|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตคู่
สมรสหมายถึง รสนิยมเสมอกัน มีจริตนิสัย
ชอบและไม่ชอบอะไรคล้ายๆกัน จึงเข้ากันได้เป็นอย่างดี
เมื่อเราใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลอื่นในฐานะต่างๆ
ต้องมีคุณธรรม และมีรสนิยมเสมอกัน จึงจะมีความสุข....
" ถ้าต่างกันมาก เข้ากันไม่ได้ " ก็มักเกิดปัญหาตามมา
โดยเฉพาะ.......... ชีวิตคู่...............
เป็นสามีภรรยาต้องใกล้ชิดกันมาก จนเรียกได้ว่าทั้งเราและเขา
มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต
จึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบ
หากตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่กับใคร????
**********************
อารมณ์รักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
เมื่อเราสามารถเริ่มต้นชีวิตคู่กับคนที่เรารักมากๆ
......... เรารู้สึก สมหวัง ในความรัก ..........
โลกทั้งโลกสดใสสวยงามสำหรับเรา
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรานี้ไม่แน่นอน
ชีวิตสมรส อาจจะเป็นชีวิตคู่ที่อบอุ่น
สร้างครอบครัวที่มีความสุขร่วมกัน
หรือโดยส่วนใหญ่ก็มีทุกข์บ้าง สุขบ้าง
อย่างปุถุชนทั่วๆไป แต่สำหรับบางคู่อาจจะเป็น
" ชีวิตที่ตกนรก ทั้งเป็น เลยก็มี "
เปรียบชีวิตคู่เหมือน.......
ชีวิตแบบยักษ์อยู่ด้วยกัน
ชีวิตแบบเปรตอยู่ด้วยกัน
ชีวิตแบบเดรัจฉานอยู่ด้วยกัน
***** อย่าหลงเชื่อในความรู้สึก " รัก " ซึ่งไม่แน่นอน
อารมณ์รักก็มีลักษณะเช่นเดียวกับ จิตที่เกิดอุปาทาน
เหมือนการติดบุหรี่ เล่นการพนัน ติดยาเสพติด
ที่เกิดจากอุปาทาน " ยึดมั่นถือมั่นของจิต "
" การหลงรักในสิ่งที่คนทั่วไปไม่รักก็มีมาก "
จึงทำให้ชีวิตมนุษย์เรานั้นสับสนวุ่นวายอยู่ในทุกวันนี้
*** เมื่อเรารู้ว่าอารมณ์รักเป็นสิ่งไม่แน่นอน
เราจึงไม่ควรใช้อารมณ์รักเพียงอย่างเดียว
มาเป็นข้อตัดสินใจในการเลือกคู่ชีวิต ***
### พระพุทธเจ้าทรงให้หลักในการพิจารณาไว้ว่า..........
ชีวิตคู่ที่จะมีความสุขร่วมกันได้ดี
ควรมี " คุณธรรมเสมอกัน 4 ประการ " คือ
หนึ่ง ศรัทธา ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม
สอง ศีล ความประพฤติดีทางกายและวาจา
สาม จาคะ ความเสียสละ รู้จักแบ่งปัน
สี่ ปัญญา ความรู้ว่า " สิ่งใด ดี หรือ ชั่ว "
อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงเป็นเรื่องยากที่จะได้คู่ครองที่มีความคิด
จิตใจเหมือนกันกับเรา.....
หลวงพ่อชา เคยเปรียบเทียบชีวิตคู๋ไว้ว่า........
เหมือนเอาไม้สองท่อนมามัดไว้ด้วยกัน
ถ้าไม้ท่อนเดียวกันเอามือจับปลายสองข้างจะดึงจะโค้งงออย่างไร
มันก้อทนกว่าไม้สองท่อนที่จับเอามามัดกันไว้
เมื่อเราจับงอหรือดึงไปคนละทาง
มันง่ายอยู่แล้วที่จะหลุด.....ออกจากกัน..........
Create Date : 19 กันยายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 19 กันยายน 2552 16:07:24 น. |
Counter : 497 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
*_* ShaRinG BeYoNd BoRdEr *_*
" ไม่ต้องเชื่อ..... แต่
.....ค้นพบได้ด้วยตัวเอง "
" ไม่ต้องเชื่อ.....แต่ต้องทำ
เป็นการไตร่ตรองด้วยเหตุผล "
~มิพานพบฤารู้จัก มิพูดคุยฤารู้ใจ~
" You " came with lonely wind.
That brought along sadness.
I came with a grain of sand.
That bought lonesome to
scatter over the sky.
When the wind blew.
The wave brought sand to shore.
A grain of sand then dreamed that
It would have been sparkle
at the horizon like stars.
But a grain of sand could only dream.
Staring at the stars quietly
with uncertainly through a cold night.
The wind waved goodbye,
left the worthless and
sand staring at the stars.
When the stars moved,
~Heart
Was
Lonely
In
TearS~
|
|
|
|
|
|
|