[ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ] จงหยุดพักและมองหาความสุขรอบตัว ![]() สวัสดีหยุดวันแรงงานครับ วีคเอนด์นี้หยุดยาว 4 วัน ถึงจะไปไหนไม่ได้ แต่ใครกำลังเค่รงเครียดกับการ Work from Home 4 วันนี้ก็หยุดพักเติมพลังกันสักนิดนะครับ วันนี้มาพูดคุยถึงหนังที่ทำให้เห็นคุณค่าของการหยุดพักผ่อนกัน ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ เป็นหนังอินดี้ของ GTH ที่เข้าฉายในปี 2015 เขียนบทและกำกับโดย เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของยุ่น (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) มือรีทัชรูปฟรีแลนซ์ชื่อดังที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างงานและสุขภาพ ในขณะเดียวกันการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้เขาค่อยๆ รู้จักสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อได้พบกับหมออิม (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่) ตัวหนังใช้ทุนต่ำเพียง 15 ล้านบาท แต่สร้างรายได้ถึง 86 ล้านบาท และกวาดรางวัลระดับชาติอีกมากมาย นับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ตอนหนังตัวอย่างเข้ากระตุ้นให้คนสนใจกันมาก โดยเฉพาะกับชาวฟรีแลนซ์ที่หนังเรื่องนี้ตีแผ่ความบัดซบของชีวิตฟรีแลนซ์ให้ชาวโลกได้รับรู้ ทีแรกคนคิดกันไปเองว่ามันน่าจะฮา แต่ตัวหนังจริงๆ ไม่ได้ตลกดังที่คาดหวัง แม้จะฮากับหลายประโยคที่ซันนี่กัดตัวเองในใจ แต่โทนของหนังเรื่องนี้ทั้งกดดันและว้าเหว่ ถึงกระนั้นก็มีความสวยงามซ่อนอยู่ **เอ็นทรี่นี้มีการสปอยล์เนื้อหาของเรื่อง**
ตอนไปเที่ยวเซ็นทรัลเวิลด์ได้เจอทีมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้ง ซันนี่ ใหม่ดาวิกา วิโอเล็ต และเต๋อ นวพล มางานโร้ดโชว์หนังเรื่องนี้พอดี (12 ก.ย. 58) ยุ่น เป็นฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียงและงานเข้าเยอะที่สุดในวงการ ถึงกระนั้นเขาก็ทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับเป้าหมายและการท้าทายตัวเองให้ทำงานเร็วขึ้น เก่งขึ้น ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ยุ่นเคยทำสถิติอดนอน 5 วันทำงานส่งลูกค้า แม้ปัญหาที่ฟรีแลนซ์ต้องพบกันทุกคนอย่างลูกค้าบรีฟงานไม่รู้เรื่อง ลูกค้าแก้งานไม่มีเหตุผล ลูกค้าบอกเดดไลน์ที่เป็นไปไม่ได้ ต้องทำงานได้ทุกที่แม้แต่ในงานศพพ่อเพื่อน ฯลฯ แต่เทพยุ่นก็ทำให้มันสำเร็จลุล่วงไปแลกกับตารางชีวิตที่พังพินาศและวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาอาสัยเซเว่นอีเลฟเว่นเพราะมันเปิด 24 ชม. แถมเซฟเวลาในการหาอะไรลงท้องที่สุดแล้ว ![]() แต่สิ่งหนึ่งที่ยุ่นไม่อาจเอาชนะได้คือร่างกาย การโหมทำงานหนักทำให้ร่างกายของเขาเริ่มประท้วง ผุดเป็นตุ่มขึ้น นับวันจำนวนตุ่มยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามร่างกายที่เริ่มพัง เขาเคยไปหาหมอ รพ.เอกชนก็แพงจนค่าจ้างหายไปทั้งก้่อน พอไป รพ.รัฐ ก็ต้องรอคิวยาวเป็นครึ่งวัน แต่ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้พบกับหมออิม ไอเดียเรื่องฟรีแลนซ์มาจากประสบการณ์จริงของผู้กำกับเต๋อ ที่ทำงานฟรีแลนซ์หามรุ่งหามค่ำ และเคยรู้สึกเขินกับหมอสาวสวยในห้องตรวจ จนเสนอไอเดียทำหนังเรืองนี้ขึ้นมา ตัวยุ่นขัดกับนิสัยของซันนี่ที่ปกติจะแสดงแต่บทอิเหละเขะขะ พอต้องมาเล่นเป็นยุ่นที่จริงจังกับงานจนไม่เข้าใจความสุขแบบคนทั่วไปแล้ว ซันนี่แทบไม่รู้เลยว่าจะต้องเล่นยังไง แต่ก็อยากเล่นเรื่องนี้มาก เขาได้คุยกับเต๋อ นั่งดูเต๋อทำงาน ดูท่าทางกิริยาอาการต่างๆของเต๋อ ก็สรุปได้ว่าการเล่นบทยุ่นที่ดีที่สุดก็คือการแสดงเป็นเต๋อนั่นเอง กระทั่งชุดที่ใช้ในเรื่องก็คือเสื้อผ้าของเต๋อจริงๆนะครับ ยุ่นที่เราเห็นในหนังคือซันนี่ที่เล่นเป็นเต๋อครับ ถึงหนังเรื่องนี้จะทุนไม่มากแต่ก็ใช้ดาราแม่เหล็กแถวหน้าของวงการดึงดูดคนดูได้กลุ่มใหญ่ๆเลย พระเอกซันนี่เพิ่งประสบความสำเร็จใหญ่จาก ไอฟาย...แต้งกิ้ว เลิฟยู้ หนังรายได้ 300 ล้าน (แต่ผมไม่ชอบหนังเรื่องนี้) ส่วนนางเอกใหม่ ดาวิกา ก็ดีกรีนางเอกพันล้านจากหนัง พี่มาก...พระโขนง (เรื่องนี้ชอบ) ใหม่ต้องเล่นเป็นหมอหญิงที่วิธีพูด วิธีคิดแตกต่างจากตัวใหม่ไปเลย และความเรียลของเรื่องนี้ผู้กำกับไม่อนุญาตให้นักแสดงแต่งหน้า ดังนั้นหนังเรื่องนี้เราจึงได้เห็นหน้าสดของซันนี่ ใหม่ และวี (ซึ่งก็หล่อสวยกันอยู่ดีอะนะ แต่ซันนี่เล่นเรื่องนี้ยอมหุ่นพังมาก) และใหม่ต้องไปเรียนรู้การทำงานจากที่โรงพยาบาลจริงๆ เพื่อให้รับบทหมอโรคผิวหนังได้สมบทบาทมากขึ้นด้วย เนื่องจากหมออิมอายุรุ่นราวคราวเดียวกับยุ่น จึงพูดคุยเหมือนคุยกับเพื่อน การรักษาอาการของยุ่นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากตัวยุ่นเองด้วย ซึ่งหมอเทียบว่ามันก็เหมือนช่วยกันทำงานกลุ่มละนะ ![]() ทั้งชีวิตยุ่นสนุกกับงานอย่างเดียวจนไม่เข้าใจคนทั่วไปที่มีความสุขกับการเดินช้อปปิ้ง ไปเที่ยวชมทะเล นอนหลับพักผ่อน ฯลฯ เขารู้สึกว่ามันเสียเวลา ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นในเมื่อนิยามความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ประเด็นนี้ทำให้หลายคนรวมทั้งเจ้าของบล็อกอินไปกับหนังเรื่องนี้ได้ง่ายเพราะ mindset ตัวเอกมันคล้ายกับตูเหลือเกิน ในเมื่อเราพูดกันบ่อยๆ ว่าถ้าเราได้ทำงานที่รักเราก็จะมีความสุขไปตลอดชีวิต แล้ววิธีคิดของยุ่นมันผิดตรงไหน? ยุ่นเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นกับหมออิม แต่ตัวเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนได้คุยกับเจ๋ (วี-วิโอเล็ต วอเทียร์) รุ่นน้องที่รับงานมาส่งต่อให้ยุ่น ก็รู้ว่าเขาอาจตกหลุมรักหมอ การนัดหมอได้เดือนละครั่งก็ทำให้การได้พบกันแต่ละครั้งมันมีความหมาย ช่วงที่หาหมอครั้งแรกๆ เขายังไม่กล้าทำตามที่หมอสั่งเพราะกลัวเสียงาน ทำให้โรคไม่หาย แต่พอได้ยินหมออิมบอกว่าเธอแคร์เขามากจริงๆ ก็ทำให้ยุ่นต้องพยายามหายดีเพื่อหมอด้วย เขาพยายามกินยา เพิ่มเวลานอน ลดอาหารสำเร็จรูป ไปออกกำลังกาย ลองไปพักผ่อนชมทะเล แต่ก็ทำให้เขาต้องลดความละเอียดในการทำงานลง ซึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย งานหลุดมือไปจนปฏิทินของยุ่นที่เคยแน่นเอี๊ยดเริ่มว่างขึ้น สุขภาพของเขาดีขึ้นแล้ว แต่ก็แลกมากับการเสียงานที่เขารักไปล็อตใหญ่ หมออิมเองสบายใจที่คนไข้ดีขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่ได้ไปพบกับหมออีกแล้วด้วย บวกกับการได้เห็นรุ่นน้องได้งานมีชื่อเสียงข้ามหน้าข้ามตา ก็ทำให้ยุ่นอยากกลับไปโหมทำงานใจแทบขาด งานแรกที่เขารับหลังจากว่างงานอยู่พักใหญ่กลับเป็นงานที่เขาไม่อยากทำ นั่นคือการรีทัชภาพพรีเว็ดดิ้งให้เจ๋ เหมือนสายฟ้าฟาดลงหัวเมื่อรู้ว่ารุ่นน้องที่คิดว่าจะทำงานอยู่ด้วยกันมาตลอดจะต้องออกไปแต่งงาน บทของเจ๋เป็นรุ่นน้องที่ทำงานยุ่นที่คอยสกรีนรับงานให้ ให้อารมณ์เจ๊ใหญ่ พูดจาห้วน เถียงเก่ง แต่ก็ห่วงใยคนอื่น ความที่ต้องเล่นบทเป็นคนที่อายุมากกว่าตัวเอง และต้องคอยกดดันคนที่อายุมากกว่าตัวเองเป็นสิบปี ก็เป็นงานยากของวีที่ปกติจะน่ารักสดใส แต่เพราะซันนี่เปิดให้ด่าเขาได้เต็มที่ วีก็เลยเล่นง่ายขึ้นไปด้วย ![]() "ไหนบอกจะทำงานด้วยกันไปตลอด กูคิดว่าไม่มีใครแทนมึงได้ไง จะไปหาคนเก่งกว่ามาทำกูก็ไม่เอา มันไม่ใช่มึง" ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ยุ่นรู้ว่าสุดท้ายวันนี้ก็มาถึง เขาได้เห็นคลิปที่ถ่ายตอนแฟนมาขอเจ๋แต่งงานพร้อมคิดว่าถ้ามึงร้องไห้พรุ่งนี้กูจะไปถีบหน้ามึง แต่พอดูจบแล้วเขากลับน้ำตาไหลเสียเอง เมื่อชีวิตได้พบกับความเปลี่ยนแปลงบางครั้งก็นำมาซึ่งความรู้สึกใหม่ๆ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัว ตอนนี้เขาอาจสูญเสียทั้งหมออิมและเจ๋ไปตลอดกาลแล้วก็ได้ เมื่อได้โอกาสรับงานใหญ่อีกครั้งยุ่นก็ตบปากรับคำทันที เมื่อครั้งที่ทำงานให้อดิดาสเขาทำพลาดจนเสียโอกาสได้ไปจัดแสดงผลงานที่ญี่ปุ่น แต่คราวนี้เป้งรุ่นพี่ที่รู้จักไปรับงานจากอาร์ตแกลเลอรี่ที่นิวยอร์ค ซึ่งสเกลใหญ่กว่ากันแบบเทียบไม่ติด เป็นโอกาสที่จะได้กอบกู้ชื่อเสียง เมื่อได้ข่าวเจ๋ตกใจมากที่ยุ่นรับงานจากพี่คนนี้ที่ในวงการรู้กันว่าชอบหลอกใช้คน ต่อให้เป็นยุ่นก็ไม่มีทางทำงานสเกลสองเดือนให้เสร็จภายในสองอาทิตย์ได้อยู่แล้ว แตุ่ยุ่นก็ปฏิเสธความหวังดีของเจ๋เพราะตอนนี้เขาไม่เหลืออย่างอื่นอีกแล้ว แล้วการทำงานข้ามสัปดาห์ก็ดำเนินไปอย่างกดดันอย่างถึงขีดสุด ...ยุ่นอดนอน 6 วันทำลายสถิติตัวเองไปก็แล้ว เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย ...ผื่นกลับมาเต็มตัว อาหาร 7-11 กองเต็มห้อง เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย ...ทำลายสถิติอดนอนของมนุษยชาติ 11 วันไปแล้ว เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย ...ล่วงเข้าวันที่ 12 เริ่มฉี่เป็นเลือด เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย ..."กูทุบสถิติโลกว่ะ บียอนด์สัดๆ กูว่ากูมาถึงจุดสูงสุดของการทำงานแล้วว่ะ" ยุ่นตาย (อ้าว) ถึงจะอยากทำงานให้เสร็จใจแทบขาดยังไงร่างกายก็ไม่อนุญาตให้ยุ่นทำงานอีกต่อไปแล้ว เขาจินตนาการไปถึงงานศพของตัวเองที่เคยคิดไว้ว่าอยากจัดขึ้นในห้องทำงานของตัวเอง มีศิลปินที่ชอบอย่างไทรอั้มคิงด้อมมาร้องเพลงผ้าเช็ดหน้า (คนรุ่น 90s แท้ๆเลยครับ) ถ้ามีคนมาร่วมงานศพก็คงมี เจ๋ ไก่ (พนักงานเซเว่น) พงศธร (เพื่อน) แม่ 4 คน จบ น้อยจัง... ยุ่นเริ่มคิดว่าชีวิตที่ผ่านมามันช่างอ้างว้างว่างเปล่า เขาไม่แน่ใจว่าอยากให้หมออิมมาด้วยหรือเปล่า เพราะเขาทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับหมอ พอนึกแล้วเขายังอยากทำอีกหลายอย่าง ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกเจ๋ ยังไม่ได้ตัดต่อรูปให้แม่ และยังไม่ได้เล่าเรื่องที่ไปทะเลให้หมอฟัง ![]() ฉากที่ไม่รู้ว่าจะฮาหรือจะเศร้าอย่างฉากงานศพในห้องนี้เป็นซีนที่คนชอบกันเยอะที่สุดในเรื่อง เพลงประกอบฉากนี้คือเพลง เวลานี้ ของณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ทีแรกคิดว่า TK ร้องเพลงผ้าเช็ดหน้าอยู่ เอ๊ะ ทำไมเสียงไม่ใช่?) "หมอเค้าเลยบอกไงว่าอย่าตาย... ร่างกาย กูขอโทษ กูยอมแล้ว แต่มึงไม่ให้อภัยกูแล้วใช่ไหม บ๊ายบายทุกคน..." แต่เป้งที่มาตามงานมาเจอยุ่นนอนกองกับพื้นก็ชกเรียกสติแล้วพาไปส่งโรงพยาบาล เขารอดความความตายมาได้แต่ก็ไม่คิดอยากกลับไปทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ ตอนนี้เขาขอทำสิ่งที่อยากทำมากที่สุด -- คือนอน ใช่แล้วครับ ความสุขสูงสุดของมนุษย์คือการนอน ...ไม่สิ ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือการเปิดรับสิ่งใหม่ให้ชีวิต แม้ยุ่นจะดำเนินชีวิตบนสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นและเป็นเหตุเป็นผลอย่างถึงที่สุด แต่เมื่อปิดคอมพิวเตอร์ เขาก็ได้รู้จักกับสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเขาไม่เคยได้พบและไม่เคยเข้าใจ เขาไม่เคยเข้าใจคนที่นอนเล่นทิ้งเวลาไปเป็นวันๆ แบบไม่ทำอะไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงชอบไปมองพระอาทิตย์ตกทั้งที่มันก็ตกอยู่ทุกวัน เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนเราถึงมีความรัก จนกระทั่งมันเกิดขึ้นกับตัวเอง ยุ่นกลับไปเล่าให้หมออิมฟังว่าเขาได้ไปดูพระอาทิตย์ตกตามที่หมอบอกมาแล้วจริงๆ "ผมเคยคิดว่าเสียเวลา แต่วันนั้นนั่งดูเป็นชั่วโมงเลย ตอนนั้นผมรู้สึกมีความสุข คล้ายๆกับทุกครั้งที่มาเจอหมอ" อาการตุ่มของยุ่นกลับมาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ของเขาและหมออิมถูกทิ้งไว้ให้คนดูคิดต่อกันเอง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้พวกเขาคงไม่จำเป็นต้องมาพบกันเฉพาะตอนที่ยุ่นไม่สบายอีกต่อไปแล้ว เพราะโลกของยุ่นได้เปิดออก เพื่อรับสิ่งใหม่ๆ หลังจากนี้ โดยเฉพาะหมออิมผู้มอบสิ่งสำคัญให้เขา ย่อมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีให้ก้าวเข้ามายังโลกใบใหม่ของยุ่นนี้ หนังเรื่องนี้จบลงโดยไม่ได้เห็นบทสรุปของความรักหรือการชี้ชัดว่าความรักของทั้งสองจะสมหวังหรือไม่อย่างไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดนั่นคือการที่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์ ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนานแต่เราเคยมองข้ามมันไป ![]() ![]() เพลงจบของหนังเรื่องนี้คือ ดวงอาทิตย์ ของณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เช่นกัน เข้ากับหนังเรื่องนี้ดีนะครับ ถึงจะฟังเนื้อร้องไม่ค่อยเข้าใจแต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เพลงประกอบภาพยนตร์คือ Vacation Time ร้องโดยวีและแสตมป์ ปรับเนื้อร้องจากเพลงต้นแบบของวง Part Time Musicians ที่เป็นภาษาอังกฤษ ขอมอบขนมจีบกุ้ง 4 ไม้ให้หนังเรื่องนี้ครับ ![]() ![]() ![]() ![]() เนื้อเรื่องแบบนี้น่าดู ไม่เหมือนหนังไทยที่ผ่าน ๆ มาเนาะ 555
เดาเรื่องได้ยาก การแต่งหน้าน้อยแบบนี้เหมือนชีวิตจริง น่าดู..ครับ เรื่องทำงานเช้ายันดึกนี่ ทำบ่อยเพราะ งก 555 ดีนะตอนนี้ พักผ่อนยาว รอมิย เนาะ โดย: ไวน์กับสายน้ำ
![]() ![]() พี่ก๋าไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ
แต่อ่านแล้วนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจบโควิด วิธีการทำงานของเราคงเปลี่ยนไปเยอะมาก บางคนก็อาจต้องทำงานอยู่ที่บ้าน เป็นฟรีแลนซ์ หรือไม่ก็ตกงานไปเลย พี่ก๋าซื้อกีตาร์ตัวแรกตอนเรียนชั้น ม.2 ครับ เล่นมานานมาก เพิ่งปลดระวางไป เพราะตรงคอกีตาร์มันบุ๋มลงไปเลย เล่นบ่อยมาก เล่นแทบจะทุกวันครับ พี่ก๋าเดินถนนคนเดินนับครั้งได้เลย พี่ไม่ค่อยไปที่ที่คนเยอะๆครับ 555 นักกีตาร์ในดวงใจชอบหลายคนนะ ป๊อบ เดอะซัน จรัล มโนเพ็ชร เมืองนอก็ชอบแกรี่ มัวร์ ซานตาน่า ฯลฯ ครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เพลงที่น้องชีริวส่งคลิปมาให้ดู
ทำนองเพราะมากเลยนะครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() อ่านเนื้อเรื่องแล้ว อุ่นใจจังค่ะ
เคยดูในทีวี แต่แค่ช่วงท้ายเรื่อง ก็ยังสนุกเลย ไม่ได้หวือหวา แต่มันอุ่นใจดีนะคะ โดย: VELEZ
![]() คนเรามันก็แปลกนะ ยอมแลกร่างกาย เพืื่อเงิน แล้วเองเงินมาซื้อร่างกาย จริงๆ ผมมองว่ามันเป็นปัญหาสังคม ใครๆ ก็อยากได้เงิน แต่จะทำอย่างไรให้ได้มา จริงๆ ในเรื่องไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ แต่อยากให้ลองมองสิ่งใหม่ๆ แต่มันอดไม่ได้ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา
แต่ทว่า ในยุคนี้ที่ ข้าวยาก หน้ากากแพง เบียร์ซื้อไม่ได้ มีงานทำถือเป็นเรื่องดีแล้วครับ โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() ยังไม่ได้ดูหนังเหมือนกันค่ะ
เห็นผ่านๆในTV แต่เห็น MV นานแล้ว ชอบๆ เหมือนไอเดีย เพลงดังของฝรั่ง(จำไม่ได้) การนอนสำคัญสุดๆ เคยนอนๆยาวววววันหยุด แม่แค่ปลุกมากินข้าวตามมื้อ ไว้หนังกลับมาฉากจะต้องดูๆๆ ![]() ![]() ![]() โดย: เริงฤดีนะ
![]() ![]() เรื่องนี้ผมจำได้เลยดูรอบสื่อที่เอสฯ รัชดา ตอนนั้นมีแฟนคลับของหลายคนมาก ดูไปส่งเสียงกรี๊ดไป ได้อรรถรสไปอีกแบบนึงครับ ชื่นชอบนักแสดงทุกคนเลยครับ ซันนี่นี่คาดการณ์ไม่ได้เลยแต่ผมชอบไข่ย้อยเพื่อนสนิทมากที่สุด ใหม่มาได้ทุกแนวชอบทุกบทบาท วีน่ารักดีนะครับ
จากเรื่องนี้มีวลีเด็ดที่โด่งดังด้วยนะครับ ไปคะพี่สุชาติ 555 โดย: The Kop Civil
![]() ![]() การได้นั่งชมพระอาทิตย์ช่วงเย็น ๆ หรือเช้า ๆ
มันได้ความรู้สึกที่ดีนะ ก็ทำอยู่บ่อย ๆ ในช่วงหนึ่ง ที่บ้าปั่น จักรยานคนเดียวไปตามหาดแล้วหยุดจอด ใช้เวลานั่งดูอยู่ พักใหญ่ก่อนกลับบ้าน...แต่ดันสะดุดที่มีเด็กมาป้วนเปี้ยนแถวนั้น คนนึงแล้ว พ่อเด็กที่ไล่หลังมาก็บอกว่า .... มานี่ลูก พี่เค้ากำลัง เศร้าอยู่ (ว้อท????) นั่งดูพระอาทิตย์ริมทะเลมันแปลว่าเศร้า ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ฟระ อ้าว วี ชื่อ "เจ๋" หรอเนี่ย ฟังผิดเป็น "เจ้" มาตลอด //ตาย ๆ หูเริ่มเพี้ยน...เพี้ยนไปทุกอย่างละช่วงนี้ เคยได้ยินคนพูดว่า งานหนักไม่เคยฆ่าใครตาย แต่เรื่องนี้พอได้ดู ก็รู้สึกว่า งานแบบนี้ดิ่พาจะเราตาย มันอาจเป็น Quote เก๋ ๆ จากฝั่งนายจ้างมากกว่า พอ ๆ กับ Arbeit Macht Frei ไหน ๆ ก็สปอยด์มาแล้วก็โม้ต่อละกัน ฉากท้าย ๆ ที่ยุ่นฟื้นใน โรงพยาบาล แล้วมีคนมากล่อมเรื่องงานแบบวางประเคนให้ทำ โว้ยยย....เห็นสีหน้าเฉยชาเบื่อโลกของยุ่นแล้ว แบบว่าได้มากอ่ะ วี เรื่องนี้น่ารักนะ มาพลิกมุมจากสาวบ้างาน จุกจิก ทุกอณูรายละเอียด ก็ตรงที่จะมาแต่งงานนี่แหละ อิตายุ่นไปไม่เป็นเลยทีนี้ ถ้าเรื่องของยุ่นมาอยู่ในช่วง เคอร์ฟิว ตอนนี้ แกจะไปหาที่ระบายด้วยการตีแบตฯ รอบดึกไงเนี่ย ![]() โดย: กาบริเอล
![]() สวัสดี จ้ะ น้องชีริว
ขอบใจที่แวะไปอ่านบล็อก สังเวชนียสถาน และให้กำลังใจจ้ะ เหลืออีก 4 ตอนก็จบทริปแล้วจ้ะ ภาพยนตร์ที่นำมา รีวิว เรื่อง "ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ " ชื่อเรื่อง น่าสนใจ ชวนติดตาม เนาะ จากการเล่าเรื่องย่อแล้ว ก็เหนื่อยใจ นะ เหนื่อยว่า ทำไม ยุ่น ตัวเอกของเรื่อง ต้องทำงานหนัก ไม่ได้นอนเลย ตั้ง 5-6 วัน ร่างกายจะทนรับไหวได้อย่างไร มันเป็นข้อคิดให้ คนดูได้ดีนะ พวกที่ทำงาน อยากได้เงินเยอะ ป่วยแล้ว ก็ต้อง เสียเงินก้อนใหญ่ อย่างที่ ยุ่น ได้เสียไป พฤติกรรมของ ยุ่น จะเป็นตัวอย่างที่ทำให้คนดูภาพยนตร์ นำไปเป็นข้อคิดได้เป็นอย่างดี ทำงานหนัก ได้เงินเยอะ แล้วได้ใช้หรือไม่ ตายไปก็ไปตัวเปล่า การทุ่มเทให้กันงานที่ทำ เป็นสิ่งดีได้ ต้องไม่ทำให้ ร่างกายเราเดือดร้อน เงิน ใคร ๆ ก็อยากได้เนาะ แต่ได้แล้ว มันคุ้มค่าหรือไม่ นี่ต่างหาก ที่คนเรามักลืมคิดไปเสมอ ก็ยังโชคดี นะ ตอนจบของเรื่อง ยุ่น ยังสำนึกได้ว่า ชีวิต ร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเงินทอง ก็เรียกว่า ภาพยนตร์ เรื่องนี้ ปิดท้ายด้วยการให้ข้อคิดแก่คนดูได้เป็นอย่างดี จ้ะ โหวดหมวด ภาพยนตร์ โดย: อาจารย์สุวิมล
![]() ![]() ว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง
แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการ ได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์ ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนาน แต่เราเคยมองข้ามมันไป.. ชอบมากกกกกกกกกก.. ปัญหาความเจ็บปวดจากความรัก มันเกิดจากความคาดหวังนี้ล่ะค่ะ เหอๆ จากบล็อก.. จ้องแผงทุเรียนอยู่เหมือนกันค่ะ.. แต่ไข่ยังไม่แตก นี่ปีก่อนๆโล120ก้อว่าแพงละ ปีนี้มา 150-180 ปวดใจมาก ที่หน้าหมู่บ้านตอนนี้โล140 คนซื้อกันเยอะเหมือนกัน บ่ายๆของหมดละ.. แล้วนะดูข่าวเขาบอกผลไม้ขายไม่ได้ ถูกลงนั่นนี่.. เราว่านะสงสัยถูกแต่หน้าสวน พ่อค้าคนกลางยังฟันกำไรได้คือเดิม.. ปล.เงาะอร่อยมาก.. ไม่อยากจิคุย คิคิ ![]() โดย: nonnoiGiwGiw
![]() ![]() เออ จริงด้วย พูดอีกก็ถูกอีก เข้าเอกชนไม่ไหว ถ้าไม่มีพวกประกันหมู่ ไปใช้ประกันสังคมหาหมอทีนึงนี่โหดร้ายมาก เสียเวลาครึ่งวัน ถ้าติดช่วงพักเที่ยงด้วยนี่จะยิ่งต้องรอมากขึ้น
โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() คุณพ่อน้องชีริวก็เล่นกีตาร์ด้วยนะครับ
ซานตาน่าเพราะดีครับ สำเนียงกีตาร์ชัดเจนเลย จริงๆอีกคนที่ชอบก็มี สแลช วงกันแอนด์โรสด้วยครับ พี่ก๋ามีเพื่อนอกหักเยอะ 555 เวลาเพื่อนมาเล่าอะไรให้ฟัง เราก็เอามาแต่งเป็นเพลงต่อ เพื่อนบางคนเคยขอให้แจ่งเพลงให้เค้าก็มีครับ เวลาที่อกหัก 555 ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ใช่ค่ะ แอฟ PosterLabs มีแบบให้เลือกเยอะเลยค่ะ
ทำออกมาสวยกว่าเราแต่งภาพเองตั้งเยอะ แต่ติดตรงที่เราแก้ไขข้อความบางข้อความใน Poster นั้นไม่ได้ โดย: VELEZ
![]() เรื่องนี้ ชอบหมดเลยค่ะ
พระเอก นางเอก ตัวประกอบ เพลง เรื่องราว ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ สรุปว่า ชอบ ไม่มีข้อติ แต่ไม่เคยดูหรอกนะคะ อ่านตามที่น้องชีริวรีวิวมา เพลงvacation นักร้องไทย เสียงดี ร้องเพราะกว่าเวอร์ชั่นฝรั่ง ส่วนเพลง ดวงอาทิตย์ กับ เวลานี้ ให้ลูกชิ้นกุ้งไม้เดียว แต่มันคือเต๋อ มันต้องมี แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดนั่นคือการที่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์ ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนานแต่เราเคยมองข้ามมันไป น้องชีริวสรุปตอนท้าย. ส่วนพี่น่ะ ถ้ารักชอบต้องไขว่คว้าล่ะ เพราะถ้าได้รู้จักแต่ไม่ได้ มันคือความเศร้าแล้ว ส่วนดวงอาทิตย์ คงเหมือนพ่อแม่ อยู่ไกลๆหน่อยก็ดีนะ ไม่มีก็ไม่ดี ใกล้เกินไปก็นะ เวลาจะลับไปก็คิดถึง รอเวลาพบกันใหม่ มาเต็มๆใกล้ไปก็หลบดีกว่า โดย: mcayenne94
![]() ![]() ![]() แบบนี้กำกับอย่างถึงแก่นแน่นอน หนังนี้จขบ.สปอยล์ได้ดีเยี่ยม เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่รีวิวไว้ครั้งก่อนค่ะ ยังไม่เคยดู แต่รู้ว่าดังมาก รายได้ถล่มทลายตั้ง 86 ล้าน จากต้นทุน 15 ล้าน แถมได้ รางวัลมาการันตีว่า หนังน้ำดีอีกด้วย โห..ต้องไปตามหาดู จากเน็ทบ้างละ...เหมาะมากๆกับวัยคนทำงาน สอนให้รู้ว่า "อย่าบ้างานจนลืมเรื่องสุขภาพ" ทัศนคติหรือความเชื่อ ของยุ่นเหมือน จขบ.เลยเหรอ... งั้นก็ได้ข้อคิดไปหนึ่งดอกละ...ความรักล๊ะ!!! เหมือนป่ะคร้า หนังเรื่องนี้ครบรสเลย สมกับที่ได้รางวัล ชอบ MV จัง ขอบคุณคร้า... ![]() โดย: Tui Laksi
![]() ![]() งานสำคัญแต่สุขภาพก็ต้องใส่ใจอย่างดีที่สุดนะคะ
หนังดี หนังดัง ให้ข้อคิด ให้ความเพลิดเพลิน น่ายินดีมากๆค่ะที่หนังประสบความสำเร็จอย่างนี้ ต้องหามาดูบ้างแล้วค่ะ ใบแมงลักพี่ต๋าเคยซื้อผิดเหมือนกันค่ะ เอามาแทนกันไม่ได้ด้วยนะคะ ฝันดีค่ะน้องชีริว โดย: Sweet_pills
![]() ![]() ชีริว Movie Blog ดู Blog
สิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง แต่เป็นการได้รู้จักความรัก คนดูจะได้ไอเดียนี้ทุกคนมั๊ย ตอนดูเรื่องนี้ห็รู้สึกเหมือนกันว่าจบแปลกๆ เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ไอเเดียนี้จากหนัง แต่ได้จากบล็อกนี้จ้า ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
![]() ![]() จากบล็อก
X Japan ตอนนี้ไม่ค่อย active แล้วนะครับ ล่าสุดที่เป็นข่าวคือปี 2018 เล่นแบบไม่มีคนดู เพราะเกิดพายุใหญ่ คนมากันไม่ได้ พี่แกเลยเล่นแบบไม่มีคนดู (สุดยอดมาก) ที่เคลื่อนไหวจริงๆ น่าจะมีแค่โยชิกินี่แหละครับ โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() เป็นการ์ตูนแบบ ผึ้ง มีขา อะไรแบบนี้ค่ะ
เขียนลงเื้อยืดด้วย ไม่ได้เขียนแบบโฉบเฉี่ยวเหมือนสมัยนี้ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ![]() ทุเรียน...หมอนทอง ยังแพงมากเช่นเคย เราอยากทาน ก็ยอมควักกระเป๋าเป็นบางที แต่ไม่บ่อยจ้า 5 5 5 ปลดล๊อกบ้างแล้ว...ไปไหนไกลบ้านได้ยังคร้า ![]() โดย: Tui Laksi
![]() ![]() โหยยยย จาก50 มาเป็น150 เกินเหตุจริงๆ..
จะขายออนไลร์มันก็ยากนะทุเรียนเนี่ยะ ![]() โดย: nonnoiGiwGiw
![]() ![]() 555 ตัดภาระไปหนึ่งอย่างนะคะ
ฝันดีค่ะน้องชีริว โดย: Sweet_pills
![]() ![]() พี่ก๋าแต่งเพลงเร็วมากครับ
เพลงนึงถ้าเขียนได้ไหลลื่น ไม่เกิน 15 นาทีน่าจะเขียนจบ จริงๆเชียนที่ไหนก็ได้ด้วยครับ ไม่ต้องเงียบเสมอไป แต่ำจเป็นต้องมีแรงบันดาลใจนะครับ อันนี้สำคัญเลย เวลามันมา จะเขียนได้ทันที ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เพลงเวลานี้ เพราะดีค่ะ ฟังแล้วนึกถึงตอนใส่ชุดนักศึกษา แอร๊ยยย นั่นมันยุคไดโน้..นานมาแล้วนะป้า 555 ได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ สนุกน่ารักดี
ในบล๊อก "อิผิน" เป็นชื่อย่อใช้แทน เพื่อนหญิงชาวฟิลิปปินส์ ผันเสียงจากปินส์ เป็นผิน เพราะกลัวมันจำได้ 555 ![]() โดย: Max Bulliboo
![]() สวัสดีมีสุขค่ะ
มาอ่านเรื่องย่อเอานะคะ ยังไม่เคยดูค่ะ ชอบใหม่ ตาโตดีค่ะ ไม่ต้องแต่งหน้าก็สวยเข้มแล้ว ส่วนซันนี่ ชอบมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ กวนโอ๊ยดี ขอบคุณกำลังใจที่ให้เปียกสาคูต้นด้วยนะคะ โดย: ตะลีกีปัส
![]() ![]() สวัสดีค่ะน้องซีริว
พี่ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ดูภาพยนต์บ่อยนัก แต่เรื่องนี้อ่านแล้วต้องหาโอกาสดูค่ะ ชอบนักแสดงด้วย พี่ว่าหลังโควิทผ่านไป อะไร ๆ คงเปลี่ยนไปเยอะ แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือ การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดค่ะ โดย: เนินน้ำ
![]() ![]() เป็นรีวิวหนังที่ดีงามสมควรค่าแก่การโหวตมว้ากกกกกกกกกกกกก
ชอบบทสรุป มันจริงมากๆ เลยแหละนะ พี่ดูหนังของเต๋อมาไม่กี่เรื่อง แต่ชอบทุกเรื่องเลย บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต **mp5** Dharma Blog ดู Blog กะว่าก๋า Music Blog ดู Blog toor36 Music Blog ดู Blog ภาวิดา คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog nonnoiGiwGiw Food Blog ดู Blog ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog Sweet_pills Food Blog ดู Blog ชีริว Movie Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() ชีริว Movie Blog
ชอบเหมือนกันค่ะ ฟรีแลนซ์ ส่วนตัวชอบซันนี่ กับบุคลิกของเขาค่ะ ส่งกำลังใจค่ะ โดย: mariabamboo
![]() ![]() แวะมาทักทายยามดึกค่ะคุณชีริว เรื่องนี้ลิ้มได้ดูนอกโรงค่ะ เป็นเรื่องที่สอนชีวิตได้ดีเลยค่ะ ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน วงการทำงานมีอยู่แค่นี้ไม่ว่าจะงานอะไร แต่สุดท้ายแล้วชีวิตไม่ได้มีแค่การทำงาน เรายังมีตัวเรา ครอบครัว เพื่อน ฯลฯ ที่ต้องเอาใจใส่ดูแล สิ่งที่ดีที่สุดคงจะเป็นการบาลานซ์ชีวิตนี่แหละเนอะ
โดย: น้อยหน่ากะสาลี่
![]() พี่ก๋ายังไม่เคยร้องเพลงของเพื่อนเลยครับ 555
ปกติครองตำแหน่งนักร้องนำในวงเหล้าโดยตลอด เว้นแต่ตอนเพื่อนเมามากๆ พี่ก๋าก็จะอู้งานเล่นกีตาร์อย่างเดียว ให้เพื่อนเมาๆร้อง สนุกดีครับ 555 ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ทุเรียนน่าจะราคาลงยากค่ะคุณซีริว แม่ค้าบอกว่าตอนนี้ราคาที่สวนขึ้นมาอีกแล้ว จีนน่าจะเข้ามาซื้อแล้วค่ะ
โดย: เนินน้ำ
![]() ![]() อิอิ.. คิดว่าเดี๋ยวต้องกลับ เข้าเผ่าแล้วแหละ
คงต้องบอกลาน้ำปลาหวานสักพัก.. จริงๆตอนเราอยู่คนเดียว ก็ไม่ค่อยขยันทำอะไรกินหรอกค่ะ นี่แม่มาหลบโควิดด้วยเลยกินกันบันเทิงไปเลยแหละ ![]() โดย: nonnoiGiwGiw
![]() ![]() ชอบหนังเรื่องนี้ครับ เดาตอนจบไม่ถูก
ดูหลายครั้ง ถ้าเจอทางทีวีก็จะดูซ้ำ ช่วงนี้พวกเขาที่มีอาชีพนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ![]() โดย: Insignia_Museum
![]() ![]() ให้ขนมจีบเลยเหรอ
ขนมจีบกุ้งอร่่อยนะ 555 เอาจริงๆ รินคนเดียวปะเนีย ที่ดูหนังนี้ไมค่อยอินอ่ะ มันเค้นอารมณ์หรือไม่มีฉากไรน่าตื่นเต้นเลย มีแค่คุยๆ ทำงานกันไปเท่านั้น เจอแผลไรใหม่ก็ไปหาหมอแค่นั้น นี่แหละรินไม่อิน แต่ทั้งที่เข้ากับชีวิตตัวเองมากด้วยแท้ๆ 555 ![]() โดย: Rinsa Yoyolive
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|
เรื่องนี้ไม่ได้ดูในโรง
แต่มาดูทางเคเบิ้ลทรูนำมาออนแอร์
ดูไปสองรอบ
ชอบฉากจบ
สัจธรรมของหนังคือ
การพักผ่อนให้เพียงพอ
เข้าใจธีมหนังเลย
เพราะสมัยก่อนที่ทำออฟฟิศ
ออกกองถ่าย 4 วัน
กลับมาตัดงาน 2 วัน
วันอาทิตย์หยุด
แต่ก็ต้องเตรียมงานของอาทิตย์ต่อไป
นอนออฟฟิศเลย
เพราะกว่างานจะเสร็จ
บางทีเส้นยาแดงผ่าแปด
ส่งงานแปดโมงเช้า
งานเพิ่งเสร็จ 7 โมง