ตามรักข้ามเวลา...บท 6/1




“ถามจริงแม่ตัวยุ่ง เราเป็นคนเฟอะฟะอย่างนี้บ่อยเลยเหรอ” ประโยคกระเซ้าเย้าแหย่ของอัตรา เกิดขึ้นทันทีที่รถเคลื่อนออกมาจากบ้านแล้ว

มินตราหันไปแยกเขี้ยวใส่พี่ชาย “ว่าใครเฟอะฟะ”

อัตราหัวเราะในลำคอ ละสายตาจากถนนเบื้องหน้า มามองน้องสาว “จะเป็นใครได้อีกล่ะ ในรถมีแค่เราสองคน”

“มิ้นไม่ได้เฟอะฟะสักหน่อย”

“แล้วจะอธิบายพฤติกรรมขี้หลงขี้ลืมและซุ่มซ่ามของเราอยู่บ่อยๆ ว่าไงยายมิ้น?” ถามเย้าด้วยรอยยิ้ม

“ไม่รู้ล่ะ ขืนว่ามิ้นเป็นปลาทองอีกคำเดียว มิ้นคว่ำพี่แน่”

“ขนาดนั้นเชียว สงสัยตอนที่อยู่ในโลกอนาคต จะซ่าไม่เบานะ ว่าแต่ปลาทองหมายถึงอะไร?”

“คำจำกัดความของคนขี้หลงขี้ลืมไง ปลาทองมีความจำสั้น คนก็เลยเอามาเปรียบเปรยว่าขี้หลงขี้ลืมเหมือนปลาทอง” ตอบด้วยใบหน้ามุ่ย

อัตราหัวเราะก๊ากใหญ่ พยักหน้าหงึกหงัก “งั้นก็คงเหมาะเอามาใช้กับพฤติกรรมของเราแล้ว”

“พี่อัตน่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว” เด็กสาวค้อนปะหลับปะเหลือกแล้วเมินหน้าออกไปนอกหน้าต่าง รถราวิ่งสวนกันไปมาบางตา ดูจะต่างไปจากเมืองใหญ่ทั่วไป

อัตราหัวเราะแผ่วเบาในลำคอเมื่อเห็นท่างอนแบบเด็กๆ ของน้องสาว เขาลอบมองอีกฝ่ายเงียบๆ มินตรากำลังกดปุ่มเปิดกระจก ลมจากภายนอกพัดโกรกเข้ามาปะทะใบหน้ากรูใหญ่จนผมเผ้าปลิวกระเซิง เด็กสาวเอาคางเกยขอบหน้าต่าง ตามองออกไปนอกรถเพื่อดูทิวทัศน์ด้านนอกด้วยท่าทีกระตือรือร้นแต่แฝงไปด้วยอาการผ่อนคลาย สบายๆ ราวกับเธอมีเวลาเหลือเฟือสำหรับการชื่นชมทัศนียภาพรอบตัวนั้น นั่นทำให้เขาอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายวาดภาพริมฝีปากบางแต่เต็มอิ่มได้รูปกำลังคลี่ยิ้มจางๆ ยามที่เจ้าตัวกำลังชื่นชมอะไรสักอย่าง

อืม...น้องสาวของเขาสวยสมบูรณ์แบบจริงๆ บางทีคำว่าสวยอาจจะเป็นคำจำกัดความตัวตนของเด็กสาวน้อยเกินไปด้วยซ้ำ เพราะเธอสวยคมซึ้ง จะมองพิศหรือมองผาด ก็สวยทุกมุมมอง บางทีคำว่างามอาจจะเหมาะกับมินตรามากกว่ากระมัง ด้วยความงดงาม สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ และนั่นทำให้อัตราอดนึกถึงแสงแดดยามเช้าไม่ได้ ที่ใครอยู่ใกล้เป็นต้องรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

เขานึกสงสัยว่าห้วงเวลาในอนาคตที่เธอจากมา เด็กสาวคงมีชายหนุ่มมากหน้าหลายตามาติดพันมากมาย บางทีอาจจะมากจนเลือกไม่หวาดไม่ไหวกระมัง เพราะดูเหมือนน้องสาวเขาจะเพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตา ฐานะชาติตระกูลและการศึกษา เขาไม่ได้ยกย่องชาติตระกูลตัวเองจนเกินไป แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จำได้ว่าสื่อเคยวิพากษ์วิจารณ์เขากับน้องสาวว่าเกิดมาบนกองเงินกองทอง หรือทำนองว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด

มินตราจึงน่าจะมีหนุ่มๆ มาชอบพอมากมาย แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องปักใจรักแต่กับธันว์คนเดียว? หรือเพราะความสนิทสนมในวัยเด็ก? ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะธันว์กับเขาจากมาเรียนอเมริกาตั้งแต่เด็กสาวอายุได้แค่ 6 ขวบด้วยซ้ำ จะกลับไปเยี่ยมบ้านบ้างก็เฉพาะช่วงปิดเทอม จึงไม่น่าจะสนิทสนมจนถึงขั้นน้องสาวของเขาจะปักใจรักได้ สมองเขามีแต่คำถาม คำถามและคำถาม แต่ทว่าไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง คนเดียวที่จะตอบได้ก็นั่งอยู่ข้างๆ นี่เอง แต่เขากลับไม่คิดอยากจะถาม

เก็บไว้ให้คาใจอย่างนี้ดีกว่าไปกระตุ้นความคลั่งไคล้ของเด็กสาวที่มีต่อธันว์ให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น เพราะเห็นสายตาของมินตราที่มองเพื่อนของเขาอย่างรักใคร่เทิดทูนในวันนี้ยามที่รู้ว่าธันว์เป็นคนพันผ้าก๊อซให้ เขาก็รู้แล้วว่าผู้เป็นน้องสาวรักธันว์เพียงไร...

ห้างทาร์เก็ตในเวลาโพล้เพล้ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอย อัตราจอดรถแล้วเดินเคียงคู่เด็กสาวเข้าไปในห้าง มินตราคล้องแขนผู้เป็นพี่ชายซึ่งเป็นความเคยชินที่ทำมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ นั่นทำให้ฝ่ายนั้นหันมองอย่างประหลาดใจ ทว่าเจ้าตัวไม่ได้สนใจ ยังคงเหลียวมองรอบกายราวกับเด็กๆ ที่เจอของถูกใจ อัตราผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด เมื่อนึกได้ว่าเด็กสาวคงทำไปด้วยความเคยชิน ไม่ได้คิดอะไรกับเขา

“อาร์ต!”

เสียงเรียกของหญิงสาวที่ดังมาจากประตูห้าง ทำให้อัตราชะงักความคิด เหลียวไปมองแล้วต้องเปิดยิ้มกว้าง

“ซาร่าห์! มาทำอะไร”

“ซื้อผลไม้ คุณละคะมาทำอะไร” ซาร่าห์ถามพลางชำเลืองมองเด็กสาวที่กำลังคล้องแขนอัตราอยู่ ใบหน้าของอีกฝ่ายบอกถึงความเป็นลูกครึ่งชัดเจน เธอสวยคมน่ามอง

อัตรารู้สึกตัวเมื่อเห็นสายตาของซาร่าห์มองมาที่มินตราอย่างสนใจ เขาเอ่ยแนะนำ “ผมพาน้องสาวมาซื้อของ มิ้น...นี่ซาร่าห์เพื่อนพี่ ซาร่าห์...นี่มินตราน้องสาวผมครับ”

ชื่อซาร่าห์ที่ออกมาจากปากอัตรา ทำให้มินตราชะงักตัวแข็งทื่อ เธอเหลือบมองอย่างสนใจ ซาร่าห์อยู่ในวัยใกล้เคียงกับพี่ชายเธอ ถ้าจะอ่อนวัยกว่า…ก็คงเล็กน้อย เธอมีรูปร่างสูงเพรียวไล่เลี่ยกับอัตรา แต่มีหน้าอกอวบอิ่มอย่างเห็นได้ชัด รูปหน้าเรียวล้อมกรอบด้วยผมสีบลอนด์ตรงซึ่งบัดนี้ถูกปล่อยสยาย มีแว่นกันแดดคาดทับเหนือศีรษะดูเก๋ไก๋ คิ้วกันไว้ได้รูปสวย พาดเหนือดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ดูราวกับสีน้ำทะเลลึก จมูกโด่งและปลายคางแหลม มีรอยบุ๋ม

มินตรามองซาร่าห์อย่างตกตะลึง ตามมาด้วยอาการลืมหายใจ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงตรงหน้าถึงถูกรุมจีบจากสองหนุ่มหล่อเหลา นั่นเพราะเธอสวยเซ็กซี่เหลือร้ายยังกับดาราฮอลลีวูด

อากัปกิริยาที่มองมาอย่างตกตะลึงของมินตราอยู่ในสายตาของซาร่าห์ตลอดเวลา หญิงสาวยิ้มให้อย่างขำๆ ระคนเอ็นดู ซาร่าห์ยื่นมือออกไปให้มินตราสัมผัส พลางกล่าวอย่างมีอัธยาศัยดีว่า

“สวัสดีค่ะ... ยินดีที่ได้รู้จัก”

มินตราอ้าปากค้างกับรอยยิ้มเปิดเผยนั้น อีกฝ่ายดูจริงใจและเป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก ยื่นมือออกไปสัมผัสมือตอบอย่างยินดีปานกัน

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณจะมีน้องสาวสวยอย่างนี้” ซาร่าห์ชมอย่างจริงใจ

มินตรายิ้มอายๆ “คุณต่างหากที่สวยมาก สวยยังกับดาราฮอลลีวูดแน่ะ ได้ยินพี่อัตและพี่ธันว์พูดถึงมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้” แววตาที่มองซาร่าห์ยังคงแสดงถึงความชื่นชมจริงใจ บอกกับตัวเองว่าไม่ได้ชอบผู้หญิงตรงหน้าเพราะรูปโฉมภายนอก แต่เพราะความเป็นคนมีอัธยาศัยดีและดูจริงใจต่างหาก น่าจะไม่ใช่คนประเภทตีสองหน้า ผู้หญิงหลายคนในโลกปัจจุบันที่ชอบพออัตรานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเสแสร้ง เรียกน้องมิ้นจ๊ะจ๋าทุกคำ แต่พอลับหลังเอาเธอไปนินทาสารพัด

“อาร์ตกับธันว์เอาฉันไปพูดถึงบ่อยหรือคะ?” ซาร่าห์เอ่ยชื่อภาษาอังกฤษของอัตรา พลางปรายตาไปมองยิ้มๆ เธอรู้จักกับอัตราและธันว์ในเวลาไล่ๆ กัน แต่ค่อนข้างจะสนิทกับธันว์มากกว่า ด้วยธันว์ขอเธอออกเดตบ่อยครั้ง ต่างกับอัตราซึ่งออกปากว่าชอบเธอเหมือนกัน แต่กลับใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับตัวเองมากกว่า อัตราชอบทำกิจกรรมโลดโผน ไม่ว่าจะเป็นการเทรกกิ้ง การปีนหน้าผา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เธอไม่ค่อยชอบนัก

“ก็พอสมควรค่ะ”

“ผมพูดถึงในแง่ดีนะ ไม่เคยว่าร้ายคุณเลย” อัตรารีบออกตัว “ผมเพิ่งรู้จากธันว์ว่าพวกคุณไปเดตมาด้วยกัน”

“ไปซื้อของตกแต่งบ้านน่ะค่ะ ธันว์ไม่บอกเหรอคะว่าฉันกำลังจะย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์คนเดียว”

“ไม่พูดอะไรเลย คุณย้ายทำไมซาร่าห์”

“อพาร์ตเมนต์ใหม่กว้างกว่าเดิมค่ะ”

“จะย้ายเมื่อไหร่”

“อีก 2 อาทิตย์ค่ะ เดซี่จะย้ายไปอยู่กับแฟนด้วย เลยเป็นโอกาสดีที่จะย้ายออกมาพร้อมกัน”

“งั้นผมจะไปช่วยย้าย แต่ความจริงมาอยู่บ้านผมก็ได้นะ ห้องใต้ดินยังว่าง ผมหมายถึงคุณมานอนห้องผม ส่วนผมจะย้ายไปอยู่ห้องใต้ดินเอง”

มินตรากระแอมแล้วแซวเป็นภาษาไทยว่า “ไม่เท่าไหร่เลยนะพี่เรา”

ซาร่าห์เลิกคิ้ว ก่อนกล่าวต่อว่า “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันทำสัญญาเช่ากับอพาร์ตเมนต์ใหม่เรียบร้อยแล้ว เพราะ ฉะนั้นไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ แล้วนี่คุณกับน้องสาวมาซื้ออะไรคะ”

“ผมพายายมิ้นมา…”

เด็กสาวรีบเอื้อมมือไปปิดปากอีกฝ่าย ชิงตอบแทนว่า “พี่อัตพาฉันมาซื้อของใช้น่ะค่ะ เข้าไปช็อปด้วยกันไหมคะ หรือว่าคุณมากับเพื่อน?”

“ไม่ค่ะ ฉันมาคนเดียว” พูดพลางเดินเข้าไปในห้างพร้อมกับคนทั้งคู่ “คุณมาเรียนหรือมาเที่ยวคะมินตรา”

“เรียกมิ้นสั้นๆ ก็ได้ค่ะ มิ้นมาเยี่ยมพี่อัตกับพี่ธันว์ค่ะ”

“แล้วจะอยู่กี่วันคะ”

“7 วันค่ะ” ตอบแล้วหันไปทางคนตัวสูงสุด ก่อนเสริมว่า “ถ้าใครบางคนไม่ออกปากไล่เสียก่อน”

“ออกปากไล่แน่ยายมิ้น ถ้าขืนเรายังทำตัวโก๊ะๆ อย่างนี้ แล้วต้องเข้าใจด้วยว่าพี่เสียสละแค่ไหน อุตส่าห์ยกห้องชายโสดให้”

มินตราย่นจมูก “อดเอาสาวมาหาความสำราญสิไม่ว่า ดีจะได้เหี่ยวแห้งไปสักพัก อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” ประโยคหลัง เธอหันไปทางซาร่าห์ พร้อมกับเอ่ยขอโทษขอโพย “ฉันพูดเล่นน่ะค่ะ ปกติพี่อัตเป็นคนดี๊คนดีค่ะ ไม่เค้ยไม่เคยเลยที่จะเอาสาวที่ไหนมาหาเศษหาเลยที่บ้าน”

ซาร่าห์หัวเราะร่วน

“ฉันปล่อยไก่อะไรไปหรือคะ” มินตราทำหน้าเหลอหลา

“คุณรู้จักอาร์ตน้อยไปน่ะสิคะ รายนี้เนื้อหอมไม่แพ้เพื่อนเขาค่ะ เพราะฉะนั้นไม่มีทางหยุดความเจ้าชู้ได้หรอก เพียงแค่ไม่มีห้องนอนน่ะ”

“หมายความว่าไงซาร่าห์ ผมน่ะหรือเจ้าชู้?”

“คุณไม่รู้ตัวเลยเหรอ? คุณกับธันว์ไม่มีใครข่มใครลงเลยเรื่องนี้”

“งั้นคุณก็ไม่ชอบคนที่เอาใจเก่งสิ”

“เอาใจเก่ง ไม่จำเป็นต้องเจ้าชู้เสมอไป แต่พวกคุณไม่...พวกคุณทั้งคู่สามารถเฟลิตกับผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน”

“นั่นเพราะพวกเรายังไม่เจอใครที่ถูกใจ ลงว่าเจอแล้ว รับรองจอดสนิท” อัตราพูดพลางจ้องหน้าหญิงสาวอย่างมีความหมาย เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าคนที่ถูกใจยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

“คนเจ้าชู้มักอ้างอย่างนี้เสมอ”

มินตรากะพริบตาปริบๆ มองคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วก่อนที่พี่ชายจะแย้ง เธอยกมือห้าม “พอก่อนค่ะ มิ้นขอเวลานอก ก่อนที่พี่จะจีบซาร่าห์ไปมากกว่านี้ มิ้นขอตัวไปทำธุระของมิ้นก่อนนะคะ”

“เชิญค่ะ มิ้นจะไปไหนคะ”

“มิ้นจะไปดูของๆ มิ้นนิดหนึ่ง คุณเดินช็อปกับพี่อัตตามสบายนะคะ”

“ค่ะ งั้นตามสบายค่ะ”

ซาร่าห์มองตามหลังมินตราที่เดินห่างไปจนลับสายตาแล้ว เธอก็ละมามองอัตรา “น้องสาวคุณน่ารักนะคะ”

“ครับ…”

“คุณจะซื้ออะไรคะ” ซาร่าห์ถามแล้วก้าวขา แต่อัตรายื้อศอกไว้

“เราต้องคุยกันนะซาร่าห์ เพราะดูเหมือนคุณไม่เข้าใจผม”

“ฉันเข้าใจดีต่างหาก”

“เข้าใจว่าไง”

“คุณรู้ดีน่า..” ซาร่าห์ย้อนกลับด้วยรอยยิ้ม

อัตรามองใบหน้าสวย คิ้วเข้มขมวดมุ่น “ทีเจ้าธันว์เจ้าชู้ยิ่งกว่าผม ไม่เห็นคุณว่ามัน”

“ว่าไปแล้วเหมือนกัน ฉันรู้ว่าพวกคุณแข่งจีบฉันอยู่ แต่ขณะเดียวกันพวกคุณก็ยัง…” ซาร่าห์ไหวไหล่ “ช่างเถอะ ยังไงมันก็เป็นสิทธิ์ของพวกคุณ”

“นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ยอมเลือกใครสักคนระหว่างผมกับธันว์ใช่มั้ย”

ซาร่าห์นิ่งอย่างใช้ความคิด “เอาเป็นว่า…ฉันยังไม่เห็นความจริงใจของพวกคุณเลย…น่าจะถูกต้องกว่า”

อัตราอ้าปากค้าง “ผมจริงใจ”

“จริงใจในฐานะเพื่อน กับจริงจังในฐานะคนรักมันต่างกันนะคะ ในฐานะเพื่อน…ฉันเห็นความจริงใจของพวกคุณ แต่ในฐานะคนรัก พวกคุณยังต้องแสดงความจริงใจอีกมาก...”







Create Date : 25 เมษายน 2553
Last Update : 26 เมษายน 2553 0:18:11 น.
Counter : 635 Pageviews.

2 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - โตเกียวไม่มีขา : กะว่าก๋า
(27 มิ.ย. 2568 05:35:40 น.)
Mother, I cannot mind my wheel by Samuel Barber ปรศุราม
(26 มิ.ย. 2568 11:07:09 น.)
Desdemona's Song by Erich Korngold ปรศุราม
(23 มิ.ย. 2568 10:51:22 น.)
ขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT ต้องทำอย่างไร สมาชิกหมายเลข 8394963
(23 มิ.ย. 2568 18:02:23 น.)
  
พี่อัตสู้ๆ จีบซาร่าห์ให้ติดนะ

ปล.ที่บอกว่าพี่ธันว์ใจง่ายอาจเป็นเพราะโลกปัจจุบันพี่ธันว์รักซาร่าห์มากกกกเลยทำให้ตอนนี้ดูเหมือนพี่ธันว์ใจง่าย หรือว่าพี่ธันว์แค่รู้สึกผิดที่ทำให้ซาร่าห์ตายก็เลยไม่คิดจะรักใครอีกมากกว่า
โดย: Hero's girl วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:20:27:54 น.
  
อ๋อออออออ ถ้าด้วยเหตุผลนี้... ^__^ นางเอกย้อนเวลามาก่อนที่พระเอกจะรักซาร่าห์น่ะค่ะ...เลยเป็นเหตุผลให้ยังไม่ผูกพัน...อีกอย่างที่โลกปัจจุบันพี่ธันว์ไม่รับรักใคร เพราะรู้สึกผิดน่ะค่ะ รักก็ส่วนหนึ่ง แต่ผิดมีมากกว่าก็เลยไม่รับรักใครน่ะค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:21:19:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kanittaya.BlogGang.com

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]

บทความทั้งหมด