"สศก."เตรียมเปิดโครงการ SAEZ ปั้นโมเดลเขตเศรษฐกิจเกษตรพิเศษสู่เกษตรอุตสาหกรรม
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร  เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้วางแนวทางพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ผลักดันและขับเคลื่อนบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจเพื่อการปฏิรูปภาคการเกษตร ตามนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจเพื่อการปฏิรูปภาคการเกษตร โดยประกาศเขตเหมาะสมต่อการปลูกพืช ปศุสัตว์ และประมง รวม 20 สินค้า (พืช 13 ชนิด และ ปศุสัตว์ 5 ชนิด และประมง 2 ชนิด)

เกษตรกรไทยยังคงประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และความเหลื่อมล้ำ มาโดยตลอด นั่นเป็นเพราะว่า ยังขาดการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่การผลิตของเขตเกษตรเศรษฐกิจขาดมาตรการจูงใจของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 





 






 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้ สศก. ศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจการเกษตรพิเศษ โดย สศก. ได้เสนอโครงการศึกษาวิจัย “การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจการเกษตรพิเศษ” (Special Agricultural Economic Zone: SAEZ)

เน้นการพัฒนา ในเชิงพื้นที่ ทำให้สามารถลงลึกในรายละเอียดได้รวดเร็วกว่าการดำเนินงานปกติหรือการพัฒนาในเชิงภาพรวม นำไปสู่การให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจการเกษตรพิเศษ  และเกิดการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม  

สศก. จะดำเนินการศึกษาวิจัยร่วมกับทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รวมไปถึงการขอรับสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ที่เป็นหน่วยงานเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและการต่อยอดงานวิจัยร่วมกัน





 






 
สำหรับแนวทางในการศึกษา สศก. จะศึกษาตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยใช้โมเดลต้นแบบจากพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor : EEC  ในการศึกษาและจัดทำโมเดลต้นแบบการพัฒนาเขตเศรษฐกิจการเกษตรพิเศษในพื้นที่และสินค้าที่สำคัญ  

โดยจะมีการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน การบริหารจัดการแรงงาน และการให้บริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service  นอกจากนี้ สศก. จะศึกษาถึงความเป็นไปได้ทางด้านการเงินและด้านเศรษฐศาสตร์อีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นจะกำหนดเป้าหมายสินค้าเกษตรเศรษฐกิจ อาทิ ข้าว ยางพารา และ มันสำปะหลัง  

คาดว่าจะเริ่มศึกษาสินค้าข้าว อย่างข้าวหอมมะลิ เป็นชนิดแรก ในพื้นที่แหล่งผลิตสำคัญภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นสินค้าเกษตรเศรษฐกิจที่สร้างรายได้หลักให้ประเทศ มีคุณภาพ มีชื่อเสียง และมูลค่าการส่งออกสูง ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมาก





 








 
หากพิจารณาสถานการณ์การค้าของประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559 - 2563) จะเห็นได้ว่า  ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดไปยังตลาดโลก เฉลี่ยปีละ 7 - 8 ล้านล้านบาท

โดยเป็นมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ เฉลี่ยปีละ 6.5 - 7.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรสำคัญในเขตเกษตรเศรษฐกิจ เช่น ข้าว ยางพารา  มันสำปะหลัง และ ผลไม้  

เชื่อมั่นว่า โครงการ SAEZ  จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิต ช่วยสร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ส่งเสริมผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ก้าวสู่เกษตรอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงตลาดทั้งในและต่างประเทศ

โครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สวก. ในการสนับสนุนทุนวิจัย  และคาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินการโครงการได้ในเดือนเมษายน 2564




 



 



Create Date : 24 มีนาคม 2564
Last Update : 24 มีนาคม 2564 18:52:17 น.
Counter : 332 Pageviews.

0 comments
เที่ยวฟิน in ภาคกลาง ๑๒-๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อุ้มสี
(20 เม.ย. 2567 15:02:48 น.)
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ haiku
(13 เม.ย. 2567 10:13:33 น.)
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่52 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายแว่นขยันเที่ยว
(5 เม.ย. 2567 00:54:22 น.)
มิ้งค์ พิรดา เตชะวิจิตร์ : ว่าที่นักบินอวกาศไทยคนแรก newyorknurse
(26 มี.ค. 2567 01:56:43 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thailand-agriculture.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด