ฮีโร่สามัญประจำบ้าน อ่านแล้วชอบ เลยแปลรวดเดียวจบ ทั้งที่งานกำลังยุ่ง (เพื่ออะไรวะคะเนี่ยอิฉัน!?!) ขยันก็อ่าน ขี้เกียจก็ผ่าน ตามสบายจ้ะ แปลโดย แม่เจ้านีล - เจ้าของบล็อกนี้แหละ จาก Do-It-Yourself Heroes โดย แนนซี กิบส์ นิตยสารไทม์ ฉบับ May 18, 2009 อ่านต้นฉบับได้ที่นี่ค่ะ มนุษยชาติสร้างสรรค์ฮีโร่อย่างที่เรา ๆ กำลังต้องการให้เสมอ ตั้งแต่เฮอคิวสิสกับเชอร์ล็อค โฮล์มส ผู้ต่างอาศัยความสามารถเหนือธรรมชาติของตนเอาชนะคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่ง ไปจนถึงอันเดอร์ด๊อกยอดสุนัขพิทักษ์โลกกับลูกเป็ดขี้เหร่ ผู้ซึ่งสำแดงความเป็นฮีโร่ให้เห็นผ่านการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวตนนั้นเอง ท่ามกลางพาดหัวข่าวซึ่งอึกทึกไปด้วยมหันตภัยและความสับสนวุ่นวาย ก็เป็นธรรมดาที่ในตอนนี้เราต้องออกค้นหาฮีโร่แห่งกาลสมัยกันอีกสักครั้ง เริ่มจากกัปตันเชสลี่ (ซัลลี่) ซัลเลนเบอร์เกอร์ ผู้ซึ่งเดินตรวจตลอดความยาวเครื่องบินของตนที่ใกล้จมแม่น้ำ จนแน่ใจว่าผู้โดยสารทุกรายได้รับการช่วยเหลือไปแล้วครบถ้วน ต่อมาก็กัปตันริชาร์ด ฟิลลิปส์ ผู้ต่อกรโจรสลัดร้ายกลางทะเลเกรี้ยวกราด แล้วสุดท้ายเราก็พบ ซูซาน บอยล์ คุณป้าตกงานเคร่งศาสนา ผู้โดนมารดาใกล้ตายสั่ง ให้ไปไล่ล่าความฝันน่าขันแห่งการเป็นนักร้องแถวหน้าเสียให้รู้แล้วรู้รอด หนึ่งในจำนวนนั้นอาจเป็นลุงโอลิเวอร์หรือป้าฟลอเรนซ์ของเราได้สบาย ๆ อยู่อย่างปราศจากชื่อเสียงวันแล้ววันเล่าจนต้องมาเจอบททดสอบกะทันหัน แทบไร้โอกาสเตรียมตัวนอกเสียจากเวลาชั่วชีวิตที่สั่งสมให้กลายมาเป็นตัวเองนี่แหละ ซัลลี่ขับเครื่องบินมาแล้ว 19,000 ชั่วโมง บินเครื่องร่อนเป็นงานอดิเรก สำเร็จปริญญาโทสองสาขา ศึกษาจิตวิทยาภาวะวิกฤต เพื่อเรียนรู้วิธีควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของลูกทีมในสถานการณ์ฉุกเฉิน "กระผมกับลูกเรือ เราก็แค่ทำงานตามหน้าที่เท่านั้น" เขาแจ้งให้ประธานาธิบดีทราบเมื่อฝ่ายหลังโทรมาแสดงความยินดี Chesley (Sully) Sullenberger III -- ขอบคุณภาพจาก AP ด้านฟิลลิปส์ อดีตคนขับแท็กซี่จากบอสตัน เมื่อไม่มีอาวุธใด ๆ ที่สามารถนำมาใช้ต่อสู้เขาจึงพยายามเจรจา ขอแลกเปลี่ยนตัวเองกับโจรสลัดผู้หนึ่ง ซึ่งลูกเรือของตนจับตัวไว้ได้ แต่กลุ่มโจรเห็นว่ากัปตันมีค่ามากกว่าจึงกักไว้เป็นตัวประกันถึงห้าวัน จนกระทั่งนักแม่นปืนหน่วยจู่โจมพิเศษ (SEAL) แสดงปาฏิหาริย์วันอีสเตอร์ช่วยได้ในที่สุด "เป็นผลงานที่สุดยอดมาก" เขาเอ่ยถึงทหารหน่วยจู่โจมพิเศษเหล่านั้น "พวกเขาคือซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง" ลูกเรือของเขาก็เรียกกัปตันด้วยคำเดียวกันนี้เอง แล้วก็มาถึงบอยล์ น้องสุดท้องในจำนวนเก้าคน เคยขาดออกซิเจนเมื่อแรกเกิด โดนรุมแกล้งที่โรงเรียน ใช้ชีวิตอุดอู้อยู่กับแมวรักชื่อเพบเบิ้ลส์ เมื่อครั้งที่ไปคัดตัวเข้าแข่งขันในรายการทีวีปี 1995 ยุคแห่งความหยิ่งยโสและหรูหราฟู่ฟ่า ก็ถูกเย้ยหยันกลับมา จึงได้แต่ร้องคาราโอเกะที่ผับและพยาบาลแม่ซึ่งป่วยหนักจนถึงวันที่เธอเสียชีวิตไป "แม่คือชีวิตของฉัน" บอยล์กล่าว "แม่บอกให้ฉันไปสมัคร Britain's Got Talent เราดูรายการด้วยกันเสมอ แม่เชื่อว่าฉันจะชนะ" บอยล์เฉิดฉายกลางเวทีจนได้ พร้อมความทะนงตนแบบเปิ่น ๆ และขนคิ้วชี้โด่ชี้เด่เหมือนลูกหนู กระทั่งวันนี้ชื่อเสียงก็ยังอุตส่าห์ล้อเลียนคุณป้าด้วยการให้ฉายา "นางฟ้าขนดก" แน่ล่ะ เพลงซึ่งสร้างชื่อให้เธอคือหนึ่งในบรรดาเพลงขมขื่นที่สุดที่ละครเพลงเคยมี ขับร้องโดยเด็กสาวผู้ต่ำต้อยแร้นแค้น "ชีวิตนี้ฉันเคยฝัน / ว่ามันจะต่างจากนรกที่เป็นอยู่ / ต่างสิตอนนี้เท่าที่ดู / ชีวิตเพิ่งฆ่าฝันที่ฉันสู้เฝ้าฝันมา" "Britain's Got Talent" star Susan Boyle -- ขอบคุณภาพจาก AP ทว่าฝันของบอยล์กลับได้ฟื้นคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ แอชตันกับเดมี่ ราชาและราชินีแห่งอาณาจักรทวิตเตอร์ยังจ้อจิ๊บ ๆ เรื่องเธอ แต่คุณป้าก็ไม่อาจรู้ได้เพราะไม่มีทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์ รู้แต่ว่าตอนนี้ที่หน้าบ้านประชาสงเคราะห์ของตนมีช่างภาพมาดักรออยู่ โอปราห์ก็ส่งเทียบเชิญมาออกรายการ และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอทำให้พวกหัวแข็งเลิกเยาะหยันแล้วหันมาร้องไห้แทนได้ แต่ละเดือนเทพเจ้าแห่งข่าวทรงบันดาลนิทานสอนใจเหล่านี้มาให้เรา เป็นของขวัญในกล่องทองคำเพื่อเตือนว่าคุณค่าแท้จริงอยู่ที่ไหน เรารู้สึกดีขึ้นเยอะเมื่อรู้ว่าใคร ๆ ก็เป็นซูเปอร์แมนได้ และไม่ว่าจะมองทางใด ก็ล้วนแต่มีความยิ่งใหญ่ ศักดิ์ศรี อัจฉริยะภาพ และมีความโชคดีซุกซ่อนอยู่ เรื่องเล่าพวกนี้คงหมดความหมายหากซูซาน บอยล์เป็นยัปปี้นักชงกาแฟในร้านหรูสักคน หรือหากกัปตันฟิลลิปส์เคยประจำหน่วยซีลมาก่อนเสียเอง ความธรรมดาสามัญติดปีกให้เรื่องราวโบกบิน Maersk Alabama Captain Richard Phillips -- ขอบคุณภาพจาก AP คุณสมบัติต่าง ๆ ที่เนื้อหาของข่าวเชิดชูคือประเด็นสำคัญ นั่นคือความสามารถตามตำแหน่งหน้าที่ ดังที่นักบินผู้รู้จักคุ้นเคยเครื่องบินของเขาดีแสดงให้เห็น, ความเสียสละ เหมือนกัปตันผู้ยินดีแลกชีวิตตนเพื่อรักษาชีวิตลูกเรือทั้งหมด, ความอุตสาหะ เช่นในนักร้องที่รู้ตัวตั้งแต่แตกเนื้อสาวว่าตนต้องการอะไร และไม่ยอมเปลี่ยนใจแม้จะต้องโดนดูถูกเพียงใดก็ตาม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ที่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นคุณสมบัติที่โค้ชชีวิตระดับประเทศอย่าง บารัค โอบามา ยกย่องอยู่เสมอ การที่ท่านประธานาธิบดีขอบคุณและชมเชยสาธารณชนสำหรับความอดทน ทำให้ฉันมั่นใจว่าเขาต้องได้อ่านคู่มือพ่อแม่มาแน่ ๆ หนังสือพวกนี้ชอบบอกว่า ถ้าเราอยากให้ลูกมีคุณสมบัติอย่างไร ให้รีบชมเรื่องนั้นไว้ก่อน โอบามากล่าวว่าการจะฟื้นฟูสังคมด้านใด ๆ อย่างจริงจัง ต้องอาศัย "สำนึกแรงกล้าที่จะรับผิดชอบภาระหน้าที่" ซึ่งแปลได้ว่าจงพับแขนเสื้อขึ้นและเก็บกวาดชำระมูลฝอยของตนเสียดี ๆ นั่นเอง ยุคสมัยนี้ปฏิเสธคุณธรรมขั้นสูงซับซ้อน กลับเรียกหาเพียงความถ่อมตน ความอดทน ความเพียร และความมีประสิทธิภาพ ในวันที่ทุกคนต่างต้องเอาตัวเองให้รอด เราโหยหาความอุ่นใจที่วีรชนคนธรรมดาเหล่านี้มีให้ ดีใจที่ยังมีเรื่องเล็ก ๆ ให้สนแม้ยังต้องกังวลในเรื่องใหญ่ ๆ นี่คือช่วงเวลาแห่งคาราโอเกะโดยแท้ แม้จะไม่มีสตางค์จ้างดนตรีเต็มวง แต่เราก็เริงร่าร้องลำนำเชิดชูความสูงส่งอันสุดแสนสามัญกันได้ตลอดทั้งคืน. กรี๊ดดด คิดถึงพี่เปีย อะอะ เป็นแม่ลูกอ่อนไปเสียแล้ว
เมื่อคืนเพิ่งไปอ่านบล็อกพี่อยู่พอดี แต่มันจะเช้าแล้วหนูเลยนึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร ว่าง ๆ ขอดูรูปน้องปัณณ์หน่อยจ้า โดย: Eeyore วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:41:47 น.
แว้ก ยังมีคนเข้าไปอ่านบล็อกจวนร้างของเราอีกหรือนี่ ^^' อายจัง ไม่ได้เขียนมาเป็นปีแล้ว :p
พี่ก็แวะมาดูบล็อกนี้นานๆที นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาเจอตอนเขียนเสร็จใหม่ๆ แหม นับว่าเรานี่ใจตรงกัน(ในรอบทศวรรษ) อิิอิ รูปปัณณ์ รอแป๊บบบ(ใหญ่ๆ)นะคะ ถ้าทำได้จะมาแปะให้ดูในทันใด (มีบทเรียนว่าทำอะไรได้ตอนไหนทำ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพราะไม่รู้ลูกจะตื่นตอนไหน เหอเหอ) โดย: เปีย IP: 124.120.163.80 วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:35:56 น.
มาแล้วค้าบบบ
รูปแรกนี่อายุประมาณ ๖ ชั่วโมง รูปนี้ถ่ายวันเสาร์ที่แล้ว อายุ ๑ เดือน ๑ วันค่ะ โดย: เปียดื้อ วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:44:44 น.
ว้ายยย เห็นเด็ก ๆ แล้วชื่นใจ หน้าตาน้องเหมือนเลี้ยงง่ายนะคะ (หรือเปล่า อิอิ)
แล้วตอนนี้พี่เปียทำงานอยู่หรือลาเลี้ยงน้องอะคะ ช่วงนี้คงนอนน้อยเนอะ เอ๊ะ เริ่มจะคุยกันส่วนตัวแระ เดี๋ยวหนูไปฝากเมลไว้ที่บล็อกพี่ดีกว่า พอพี่เจอแล้วจะได้ลบออกได้เลยจ้า โดย: Eย IP: 110.169.8.252 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:14:34:54 น.
ส่งเมลไปแล้วนะคะ (ถ้ามีเวลาจะส่งไปอีก แฮ่)
คอมเมนต์ของพี่(พร้อมรูป)ก็ลบได้เลยนะคะ เขินเหมือนกัน แปะรูปลูกตัวเองเนี่ย จะเอารูปไปใส่บล็อกก็(ยัง)ไม่มีปัญญาเขียนเป็นเรื่องเป็นราว เห็นบล็อกบรรดาคุณแม่ๆที่เขียนเรื่องลูกกันสวยๆงามๆ แถมต่อเนื่องเป็นปีๆ แล้วได้แต่ทึ่งว่าทำกันออกมาได้ขนาดนั้น เอาเวลาที่ไหนมานะ แบ่งเวลายังไงหนอ เก่งจริงๆ โดย: เปีย IP: 124.120.165.153 วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:16:32:27 น.
ตามมาอ่านอีกรอบค่ะ จะบอกว่าบางทีก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้เลยค่ะ ว่าคือความหมายตรงหรือไม่
ตกลงยุคสมัยนี้เรียกร้องเพียงความถ่อมตนจริงหรือ โดย: chinging วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:9:58:19 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ขอบคุณคนแปลนะจ๊ะ
ตอนนี้พี่มีงาน full time เป็นแม่ลูกอ่อนค่ะ น้องปัณณ์อายุได้ ๓๗ วันละ
เห็นจริงเลยที่เขาว่า You have never worked full time until you become a mom. (on a bumper sticker เหมือนกัน)
แล้วจะมาทักทายใหม่นะคะ