ยกระดับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ป้องกัน"ลัมปี สกิน"
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากการที่เกิดการระบาดของโรคลัมปี สกินใน โค กระบือ ในหลายจังหวัดของประเทศและมีความกังวลของหลายฝ่ายว่าจะแพร่ระบาดเข้าไปยังพื้นที่รักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยขาแข้งที่

นอกจากจะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหลากหลายแล้ว หนึ่งในนั้นก็มีสัตว์สำคัญอาศัยอยู่ด้วยนั่นก็คือ ควายป่า นั้นเท่าที่ทีการตรวจสอบพบว่าสัตว์ป่าในไทยที่ติดเชื้อและแสดงอาการของโรคลัมปี สกินได้ จะเป็นสัตว์ในกลุ่มพวก กระทิง วัวแดง ควายป่า ซึ่งหากติดเชื้อและเป็นโรค จะแสดงอาการเพียงเล็กน้อย ไม่แสดงอาการรุนแรง และเปอร์เซ็นต์การตายน้อยกว่า โค-กระบือของชาวบ้าน เนื่องจากสัตว์ป่ามีความแข็งแรงและทนต่อโรคต่างๆได้ดีกว่า




 







 
ทั้งนี้ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันล่วงหน้า ไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปสู่ควายป่าโดยที่ห้วยขาแข้งจึงได้ดำเนินการงดการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ ในพื้นที่  พร้อมทั้งได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้กับโค-กระบือของเกษตรกรในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ตามรอยต่อของป่าเขตกันชนเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยขาแข้งในรัศมี 5 กิโลเมตรจำนวน 95 ราย แบ่งเป็นโคจำนวน 1,160 ตัว และกระบือจำนวน 95 ตัว รวมทั้งสิ้น 1,255 ตัว

พร้อมทั้งพ่นสารกำจัดแมลงบริเวณคอกเลี้ยงโค-กระบือและบริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรค และการป้องกันอีกด้วย นอกจากนี้ ได้ประสานให้ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจ ไม่ให้นำโค-กระบือเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ใกล้เคียงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกด้วย





 






 
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ยกระดับมาตรการการป้องกันโรคลัมปี สกิน ไม่ให้ติดต่อไปยังสัตว์ป่า โดยจะเข้าดำเนินการในพื้นที่รอบเขตอุทยาน  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานทุกแห่งที่มีสัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยงได้แก่ กระทิง วัวแดง ควายป่า อาศัยอยู่ดังนี้

1. เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือในพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยาน 2. ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการควบคุมและกำจัดแมลงพาหะของโรคในพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานที่ใกล้แหล่งเลี้ยงโค-กระบือ โดยใช้ยาพ่นฆ่าแมลงในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์พาหะ และฉีดพ่นบนตัวโค-กระบือ เช่น คอกเลี้ยงสัตว์ แหล่งที่มีน้ำขัง เป็นต้น3.ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่ 





 






 
หากพบโค-กระบือแสดงอาการผิดปกติตามประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง กำหนดลักษณะการป่วยหรือตายของโค หรือ กระบือ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคลัมปี สกิน พ.ศ. 2564 ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เพื่อควบคุมโรค รักษาพยาบาลสัตว์ป่วยและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

4. ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยาน ดำเนินการป้องกันไม่ให้สัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยง อาทิ กระทิง วัวแดง ควายป่า ออกหากินในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงโค-กระบือ รวมทั้งไม่ให้เกษตรกรนำโค-กระบือเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ที่มีสัตว์ป่าอยู่อาศัยโดยมีระยะแนวกันชนประมาณ 1 กิโลเมตร

5. ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานพ่นยาฆ่าแมลงในยาพาหนะที่เข้า-ออก  ในพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงของแมลงพาหะที่ติดมากับยานพาหนะซึ่งมั่นใจว่า มาตรการดังกล่าวนี้จะสามารถป้องกันโรคไม่ให้แพร่ระบาดไปสู่สัตว์ป่าได้อย่างแน่นอน





 




 
 
 



Create Date : 21 กรกฎาคม 2564
Last Update : 21 กรกฎาคม 2564 15:34:51 น.
Counter : 653 Pageviews.

0 comments
670420 #ข้าวยากหมากแพง สมาชิกหมายเลข 4665919
(19 เม.ย. 2567 05:25:22 น.)
ดราม่า "ออกัส วชิรวิชญ์" : สรุปประเด็นร้อนฉ่า สมาชิกหมายเลข 7995226
(17 เม.ย. 2567 17:07:47 น.)
ใครบ้าง ตอบได้ ว่าทำไมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง 28มี.ค ถึงวันนี้9เม.ย.67ยังจอดคา ไว้กลางทางอยู่ jiab bangkok
(9 เม.ย. 2567 11:52:33 น.)
แกร็บ รับลูก ททท. เปิดตัวแคมเปญ “สุขทันที…ที่เที่ยวกับ Grab" นายแว่นขยันเที่ยว
(1 เม.ย. 2567 07:40:13 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thailand-agriculture.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด