ธรรมะวันนี้
ภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมข้อหนึ่ง อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อทำโสดาปัตติผล ให้แจ้ง ย่อมเป็นไปเพื่อทำ สกทาคามิผล ให้แจ้ง ย่อมเป็นไปเพื่อทำ อนาคามิผล ให้แจ้งย่อม เป็นไปเพื่อทำ อรหัตตผลให้แจ้งธรรมข้อหนึ่ง คืออะไร คือ กายคตาสติ :-พุทฺธวจน _______________________ มีสติ ก้าวไป มีสติ ถอยกลับ มีสติ ยืนอยู่ มีสติ นั่งอยู่ มีสติ สำเร็จการนอนอยู่ มีสติ อธิษฐานการงาน อานนท์ ! นี้เป็นฐานะที่ตั้ง แห่งอนุสสติ ซึ่งเมื่อบุคคล เจริญกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ :-พุทฺธวจน _______________________ เกิดมามีแต่คนช่วยเหลือ ถือว่ามีบุญ แต่คนที่เกิดมาแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่นเป็นคนที่มีบุญมากกว่า :-สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช _______________________ ใจสบายเพราะมีความพอดี :-หลวงปู่ชา สุภทฺโท _______________________ ไม่ละบาป ไม่ละความชั่วแล้ว จิตไม่ผ่องใสหรอก :-หลวงปู่ชา สุภทฺโท _______________________ ผู้ที่เรียนมาก เรียนมากเท่าไร ยิ่งความสงสัยมากขึ้น โดยลำดับลำดา ไม่ใช่กิเลสจะหลุดลอยไปเพราะการเรียนนะ :-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน _______________________ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ธรรม ๓ ข้อนี้จะต้องเกี่ยวโยงกัน ถ้าเป็นผู้ต้องการมรรคผลนิพพานจากธรรมพระพุทธเจ้า จริง ๆแล้ว ธรรมทั้งสามประเภทนี้ จะแยกกันไม่ออก :-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน _______________________ บาปเป็นบ่อแห่งนรก อย่าท้าทายนะ พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์กลัวบาปทั้งนั้น เราอย่ากล้าหาญต่อบาป พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์กลัวนรกทั้งนั้น สอนให้ละให้เว้นจากนรก เราอย่ากล้าหาญ อย่าไปลบนรก :-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน _______________________ คนใดที่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมกับเรื่องราคะตัณหาตามความอยาก ความทะเยอทะยาน ไม่มีเพียงพอนี้ คนนั้นตายไม่มีป่าช้าเลย แล้วนรกก็ไม่ทราบว่า หลุมไหน ๆ พังไปเลย ๆ เพราะมันรุนแรงมาก กรรมอันนี้ :-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน _______________________ ราคะตัณหานี้เป็นเครื่องหนุนให้โลภมาก โกรธมาก ตัวนี้เป็นตัวหนุนเลย ไม่มีอะไรหนุนยิ่งกว่าตัวนี้ บรรดากิเลสในหัวใจของสัตว์ ตัวนี้หนุนมาก ดีดมาก แล้วเป็นความทุกข์ ก็ทุกข์มาก :-พระมหาบัว ญาณสัมปันโน _______________________ ธรรมทั้งหลาย ไหลมาจากเหตุ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นเหตุแต่ละอย่าง ๆ :-หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ _______________________ "นั่งภาวนาพยายามเพ่งดูในจิตในใจของเรานี้แหละ ถ้าไม่อาศัยความขยันหมั่นเพียรนี่ไม่ได้ จิตเรานี้มันมักจะไหลไปสู่อารมณ์ต่างๆ เป็นอดีต อนาคตไป เราต้องหาอุบายมาชี้แจงให้ตั้งอยู่ในปัจจุบันธรรม" :-หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ _______________________ "..กรรมฐานทั้งหลายกำจัดกิเลสได้ทุกประเภท ไม่ต้องเลือกว่าสูตรไหนบทไหน ทำให้จิตไม่เศร้าหมองได้ทั้งนั้น คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริงอยู่ทุกเมื่อที่ใจของเรา ผู้ปฏิบัติต้องมี "สติ" เพื่อบริกรรมอยู่ที่เราเสมอ เดิน ยืน นั่ง นอน ทุกลมหายใจ.." :-หลวงปู่บุดดา ถาวโร _______________________ "... มันก็แก่มาเรื่อยๆ มันแก่ทุกวัน วันไหนไม่แก่ไม่มี นอนอยู่เขาก็ไม่ได้พัก จะสนุกสนานรื่นเริงเพลินเพลินขนาดไหนเพียงไรก็ช่าง เขาไม่ได้หยุดพักในการที่จะทรุดโทรมร่วงโรยลงไป เขาไม่ได้หยุดพักสักขณะเดี๋ยว จึงว่าเสื่อมไปสิ้นไปจริงๆ.." :-หลวงปู่แบน ธนากโร _______________________ ...................................................... ขอขอบคุณที่มาจาก : เพื่อน LINE ภาพประกอบจาก : พระพุทธสิทธารถ วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร กรุงเทพฯ โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กรกฎาคม 2567 เวลา:14:43:25 น.
ผมชอบคำสอนของหลวงปู่ชา สุภทฺโทเป็นพิเศษครับ
วันนี้ก็เพิ่งอ่านหนังสือของท่านจบไปหนึ่งเล่มครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2567 เวลา:20:14:32 น.
วันนี้อ่านง่ายมากเลยครับ บางอันก็เคยเห็นมาบ้างแล้วนะ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2567 เวลา:22:53:23 น.
สาธุค่ะ ................. ขอบคุณคุณพีสำหรับกำลังใจนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 5 กรกฎาคม 2567 เวลา:23:36:52 น.
พระมหาบัว ท่านสอนเข้าใจง่ายนะครับ และ
นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 8 กรกฎาคม 2567 เวลา:20:38:59 น.
|
บทความทั้งหมด
|
พอแก่ปั๊บ ร่างกายก็ทรุดโทรม โรคภัยไข้เจ็บก็ตามมา
ถ้าเราปุ๊บปั๊บหลับไปตายนี่ ถือว่ามีบุญมากเลยนะครับ คุณพี่