เคยสงสัยตัวเองว่าการที่เราไม่ซื้ออะไร ไม่ใช้อะไร นั่นเป็นการประหยัดหรือเปล่า วันนี้ก็เลยมานั่งตอบตัวเองว่า...ไม่ใช่...เเต่เป็นเพราะเราไม่มีเงินซื้อหรือไม่มีเงินใช้มากกว่า..เฮ้อ..ชีวิตยากจนเน๊อะ เริ่มตั้งเเต่เครื่องใช้ไฟฟ้า
-ตู้เย็นเก่าๆ มีอยู่เเล้วก่อนเรามาอยู่ เคยเสียครั้งหนึ่ง จ้างช่างมาซ่อม 8พันเยน ค่าซ่อมนั้นได้มาจากเเม่สามีอีกที ตอนนี้ยังใช้งานได้ดี
-หม้อหุงข้าว ก็ยังไม่พัง ปีที่11เหมือนกัน
-เครื่องซักผ้า เเม่สามีซื้อให้ ใช้มาปีที่11ยังไม่พัง ใช้ทนหรือทนใช้กันเเน่
-จักรยาน เเม่สามีซื้อให้อีก อยู่ที่นี่มีจักรยานเเล้วสะดวกดี ใช้ปั่นไปจ่ายตลาด ปั่นไปรับลูก ปั่นไปทำงาน ใช้มาปีที่11เหมือนกัน ทนเเดด ทนลม ทนฝน
-ทีวี เเม่สามีซื้อให้เป็นของขวัญหลาน ใช้มาปีที่9 ยังใช้งานได้ดี
-มือถือ เขาอัพเกรดกันไปถึงไหนต่อไหน เรายังใช้เครื่องเก่าๆอยู่ 5ปีได้มัง มันไม่พังก็ไม่เปลี่ยน
-เสื้อผ้า พ่อกับเเม่ นานๆถึงจะได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ของเราเองนั้นก็นานเอาเรื่อง ยีนส์บางตัวใช้มา10กว่าปีก็ยังเอามาใส่ได้อยู่ ไม่ขาดไม่เปลี่ยน สีตกก็ยังเอามาใส่ เป็นเเฟชั่นของเราไป
-เสื้อผ้าลูก เด็กโตทุกวัน เวลาจะซื้อเสื้อผ้าก็จะซื้อไซส์ใหญ่ไว้ก่อน ไม่ขาดปีหน้าจะได้เอามาใช้ได้ ถ้าซื้อขนาดพอดีตัวใช้ได้เเค่ปีเดียวก็ต้องทิ้งเเล้ว ปีหน้าก็เสียเงินซื้อใหม่อีก
เคยคิดถ้ามีตังค์เยอะจะเอาไปซื้อของใหม่ๆมาใช้ เเต่เอาคงจริงๆ ก็ไม่นึกอยากได้ของใหม่เลย กลายเป็นคนชอบใช้ของเก่าๆไปเเล้ว เสียดายถ้าจะต้องเปลี่ยนมันออกไปนะ คงจะอยู่กับสิ่งเก่าๆกันต่อไป
ส่วนมากปูจะหมดไปกะ ค่ากิน ค่าเที่ยวอ้ะค่ะ ตลอกเด็กนะ มีแต่คนสอนว่าให้ขยันทำมา หากินอ้ะค่ะ ไม่มีใครสอนให้ทำมาหาเก็บ อิอิอิ ข้อแก้ตัวอ้ะค่ะ
ลป..สำหรับมือถือนะพี่ ปูจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อรุ่นที่ปูเล็งไว้ตั้งแต่ออกใหม่ๆมันลดราคาลงมาเหลือ 1 เยน อ้ะค่ะ