Bloggang.com : **mp5** - ธรรมะวันนี้ ๔ ส.ค. ๒๕๖๗

ธรรมะวันนี้ ๔ ส.ค. ๒๕๖๗

…ธรรมะวันนี้…

ผู้หมดอุปทาน ย่อมปรินิพพาน

:-พุทธวจน
_______________________

ทาน ศีล ภาวนา เป็นรากเหง้าของความเป็นมนุษย์ และเป็นรากเหง้าของพระพุทธศาสนาที่มนุษย์ต้องคอยสั่งสมให้มาอยู่ในนิสัย
ทาน เป็นเครื่องแสดงน้ำใจ..เพื่อ
สงเคราะห์ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
ศีล เป็น เครื่องปัดเป่าความคิดของผู้มีกิเลส
ภาวนา อบรมใจให้ฉลาด เที่ยงตรงต่อเหตุผลและความถูกต้อง ผู้เป็นหัวหน้างาน หรือมีภารกิจมาก
ควรหันมาฝึกใจเป็นอย่างยิ่งเพราะ
การภาวนาช่วยแก้ความยุ่งยากลำบากใจทุกประเภทที่เป็นภาระหนัก หากปล่อยใจโดยไม่มีธรรมเป็นเครื่องยับยั้งคงไม่ได้รับความสุขแม้จะมีสมบัติก่ายกอง.."

:-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
_______________________

"หน้าที่ของเรานั้น ทำเหตุให้ดีที่สุดเท่านั้น ส่วนผลที่จะได้รับเป็นเรื่องของเขา ถ้าเราดำเนินชีวิตโดยมีการปล่อยวางเช่นนี้แล้ว ทุกข์ก็ไม่รุมล้อมเรา"

:-หลวงปู่ชา สุภัทโท
_______________________

ภาวนา "พุทโธ" ทำดวงจิตให้ผ่องใส จะได้เป็นที่พึ่งของเรา ได้แน่นอน

:-หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
_______________________

"ขึ้นชื่อว่า..กิเลส..แล้ว มันจะไม่ไว้หน้าใคร มันทำลายทั้งสิ้น แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่..สติ
เราเอง เป็นผู้ทำจิตของตนให้เศร้าหมอง ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ต้อง..ทำเอง..รู้เอง..ได้เอง

:-หลวงปู่ขาว อนาลโย
_______________________

คนเราการคบเพื่อนนี่สำคัญ คนเราคบเพื่อนเช่นไรก็เป็นอย่างนั้น
ถ้าเราคบพระพุทธเจ้า..เราก็จะได้เป็นพระอริยเจ้า ได้เป็นพระอรหันต์
ถ้าเราคบพวกกินเหล้าเมายาพวกที่มีเมียมาก เราก็ต้องมีเมียมากเหมือนเขาใช่มั๊ย?

:-หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
_______________________

"อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องอาลัยอดีต
ไม่ต้องพะวงอนาคต ขอแต่ให้...ทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องในปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว"

:-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องคุ้มกันมากกับ ”สติ“

:-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

สรุปความได้ว่า เป็นการยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความมีอยู่ แห่งธรรมะ และยอมตายด้วยการมีธรรมะ ซึ่งเป็นยอดสุดของความกล้าหาญ

:-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

ถ้าคนยังเป็นเหมือนไก่อยู่เพียงใด เพชรพลอยอย่างมากมาย ในพระพุทธศาสนาก็จักเป็นหมันอยู่เพียงนั้น

:-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

ความประมาทเป็นความตาย พอขาดสติทีหนึ่งก็ถือว่าเป็นความตายทีหนึ่ง พอมีสติอยู่ก็เรียกว่ามีชีวิตอยู่ รู้จักความตายชนิดนี้กันเสียบ้าง แล้วก็จะกลัวความตาย หรือว่า
จะเกิดความละอายว่า จะเป็นคนตายที่ตายแล้วตายอีกอยู่เป็นประจำวัน

:-พุทธทาสภิกขุ
_______________________

ความเฉลี่ยเผื่อแผ่ ความมีจิตใจกว้างขวางสนิทกันได้อย่างง่ายดาย
เลยนะ นี่จำให้ดี นี่ละพระพุทธเจ้า
สอนว่าให้ทานๆ มีผลมีอานิสงส์ประจักษ์

:-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
_______________________

ชาติ ชั้น วรรณะ ฐานะสูงต่ำ อยู่ในป่า ในเขา ในดง ในผา ในพงอะไรก็ตาม
ความดีนี้เป็นเครื่องประกาศ เป็นความดีตลอดไป อยู่ในป่า คนดีก็เป็นที่ชมเชย เป็นคนดีตลอด เข้าอยู่ในบ้านในเมืองที่ชุมนุมชน หรือฐานะใด คนดีต้องเป็นคนดีไปตลอดไม่เคยแพ้อะไรเลย

:-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
_______________________

เราอยู่นี้เป็นมนุษย์ด้วยกัน ต้องพึ่งพิงอิงอาศัยกันตลอดทั่วโลกดินแดน ใครจะปราศจากการเสียสละต่อกันนี้ไม่ได้ ต้องมีการเสียสละ
การแบ่งน้ำใจต่อกัน

:-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
_______________________

...............................................

ขอขอบคุณที่มาจาก : เพื่อน LINE

ภาพประกอบจาก : วัดหนองบัว จ.น่าน

Create Date : 04 สิงหาคม 2567
Last Update : 4 สิงหาคม 2567 6:02:56 น.
Counter : 389 Pageviews.

19 comments

(โหวต blog นี้)

	: แสงลอดเมฆ 20 : กะว่าก๋า (1 ต.ค. 2567 04:34:48 น.)		: แสงลอดเมฆ 16 : กะว่าก๋า (27 ก.ย. 2567 05:13:51 น.)
	: แสงลอดเมฆ 12 : กะว่าก๋า (23 ก.ย. 2567 05:40:29 น.)		: แสงลอดเมฆ 10 : กะว่าก๋า (21 ก.ย. 2567 04:50:35 น.)