อ่อนน้อมถ่อมตน แปลว่าอ่อนแอหรือเปล่า บางคนคิดว่าใช่บางคนคิดว่าไม่ ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองใครทำแล้วจะรู้เอง อ่อนน้อมถ่อมตนทั้งกาย วาจา ใจ ต่อหน้าและลับหลังจิตก็ผ่องใสมีปัญญาดีส่งผลให้พูดจาดีมีวาจาฉลาดมารยาทงามใครเห็นก็รักไม่รักก็เอ็นดูไม่เอ็นดูก็แค่เฉยๆ แต่ไม่ยุ่งอะไรด้วย คนอ่อนแอเป็นไฉนคือปัญญาทึบทำการณ์ไม่รู้กาละเทศะ ทำตัวค่อมค้อมแต่ใจผูกเจ็บไปที่ใดๆ ก็มีแต่คนอยากทำร้ายแบบนี้ไม่ใช่อ่อนน้อมแต่อ่อนแอประสบการณ์ทางอานิสงค์ที่เราได้รับคนที่ใครๆในองค์กรว่า ร้าย ว่าเลว เมื่อประสบภพหน้ากันกลับไม่เคยทำอันตรายอย่างที่ใครรู้สึกจวบจนบัดนี้ก็ยังดีกับเราและให้ความช่วยเหลืองานด้วยดีเสมอมา ประสบการณ์ในสมัยพุทธกาล ครั้งหนึ่งพระสารีบุตรถูกพระภิกษุรูปหนึ่งใส่ความว่า ทะนงตนว่าเป็นอัครสาวกมาเดินกระแทกตน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสถามพระสารีบุตรในที่ประชุมสงฆ์ว่าเป็นจริงหรือไม่ พระสารีบุตรทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้ามีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ ระมัดระวังตน ประคองสติอันเป็นไปในกาย เมือนบุรุษประคองถาด ซึ่งบรรจุน้ำมันอยู่เต็มเปี่ยม และมีคนถือดาบอยู่เบื้องหลังพร้อมขู่ว่าถ้าน้ำมันหกจะประหารเสีย ข้าพระองค์ประพฤติตนเสมือนผ้าเก่าสำหรับเช็ดภาชนะ เสมือนโคที่เขาหักเสียแล้ว เสมือนเด็กจัณฑาลที่พลัดเข้าไปในหมู่บ้านย่อมไม่มีอำนาจที่จะแกล้วกล้าอาจหาญประการใด..... เราดู ขนาดพระสารีบุตรซึ่งก่อนบวชก็ร่ำเรียนจนจบในวิชา ๑๘ ประการมาแล้ว เปรียบสมัยนี้ก็เท่ากับได้ปริญญา ๑๘ สาขา บวชแล้วก็ได้เป็นพระอรหันต์ เป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังมีความอ่อนน้อมถ่อมตนถึงเพียงนี้มีความเจียมตัวอยู่ตลอดเวลา เปรียบตนเองเหมือนผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ที่เขาใช้เช็ดถ้วยชามเหมือนโคที่เขาขาดแล้วเหมือนเด็กจัณฑาลซึ่งเป็นคนชั้นต่ำสุดในอินเดียสมัยนั้นไม่มีความถือตัวทะนงตนแม้แต่น้อยแล้วพวกเราซึ่งยังเป็นปุถุชนธรรมดา ๆ อยู่นี่ล่ะ มีดีอะไรมากนักหนาจึงจะมาถือตัวกันเมื่อพระสารีบุตรกล่าวอยู่เช่นนี้ พระภิกษุรูปนั้นก็เกิดความเร่าร้อนในสรีระเหมือนมีไฟมาเผาตัว อดรนทนอยู่ไม่ได้ ต้องลุกขึ้นขอโทษระสารีบุตรและยอมรับสารภาพต่อหมู่สงฆ์ว่ากล่าวตู่ใส่ความพระสารีบุตร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญว่า พระสารีบุตรมั่นคงเหมือนแผ่นดิน เหมือนเสาหิน เป็นผู้ไม่แสดงอาการยินดียินร้าย เป็นผู้คงที่และมีวัตรดี เป็นผู้ใสสะอาดเหมือนน้ำที่ไม่มีฝุ่นหรือโคลนตม สังสารวัฏย่อมไม่มีแก่บุคคลเช่นนี้" |
บทความทั้งหมด
|