|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กลุ่มปกป้องที่ดินจะนะฯ ร้องจุฬาราชมนตรีคืนที่ดินวะกัฟ
ที่มา: ประชาไท
"กลุ่มปกป้องที่ดินวะกัฟและขอทวงคืน" อ.จะนะ จ.สงขลา นำป้ายทวงคืนที่ดินวะกัฟติดคู่กับป้ายแสดงความยินดีที่นายอาศีส พิทักษ์คุมพลได้รับเลือกเป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 18 ที่มีผู้นำมาติดตั้งก่อนไว้แล้ว
วานนี้ (14 มิ.ย.) เวลาประมาณ 10:30 น. ตัวแทนกลุ่มปกป้องที่ดินวะกัฟและขอทวงคืน อ.จะนะ จ.สงขลา จำนวนประมาณ 20 คน เดินทางมาบริเวณสี่แยกหอนาฬิกา อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อนำแผ่นป้ายไม้กระดานมีข้อความว่า “ท่านจุฬาฯ ขอรับ ช่วยคืนดินวะกัฟให้กับอัลลอฮฺ” มาติดตั้งไว้คู่กับป้ายแสดงความยินดีต่อนายอาศีส พิทักษ์คุมพล เนื่องในโอกาสรับเลือกเป็นจุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ซึ่งมีผู้อื่นนำมาติดตั้งไว้ก่อนแล้ว
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 53 ตัวแทนกลุ่มปกป้องที่ดินวะกัฟได้เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่จะได้ รับเลือกเป็นจุฬาราชมนตรีคนใหม่ โดยทางกลุ่มเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าจะเป็นใคร ภายหลังจากทราบผลการเลือกตั้งชัดเจนแล้วจึงได้ประสานงานขอยื่นหนังสือเพื่อ แสดงความยินดีและร้องเรียนให้จุฬาราชมนตรีคนใหม่แก้ไขปัญหากรณีที่ดินวะกัฟ ซึ่งเป็นทางสาธารณประโยชน์ในพื้นที่อำเภอจะนะ
เนื่องจากสำนักจุฬาราชมนตรีในชุดก่อนได้ทำการวินิจฉัยเรื่องนี้ไว้ว่า “ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่าทางสาธารณะดังกล่าวได้มาโดยการวะกัฟของชาว มุสลิม” และเห็นด้วยกับกับการแลกเปลี่ยนที่ดินวะกัฟหรือทางสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ให้แก่ บริษัท ทรานส์ ไทย – มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงแยกก๊าซของ บริษัท ทรานส์ ไทย – มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งที่การวินิจฉัยครั้งนั้นไม่ได้มีกระบวนการสอบสวนรับทราบข้อเท็จจริงที่ ถูกต้อง เป็นการใช้กระบวนการรับฟัง สรุปข้อเท็จจริงด้านเดียว ฝ่ายเดียว คือข้อมูลจากฝ่ายราชการ และบริษัทผู้ได้ประโยชน์จากการใช้ที่ดินวะกัฟ ไม่เคยรับฟังข้อมูลจากกลุ่มผู้ร้องเรียนซึ่งประกอบด้วยทายาท พยานของการวะกัฟเส้นทาง รวมถึงไม่เคยรับฟังข้อเท็จจริงของประชาชนผู้เดือดร้อนจากการปิดกั้นเส้นทาง สาธารณประโยชน์จากการกระทำของบริษัทฯ ซึ่งทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจร ใช้ประโยชน์ในเส้นทางวะกัฟดังกล่าวได้ต่อไป จึงเป็นการวินิจฉัยโดยมิได้เป็นไปตามหลักนิติศาสตร์อิสลาม ทำให้หลักการสำคัญของการวะกัฟตามหลักการศาสนาต้องถูกบิดเบือนไป ตามความประสงค์ของอำนาจฝ่ายรัฐและผลประโยชน์ของฝ่ายทุน
นายประกอบ หลำโส๊ะ ผู้มาร่วมติดตั้งป้ายดังกล่าว กล่าวว่า “วันที่พวกเราไปยื่นหนังสือนายอาศีส พิทักษ์คุมพล กลับปฏิเสธไม่ยอมรับหนังสือ และเดินหนีไปขึ้นรถเดินทางออกจากศูนย์บริหารกิจการศาสนาฯ อย่างรีบร้อนโดยไม่ยอมรับฟังคำชี้แจงใดๆ จากพวกเรา ที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้ติดตามของนายอาศีส พิทักษ์คุมพล ยังพยายามข่มขู่คุกคามตัวแทนกลุ่มฯ อีกด้วย พวกเรารู้สึกผิดหวังในตัวว่าที่จุฬาราชมนตรีคนใหม่มาก”
นางจันทิมา ชัยบุตรดี ตัวแทนกลุ่มปกป้องฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ในวันนั้นพวกเราเห็นว่า เมื่อผลเลือกตั้งเป็นเช่นนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราน่าจะเข้าถึงตัวจุฬา ราชมนตรีได้ง่ายขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ หาทางแก้ไขปัญหาที่ดินวะกัฟเพราะท่านเป็นคนบ้านเรา แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ท่านไม่ยอมคุยกับเรา เราจึงต้องนำป้ายนี้มาติดตั้งเพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับสาธารชน และเรียกร้องให้ท่านจุฬาฯ คนใหม่จริงจังแก้ปัญหานี้”
นายเจะหมัด สังข์แก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังกลับจากไปร่วมฟังผลการเลือกตั้งจุฬาฯ มีการข่มขู่มาจากฝ่ายผู้ติดตามท่านอาศีสว่าไม่พอใจถึงขั้นจะเอาชีวิตพวกเรา เราจึงอยากจะฝากถึงท่านอาศีสว่าช่วยควบคุมดูแลพฤติกรรมคนของท่านด้วย นอกจากนี้หลายคนมีความเห็นตรงกันว่า การที่ท่านไม่ยอมรับหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกเนื่องจากอาจทำให้ผู้ที่ทราบเรื่องราวเข้าใจไป ได้ว่า นายอาศีส พิทักษ์คุมพลเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยที่ผ่านมา โดยตั้งใจให้เป็นไป “เพื่อสมประโยชน์ของบริษัท ทรานส์ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด” ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายแก่ตัวนายอาศีสเอง และสร้างความเสียหายต่อพี่น้องมุสลิมโดยรวมเช่นกัน”
หลังจากนั้นสมาชิกกลุ่มจึงเดินทางไปติดตั้งป้ายรณรงค์เพิ่มเติมบริเวณสาม แยกบ้านสะหลุดทางไปอำเภอนาทวี และริมถนนทางเข้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติทรานส์ไทย-มาเลเซีย แล้วจึงแยกย้ายกันกลับบ้านเวลาประมาณ12:30 น.
Create Date : 15 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 21:05:44 น. |
|
1 comments
|
Counter : 711 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Moneyjr วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:21:30:09 น. |
|
|
|
| |
|
|