 น.)
AI คืออะไร ? ข้อดีของ AI Technology Robotic เข้ามาช่วยในการผ่าตัด newyorknurse
(19 เม.ย. 2567 02:45:03 น.)
โปรแกรมฉีด Radiesse ด้วยเทคนิค Tri-Lift คืออะไร ดีอย่างไร ช่วยอะไรได้บ้าง teawpretty
(15 มี.ค. 2567 14:32:23 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thailand-agriculture.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด