โรงเรียนกวดวิชาญี่ปุ่นกับคนมีรายได้น้อย

เเละเเล้วก็ต้องตัดสินใจส่งลูกไปกวดวิชาทั้งๆที่เงินก็ไม่ค่อยจะมีนัก เเต่ก็คงต้องกัดฟันจ่าย เนื่องจากลูกเรียนตก เฮ้อ..ทำไงได้ สอนเขาไม่ได้ก็จำเป็นต้องให้จ่ายเงินจ้างคนอื่นสอน ที่นี่โรงเรียนกวดวิชาก็เยอะเสียด้วย มาลำบากตอนเลือกอีก หลักๆมีจะมีอยู่3เเบบคือ จะมีเเบบเป็น ห้อง กลุ่มเล็ก หรือตัวต่อตัว ราคาก็ต่างกัน ก็ถามจากคนมีประสบการณ์ ได้รับคำเเนะนำในการเลือกโรงเรียน ลองถามจากผู้ปกครองเด็กม.3เเถวบ้านว่าให้ลูกไปกวดวิชาเตรียมสอบเข้าม.4ที่ไหนบ้าง รวบรวมคำตอบคำเเนะนำเเล้ว ไปหาดูโรงเรียนกวดวิชา บางที่เปิดบ้านสอนเอง ลูกก็ไปเลือกโรงเรียนกวดวิชาเเห่งหนึ่ง ห่างจากบ้าน12นาที(โดยการเดินเท้า) ลูกเลือกเอง เพราะเห็นมีรุ่นพี่ม.3(เด็กเก่งสุด)เรียนอยู่ ตอนนี้ก็เริ่มไปลองเรียน(ฟรี)ดูก่อน จะเริ่มไปเรียนจริงตอนปิดซัมเมอร์นี้(24ก.ค)เรียนตั้งเเต่6:10-9:50PM(มีเบรคให้ทานข้าวเย็น ซึ่งต้องห่อไปเองด้วยนะ) อยากให้เรียนเเค่2วิชาคือคณิตศาสตร์กับภาษาญี่ปุ่น เเต่โรงเรียนนี้ไม่มี ช่วงซัมเมอร์จะมีเเบบอังกฤษ-คณิตกับเเบบอังกฤ-คณิต-วิทย์-ญี่ปุ่น ก็เลยว่าจะลองให้เขาเรียนเเบบ4วิชาดูก่อน เปิดเทอม2 ค่อยมาดูอีกทีว่าจะให้เรียนกี่วิชาดี เพราะว่าบางวันไปรับส่ง-ลูกไม่ได้ ลูกต้องไปเองกลับเอง เด็กผู้หญิง ก็อดห่วงไม่ได้นะ
พอม.2ก็เริ่มมองออกเเล้วว่าลูกพอจะสอบเข้าม.4ที่โรงเรียนไหนบ้าง
โรงเรียนม.ปลายที่นี่เเยกเด็กตั้งเเต่จะเริ่มสอบเลย เด็กคะเเนนเรียนตอนม.ต้นเท่านี้สามารถจะไปสอบที่ไหนได้บ้าง(เข้าได้เเน่ๆเเบบไม่ต้องกวดวิชา)
ของลูกตอนนี้อยู่ที่ระดับSS59 เเต่โรงเรียนที่ลูกอยากเข้าอยู่ที่ระดับSS69 (ตัวเลขเยอะคือดี) ห่างกันพอสมควร ก็เลยต้องตัดใจลดการเก็บเงินลง เเบ่งส่วนหนึ่งออกมาจ่ายค่ากวดวิชาให้ลูก ตั้งเเต่เลี้ยงลูกมา ก็เพิ่งจะเริ่มส่งลูกไปกวดวิชากับเขานี่เเหละ ประสบการณ์ชีวิต ตอนนี้ก็พยายามทำงานเก็บตังค์ ประหยัด เพราะม.3คาดว่าต้องกวดวิชากันดุเดือด ค่ากวดวิชาก็คงดุเดือด เหอๆๆๆ