ธรรมะวันนี้ ๒๖ ก.พ. ๒๕๖๘

 

    …ธรรมะวันนี้…  

  บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และสิ่งที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอันยังไม่ถึง

   :-พุทฺธวจน
_______________________

   "น" มารดา   "โม" บิดา
  น เป็นธาตุของมารดา โม เป็นธาตุของบิดา เป็นผู้ทะนุถนอม กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมาด้วยการให้ข้าวสุกและขนมกุมมาส เป็นต้น
  ท่านจึงเรียกมารดาบิดา ว่า "ปุพพาจารย์" เป็นผู้สอนก่อนใครๆ ทั้งสิ้น สมบัติในโลกนี้ ต้องออกไปจาก "นโม" ทั้งสิ้น

   :-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
_______________________

   ดับไฟได้ย่อมไม่เร่าร้อนเป็นทุกข์  
   ไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ของตนเอง
   ไฟ คือ ความโลภ โกรธ หลง
   ไฟ คือ อาการกระเพื่อมออกของจิตใจตนเอง เป็นเพราะเราเอง มีสติ
ยังไม่แข็งแกร่ง
   ...ดับไฟ คือ อาการกระเพื่อมออก
ของจิตใจตนเองยังไม่ได้ จึงดับทุกข์ให้แก่ตนเองไม่ได้

   :-หลวงปู่ไม อินทสิริ.
_______________________

   กำหนดให้แน่วแน่ ยิ่งอยู่กับผู้รู้ สติกับผู้รู้อย่าให้เคลื่อน ไปตามกิริยาอาการใดๆ จิตก็จะรวมได้ก็เพราะ สติอย่างเดียวเท่านั้น

   :-หลวงปู่คำดี ปภาโส
_______________________

   ความพลัดพรากจากของรัก ความไม่ได้สิ่งที่อยากได้ ความไม่ได้สิ่งที่อยากเป็น เหล่านี้เป็นของธรรมดา ไม่ใช่เรื่องสำหรับเศร้าโศกเสียใจ มี "ปัญญา" เห็นจริงอย่างนี้แล้ว คิดอะไรก็ดี ทำอะไรก็ดี พูดอะไรก็ดี ดีทั้งนั้น

   :-หลวงปู่ขาว อนาลโย
_______________________

   พลังแห่งชีวิตนั้น ไม่รู้จักระย่อท้อถอย เด็กหัดเดินแม้จะล้มแล้วล้มเล่า แต่ก็ไม่เคยหยุดลุก หญ้าอ่อนแม้จะถูกหินทับ แต่ก็สงบตัว
เพียงเพื่อรอวันแทงยอดขึ้นใหม่
ไม้ใหญ่ แม้ถูกไฟแล้งเผาผลาญ
แต่ก็พร้อมแตกหน่อเมื่อฤดูฝนมาเยือน พลังแห่งชีวิตนั้นไม่รู้จักระย่อท้อถอย อุปสรรคถึงจะมาขวางกั้น
อันตรายถึงจะมาคุกคาม แต่ไม่เคยสยบชีวิตให้จำนน

   :-พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
_______________________

   คฤหัสถ์ที่เป็นพระโสดาบันนั้น
เขามีศีล ๕ ไม่ด่างพร้อยแล้ว แม้พระภิกษุสามเณรเป็นปุถุชนคนหนาอยู่ก็สู้พระโสดาบันที่รักษาศีล ๕ บริสุทธิ์อยู่บ้านไม่ได้

   :-หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
_______________________

   คนที่มาทำบุญร่วมกันในชาตินี้
เห็นหน้ากันแล้ว รักกันเหมือนน้อง เหมือนพี่ ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเห็นกัน
แต่ความจริงทุกคนนั้น มีความรัก มีความพอใจและก็มีความใคร่ในธรรม ปฏิบัติธรรมร่วมกันมาตั้งแต่ในอดีตชาติ

   :-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
_______________________

  โลกนี้มีเราคนเดียว
   "เอกายโน อยัง ภิกขเว มัคโค สัตตานัง"
  ทางเป็นทางสายเดียวเป็นทางเอก
เป็นทางหมดทุกข์ เป็นทางที่เข้าถึง
ซึ่งพระนิพพาน หมายความว่า 
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เราคนเดียวนี่ เราไม่มีใคร ในโลกนี้ ถ้าเราบอกว่า มีพ่อ มีแม่ มีพี่น้อง มีผัว มีเมีย มีลูก มีหลาน มันจริงตามสมมุติ

   :-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
_______________________

  บุญบันดาลคุ้มภัย
   "คนเราหากปฏิบัติมั่นคงในศีลธรรม ถ้าบ่มีกรรมหนักเข้าแทรก
เมื่อถึงคราวคับขัน อำนาจศีล อำนาจธธรรมจะแสดงปาฏิหาริย์ออกมาให้เห็น ปาฏิหาริย์ธรรมบ่ได้เกิดขึ้นทุกเวลา ธรรมมาปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับผู้มีบุญที่ยังบ่ถึงฆาตเท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่าตนเองมีบุญบารมีแค่ไหน ให้ดูในเวลาที่ตนเองตกอยู่ในภาวะคับชัน เมื่อนั้นจะเห็นปาฏิหาริย์แสดงออกมา บุญบันดาลคุ้มภัย"

   :-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
_______________________

   ผู้ที่จะปฏิบัติให้พ้นจากทุกข์
ผู้ที่จะปฏิบัติให้พ้นจากทุกข์แล้ว
ไม่มีสิ่งใดนอกจากปฏิบัติทางจิตทางใจ ให้ปล่อยวางละสิ่งทั้งปวงหมดแล้วมาอยู่เป็น "กลาง".. ไม่มีหยาบ ไม่มีละเอียด ตลอดจนไม่มีสมมติบัญญัติ มันจึงพ้นจากโลกได้

   :-หลวงปู่เทสก์ เทสุร์สี
_______________________

   "แท้ที่จริงแล้ว ดีชั่วมันเป็นอารมณ์จิต ความคิดที่มันจะเป็นบุญ เป็นบาป ต้องมีเจตนา"
   "แต่ถ้าอยู่ๆ แล้ว มันคิดขึ้นมาเองโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ มันไม่เป็นบาป เราไม่มีเจตนา"

   :-หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
_______________________

   ความผูกพันนั่นแล
พาโลกให้เป็นทุกข์กันมากน้อย
ถ้าความผูกพันในใจไม่มี
ก็ไม่เป็นทุกข์
ธรรมท่านจึงสอนให้รู้เท่าทัน
และปล่อยวางความผูกพัน
อันเป็นตัวการให้ทุกข์ทั้งหลายเกิด

   :-หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
_______________________

     เกิดมา..เพื่อพลัดพราก
   เราจะสมมุติเขาว่า เป็นเงินเป็นทอง เป็นข้าวของวัตถุอะไรก็ช่าง อันนั้นก็เกิดมา..เพื่อที่จะแตกสลาย
เราก็เหมือนกัน เกิดมา..เพื่อแตกสลาย เกิดมาก็..เพื่อแตก..เพื่อตาย
ไม่มีอะไรเป็นสมบัติของใคร..ได้หรอก

   :-หลวงปู่แบน ธนากโร
_______________________

   ที่เรียกว่า เกิดๆดับๆนี้คืออะไร
คือ อารมณ์ ซึ่งมันเกิดขึ้น แล้วมันก็ดับไป
ดับแล้ว มันก็เกิดขึ้นมา ในทางธรรมะเรียกว่า การเกิดดับ มันก็มีเท่านี้ ทุกข์มันเกิดขึ้น แล้วทุกข์มันก็ดับไป ทุกข์ดับไปแล้ว ทุกข์ก็เกิดขึ้นมา นอกเหนือจากนี้ไป ก็ไม่มีอะไร มีแต่ทุกข์เกิด แล้วทุกข์ก็ดับไป มีเท่านี้

   :-หลวงพ่อชา สุภัทโท
_______________________

   ความสงสัย จะไม่หายไปด้วยการคิด ด้วยทฤษฎี ด้วยการคาดคะเน หรือด้วยการถกเถียงกัน หรืออยู่เฉยๆโดยไม่ปฏิบัติภาวนา กิเลสทั้งหลายจะหายสิ้นไปได้ ก็ด้วยการพัฒนาทางจิต ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น    
   พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อานนท์ ปฏิบัติให้มากทำให้มาก
แล้วจะสิ้นสงสัย

   :-หลวงพ่อชา สุภัทโท
_______________________

   เวลาที่สบายที่สุด"พอรู้สึกว่า "เรา" มีขึ้นมาเมื่อไหร่ ปัญหาก็ต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อนั้นเวลาที่ "จิต" ไม่รู้สึกว่า..มีชีวิต มีตัวเรา
หรือ ของเรา หรือ มีอะไร เป็นเวลาที่สบายที่สุด"

   :-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

   ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ธาตุ สิ่งที่ถูกกินก็เป็นธาตุ ผู้กินก็เป็นธาตุ ถ้าเราจะแยกเนื้อตัวของเราออกเป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศ วิญญาณนี้ ก็จะเห็นว่า แต่ละอย่างเป็นธาตุ  เมื่อรวมกันขึ้นสมมติเรียกบุคคล คนหนึ่งก็ยัง
เป็นธาตุอยู่นั่นเอง อย่าได้เกิดความเข้าใจผิดยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน

   :-พุทธทาสภิกขุ

_______________________


...............................................


ขอขอบคุณที่มาจาก : 
 เพื่อน LINE

 



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2568 5:50:35 น.
Counter : 468 Pageviews.

12 comments
(โหวต blog นี้) 
สุขสันต์วันสงกรานต์ ๒๕๖๘ haiku
(14 เม.ย. 2568 19:30:54 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - พระของชาวบ้าน ; 14 ปราชญ์พระป่า : กะว่าก๋า
(6 เม.ย. 2568 06:10:56 น.)
ธรรมะวันนี้ ๕ เม.ย. ๒๕๖๘ **mp5**
(5 เม.ย. 2568 05:12:40 น.)
หนีไม่พ้น นาฬิกาสีชมพู
(5 เม.ย. 2568 12:24:58 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณmultiple, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณดอยสะเก็ด, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะริโตะคุง, คุณปัญญา Dh, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณSleepless Sea, คุณnewyorknurse, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณดาวริมทะเล, คุณSweet_pills, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณร่มไม้เย็น, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณกาปอมซ่า, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534, คุณtanjira, คุณNior Heavens Five, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณTurtle Came to See Me

  
อนุโมทนาบุญที่ได้ทำในวันนี้จ้า

โดย: หอมกร วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:6:29:46 น.
  
ไฟ ราคะ โมหะ โทสะ ก็ยังกระเพื่อมอยู่เลยครับ
ยังไม่นิ่งซักกะทีครับ 555

โดย: multiple วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:7:23:04 น.
  
"เวลาที่สบายที่สุด"พอรู้สึกว่า "เรา" มีขึ้นมาเมื่อไหร่ ปัญหาก็ต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง"

ที่ท่านพุทธทาสว่าไว้นี่ผมก็ว่าจริงนะครับ เหมือนชีวิตเรามันมีสมดุลของตัวมันเอง บางคนก็มีสมดุลในภาพรวมของทั้งช่วงชีวิต บางคนอาจจะมีทุกข์บ้าง สุขบ้างในระยะเวลาสั้นๆสลับกันไป ก็ขึ้นอยู่กับบุญและกรรมที่เรามี
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:12:22:55 น.
  
สวัสดีครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:49:36 น.
  
สาธุ สาธุ
โดย: อุ้มสี วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:15:59 น.
  
โดย: The Kop Civil วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:32:44 น.
  
โดย: sawkitty วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:46:19 น.
  
สวัสดีครับ สาธุครับ

โดย: Sleepless Sea วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:28:13 น.
  
สาธุ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:22:48:50 น.
  
อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงครับ เราเกิดมาเพื่อพลัดพรากจริงๆ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:0:19:18 น.
  


สาธุค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:23:53:32 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องเอ็ม

มาอ่านข้อคิดและธรรมะดี ๆ ของพระอาจารย์
ต่าง ๆ ที่เธอไปสรรหามาให้อ่าน จ้ะ อ่านแล้วก็ดี
มาก จะได้เตือนสติตัวเอง พยายามละ เลิก สิ่งที่
ไม่ดีออกจากใจไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อิอิ
โหวดหมวด ธรรมะและข้อคิด
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 3 มีนาคม 2568 เวลา:10:28:22 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mp5.BlogGang.com

**mp5**
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]

บทความทั้งหมด