การพัฒนาลูกรัก สวัสดีค่ะ เช้าเริ่มต้นการทำงานของสัปดาห์ วันนี้อยากจะมาขอเล่าเกี่ยวกับเรื่องของลูกชายหน่อยค่ะ อย่างที่เคยเล่ามาว่าเมื่อสองปีที่แล้วลูกชายของฉันไม่ได้อยู่กับดิฉัน เขาเรียนหนังสืออยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่มีใครสนใจเขาหรือเอาใจใส่เขา ทำให้การเรียนของเขาไม่ได้อะไรเลยจากที่เขาเรียนมา จนกระทั่งลูกมาอยู่กับฉัน ฉันจึงต้องรื้อฟื้นมาตั้งแต่เรียกว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Zเลยก็ว่าได้ ขนาดภาษาไทยก็ยังเขียนผิดๆถูกๆสะกดก็ไม่เป็น ต้องยอมรับจริงๆเลยค่ะว่าเหนื่อยมากๆ แต่ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะเลย ฉันทำอย่างไรหรือค่ะ? ลองอ่านดูค่ะ เผื่อว่าใครมีบุตรหลานจะนำไปลองดูก็ได้เผื่อว่าจะได้ผลเหมือนฉัน ไม่ยากค่ะแต่ก็ไม่ได้ง่ายๆเหมือนกัน ไอที่ว่าไม่ยาก คือวิธีไม่ยาก แต่ไอไม่ง่ายนี่ซิค่ะต้องทำยังไงลูกถึงจะเข้าใจ เริ่มแรก ต้องให้กำลังใจลูกและต้องเข้าใจก่อนว่าลูกเราเรียนมาไม่ได้อะไรมาเลย ข้อที่สองฝึกให้เขาเขียนหนังสือไม่ต้องมากแต่บ่อยๆและให้เขาดูและสังเกตุว่าใช้ตัวอักษรตัวไหนเป็นตัวสะกด คำไหนเขียนผิด คำไหนเขียนถูก เริ่มจากฉันหัดให้เขาเขียนบล็อคเหมือนกับฉัน และก็เขียนบันทึกทุกวันว่า สิ่งที่เขาต้องทำมีอะไรบ้าง และอะไรบ้างที่จะพัฒนาตัวเขาเองให้เขามีอนาคต หัดให้เขาเป็นนักอ่าน เพราะการที่เด็กๆจะชอบอ่านหนังสือจะทำให้เขาเป็นเด็กฉลาด รอบรู้ และเขาก็จะเห็นบ่อยๆว่าคำนั้น คำนี้ จะต้องเขียนอย่างไร สะกดอย่างไร จึงจะถูกต้อง ต่อมาในเรื่องของภาษาอังกฤษ ลูกฉันไม่ได้อะไรเลยจริงๆ ฉันต้องมานั่งเรียนด้วยกับลูกเลยทีเดียว สามีของฉันจะเอาหนังสือเรียนของเขามาสอนล่วงหน้าก่อนที่เขาจะเรียนจริง เขาอธิบายถึงหลักการใช้ประโยค และการใช้คำศัพท์ต่างๆ อธิบายถึงขั้นตอนและลำดับความเข้าใจในภาษาว่าอะไรควรใช้กับอะไร คำถามคำตอบควรใช้และควรพูดอย่างไร เมื่อลูกเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว ลำดับต่อมาคือ การท่องศัพท์ ฉันจะให้ลูกท่องศัพท์กับฉันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10-15คำ/วัน หัดให้เขาเปิดดิกซ์ และสามีของฉันก็ยังดาวน์โหลดโปรแกรมภาษาอังกฤษมาให้เขา เพื่อให้เขาได้ฝึกฟังและฝึกออกเสียงถึงจะไม่เหมือนเจ้าของภาษาแต่หัดให้เขากล้าที่จะพูด อย่างน้อยก็เพื่อให้ความมั่นใจกับเขา หัดให้เขาเขียนคำถามเป็นภาษาไทยว่าเวลาที่เขาอยากจะพูดอะไรกับTeacher ของเขาที่โรงเรียน เขาควรจะพูดกับTeacher เป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร เพราะTeacherของเขาเป็นชาวต่างชาติ เอาไม่ต้องมากค่ะแค่วันละ2คำถาม เมื่อเขากล้าออกเสียงเขาก็กล้าที่จะไมคุยกับ Teacher ของเขา ตอนนี้เขาพอจะคุยกับTeacher ของเขาได้บ้างแล้ว โชคดีว่าTeacherของเขาพอจะทราบว่าเขาเรียนภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ Teacher ก็พยายามสอนและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ถึงจะพูดถูกพูดผิด Teacher ก็พยายามพูดและเข้าใจในตัวเขา ส่วนสามีฉันก็เช่นกัน อยู่บ้านก็พยายามพูดภาษาอังกฤษกับเขา เวลาสอนภาษาอังกฤษก็จะสอนเป็นภาษาอังกฤษเลยเพื่อที่เขาจะได้เรียนในห้องเรียนได้ง่ายขึ้น เพราะในชั่วโมงเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษโดยครูต่างชาติอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ฉันและสามีก็พาลูกไปซื้อหนังสือที่อยากจะแนะนำให้อยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นหนังสือนิทานแต่เป็นภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งเริ่มจากระดับง่ายไล่ระดับไปจนถึงระดับยาก ในหนังสือจะมีทั้งภาษาอังกฤษ คำอ่านและคำศัพท์ ทำให้เด็กๆสามารถอ่านเองได้ และแปลเองได้ง่ายขึ้น เหมือนลูกฉันเขาก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น สามารถอ่านเองได้โดยไม่ต้องรอฉันหรือสามีมาสอนเหมือนเดิม เมื่อเขาอ่านผิดสามีฉันจะพูดสอนใหม่ออกเสียงใหม่ให้เขาฟังเพื่อที่เขาจะได้อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง นี่คือเบื้องต้นอย่างง่ายๆที่คุณๆจะสามารถนำไปสอนบุตรหลานให้เขาได้ลองทำดู เผื่อว่าจะได้ผลอย่างที่ฉันทำ ส่วนคุณๆท่านไหนที่มีวิธีที่ดีกว่าของฉัน ดิฉันขอคำแนะนำหน่อยนะคะ เผื่อว่าจะลองเอาไปใช้กับลูกชายฉันบ้าง ลองแลกเปลี่ยนกันดู เพื่อจะได้พัฒนาลูกๆของเราค่ะ ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรลองเขียนมาคุยกันนะคะ |
บทความทั้งหมด
|