Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าที่...หนึ่ง




เปิดตำนานผู้วิเศษ





กาลครั้งหนึ่ง เนิ่นนานกว่ากำเนิดของมนุษย์มากมายนัก

ดินแดนแห่ง ดิน น้ำลม และไฟ ถูกสร้างขึ้นพร้อม

ดวงดาวสีน้ำเงิน ซึ่งถูกเรียกว่าโลก พื้นแผ่นดินแห่ง

แรกผงาดด้วยพลังงานแห่งไฟใต้พื้นพิภพเหนือมวล

มหาสมุทร บทเพลงแห่งสายลมบรรเลงมาเป็นคราแรก

หอบหิ้วความหวังมากมาย ลงสู่ผืนดินแห่งตำนาน

สิ่งมีชีวิตอุบัติขึ้น พร้อมพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือโชคชะตา...


...............................












เรื่องเล่าที่หนึ่ง....
เจ้าชายแห่งนัวล์

“ยุคกลางของอารยธรรมมนุษยชาติ (ค.ศ. 500-1500 โดยประมาณ) รอยเชื่อมต่อของมนุษย์ยุคเก่าและยุคใหม่ สงครามเกิดขึ้นมากมายจนถูกเล่าขานถึงยุคมืดอันน่าสะพรึงกลัว แม้กระนั้นในยุคนี้กลับเป็นยุคเฟื่องฟูของศาสนามากมาย มีผู้กล่าวว่า ยุคกลางหาใช่ยุคมืดไม่ มันคือยุคแห่งแสงสว่าง

คริสตศาสนารุ่งเรืองสูงสุดในยุคนี้เช่นกัน นั่นนำพามาซึ่งยุคมืดของโลกปีศาจ ผู้วิเศษมากมายถูกจับเผาไฟในข้อหา “เป็นแม่มด” ปีศาจหลายตนหลุดพ้นมาได้กับความรำคาญเพียงเล็กน้อย “พ่อมด แม่มดแท้จริงสามารถเล็ดรอดจากสถานการณ์นี้อย่างง่ายดาย” เป็นคำกล่าวของ โวป้า แม่มดมนต์ดำอายุกว่า 800 ปี “ในบันทึกของตระกูลกล่าวว่าพวกเขาจะเป็นเถ้าถ่านแล้วกลับมาอีกในภายหลัง” ผีดูดเลือด จอห์น ชาร์ค ให้สัมภาษณ์

แต่อนิจจาปีศาจหลายตนดับสูญในกองไฟ พวกเขาไม่อาจต้านทานความร้อนแรงของเปลวเพลิงได้ “แม้มีร่างกายแข็งแรงว่องไวเป็นอมตะ แต่เราก็แปลงร่างได้ในคืนจันทร์เต็มดวงเท่านั้น” มนุษย์หมาป่าวูล์ฟ ชอง เอ่ยอย่างเศร้าใจ

ศาสนจักรล่าพ่อมด แม่มดอย่างหนัก กว่าครึ่งนั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทว่าไปอยู่ผิดที่ผิดทางเท่านั้น กระนั้นการเผาเหล่าปีศาจก็เกิดขึ้นจริงมิใช่เพียงตำนาน

การปฏิวัติโลกปีศาจเกิดขึ้น พวกเราเพียงอยากอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติ ปีศาจหลายเผ่าดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์โลก และหลาย ๆ เผ่าใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมที่เป็นมาตามจุดต่าง ๆ ที่ไม่ปรากฏในแผนที่ สถานที่สำคัญของโลกปีศาจปิดกั้นจากพวกมนุษย์โดยกำแพงเวทมนตร์จากจอมเวทชั้นสูง…”


เด็กชายวัยสิบสองปีหน้าตาน่ารักผมดำสนิทตัวสูงเก้งก้างหาวหวอด ชื่อของเขาคือชนุดม แต่คนที่รู้จักเขาชอบเรียกเขาด้วยชื่ออื่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ตัวแสบ ตัวกวน นักเรียนตัวป่วน นัยน์ตาที่มักส่อประกายซุกซนเสมอของเขาบัดนี้หมองลงไม่ปิดบังอาการเหนื่อยหน่ายกับหนังสือตรงหน้า เขาเอนศีรษะไปด้านขวาเล็กน้อยพึมพำกับเด็กชายอีกคนที่นั่งด้านข้าง

“เราอยู่ประเทศไทยนะ..ทำไมต้องเรียนประวัติศาสตร์ยุโรปด้วย”

“ประวัติศาสตร์โลกต่างหาก..ถ้านายจะอ่านหน้าปกหนังสือ”

“ช่าย..เมโสโปเตเมีย ดินแดนระหว่างลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรทิส แม่น้ำไนล์ในอียิปต์ แม่น้ำสินธุของอินเดีย ฮวงโหของจีน ฉันไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในหนังสือเล่มนี้เลย..”

ชนุดมหันไปมองเด็กชายที่นั่งข้าง ๆ เต็มตา และเด็กชายคนนั้นก็ละสายตาจากหนังสือขึ้นมามองเขาเช่นกัน นัยน์ตาสีเหลืองอำพันกับนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มสบกัน

“นายไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ ตอนเราเรียน “อารยธรรมผู้วิเศษไทย”

“ฮึ..ฉันหมายความว่าเราน่าจะเรียนอะไรเกี่ยวกับปัจจุบันมากกว่าย้อนหลังไปตั้งหลายพันปีต่างหากเล่า”

“ง๊าน..เหรอ..?? แล้วการปกครองปีศาจสมัยใหม่ล่ะ..นายก็บอกว่าเราไม่ควรเรียนเหมือนกัน” เด็กชายตาสีอำพันย้อนถาม

“เอาล่ะ!! ชนุดม ชวนากร ถ้าเธอสองคนไม่ตั้งใจอ่านหนังสือที่ฉันสั่งให้อ่านล่ะก็ ฉันจะให้พวกเธอออกไปยืนหน้าชั้นเรียน”

“คร๊าบ..”

เสียงหัวเราะคิกคักดังทั่วห้องเมื่อชนุดมและชวนากรยืนขึ้นขานรับเสียงดุดันของอาจารย์สาวโสดวัยกลางคน พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อน ๆ

อาจารย์มาตาเลีย ผู้สอน วิชาประวัติศาสตร์โลก ขยับแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมเขม่นมองทั้งสองเป็นเชิงเตือน ก่อนก้มหน้าตรวจแบบฝึกหัดที่นักเรียนเพิ่งส่งเมื่อครู่ต่อไป

ชนุดม ชวนากร ส่งยิ้มให้กัน ใบหน้าทั้งสองดุจเงาสะท้อนของกันและกันในกระจก ผิดกันเพียงสีนัยน์ตาเท่านั้น


%%%%%%%%%%%%


“เมื่อกี้เด็กห้อง 4 มาถามฉันว่า วิชาเลขเรียนถึงบทไหนแล้ว” ชวนากรพ่นลมหายใจอย่างฉุนเฉียว “ฉันจะไปรู้ได้ไงในเมื่อฉันไม่เคยเรียนกับเขาเลยไอ้คณิตศาสตร์นี่น่ะตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่”

“หวังว่านายคงไม่บอกพวกเขาออกไปอย่างนั้นหรอกนะน้องชาย ยังไงเราก็ต้องเรียนตอนซัมเมอร์อยู่ดี”

“ฉันไม่ได้บอกแน่ น้องชาย ฉันแค่บอกว่าฉันเรียนไม่รู้เรื่อง”

ชวนากรเน้นเสียงคำว่า “น้องชาย” เช่นเดียวกับชนุดม ทั้งสองไม่มีใครยอมรับว่าเป็นน้อง ชนุดม ออกมาชมโลกก่อน ชวนากรเพียงหนึ่งนาที แต่ชวนากรเชื่อตามทฤษฎีที่ว่าคนที่ออกมาทีหลังเป็นพี่

ระเบียงทางเดินร้างผู้คนแม้เป็นช่วงเวลาพักกลางวัน ชั้นหกของตึกศาสตร์ศิลป์ในโรงเรียนปรานศาสตร์ ไม่ปรากฏให้ผู้คนเห็น มองจากภายนอกตึกนี้มีเพียงห้าชั้นเท่านั้น ภายในก็เช่นกัน มีเพียงผู้คนของโลกปีศาจเท่านั้นที่จะค้นพบทางขึ้นนี้ และชั้นหกของตึกนี้เองเป็นชั้นเรียนปีแรกของเหล่าเด็กน้อยชาวปีศาจวัยสิบสองปีจากทั่วประเทศไทย ส่วนปีสองถึงหก ต่างกระจายไปตามตึกต่าง ๆ

ชนุดมเดินเข้ามาในห้องเรียนก่อน มือเอื้อมไปขย้ำกระดาษเรืองแสงรูปวงกลมที่สาวน้อยผีดูดเลือดดาราวลี โบกไปมาหน้าฟ้าลั่นมนุษย์หมาป่าซึ่งตอนนี้น้ำลายเริ่มยืดหยดจากปากที่ยื่นออกมาจนผิดรูปร่างแล้ว

“พระจันทร์กระดาษ..ไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์เท่าไหร่นะ ดาราวลี”

ดาราวลียิ้มตอบคำพูดของชวนากรอย่างซุกซน

“ฟ้าลั่นอยากแปลงร่างให้ฉันดูน่ะ”

“เธอแอบเอามันมาไว้ในหนังสือฉัน” ฟ้าลั่นเถียง หน้าตากลับมาเป็นอย่างเดิม

“ความจริงเราก็อยากเห็น” ชวนากรพยักเพยิดกับ ชนุดม “แต่ไม่ใช่ในชั่วโมงยาอาถรรพ์ ไว้เย็นนี้เป็นไงฟ้าลั่น” ชนุดมต่อ

เด็กชายมนุษย์หมาป่ากัดฟันกรอดใส่ใบหน้ายิ้มกริ่มของฝาแฝด และดวงหน้ากระตือรือร้นของสาวน้อยผีดูดเลือด

“ฉันไม่กลายร่างก่อนพระจันทร์เต็มดวง และถ้าพวกนายอยากเห็นใครกลายร่างก็ให้หล่อนเป็นค้างคาวให้ดูสิ”

เป็นที่เข้าใจว่าฟ้าลั่นหมายถึงดาราวลีนั่นเอง ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไรกันอีกอาจารย์คาวัลโน่ผู้สอนวิชายาอาถรรพ์ก็ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน

ฉับพลันที่อาจารย์คาวัลโน่ก้าวเข้ามา เธอเป็นหญิงร่างสูงโปร่งหน้าตาดุดัน ผิวขาวซีด ฝาแฝดมักเหน็บแนมว่าที่คาวัลโน่ดูซีดเซียวนั่นเพราะมัวซุกตัวหลบอยู่แต่ในถ้ำหินของเธอ

ฉับพลันห้องเรียนก็กลายเป็นบ้านอิฐทึม ๆ ค่อนข้างมืด ไม่ชื้นแต่ เย็นยะเยือก ตู้กระจกเก็บชิ้นส่วนและซากต่าง ๆ มากมายกระจายอยู่รอบห้อง และที่นี่แหละที่ชวนากรและชนุดมขนานนามว่าถ้ำหินแห่งคาวัลโน่

“ฝาแฝด..ถ้าเธอไม่ไปอยู่กับกลุ่มของเธอฉันจะแยกเธอออกมา”

“ให้เราทำแยกจากคนอื่นหรือฮะ” ชวนากรมองอาจารย์คาวัลโน่อย่างมีหวัง การทำโทษโดยการปรุงยาเพียงลำพังเหมือนเป็นรางวัลมากกว่าการลงโทษสำหรับชวนากร นั่นจะหมายความว่ายาทั้งหม้อเป็นของเขาด้วย

“ฉันจะให้พวกเธอดูเฉย ๆ” อาจารย์คาวัลโน่ตอบเสียงเย็น

“ไม่นะ..!!” คราวนี้ชวนากรและชนุดมประสานเสียงกัน แล้วกลับเข้าประจำที่อย่างรวดเร็ว

“แต่ละกลุ่มไปหยิบหม้อมากลุ่มละใบ วันนี้เราจะปรุงยาแปลงกลิ่น”

“แปลงกลิ่น!!!” ชนุดมตะโกนน้ำเสียงไม่เห็นด้วย

ใบหน้ากระด้างของอาจารย์คาวัลโน่หันขวับมาทางเด็กชายนัยน์ตาน้ำเงิน ทำให้เขารีบก้าวไปหยิบหม้อใบใหญ่ที่ซุกเป็นตั้งอยู่มุมห้อง เมื่อกลับมาที่โต๊ะประจำกลุ่ม ฟ้าลั่นเด็กชายมนุษย์หมาป่าบ่นพึมพำ

“นายจะทำให้กลุ่มเราถูกตัดคะแนนหรือไง”

ชนุดมทำเป็นไม่สนใจฟ้าลั่นหันไปกระซิบกับ ชวนากร “ฉันว่าเราน่าจะปล่อยให้เขาเป็นมนุษย์หมาป่าให้คาวัลโน่เห็นนะ”

“เราจะได้สนุกสนานดูว่าคาวัลโน่จะทำยังไง” ชนุดมเสริม

เวลาผ่านไปสิบนาทีในห้องเริ่มเต็มไปด้วยควันจากหม้อยา “เฮ้..ชิวนายหายไปไหนน่ะ” ชนุดมทำเป็นมองไม่เห็นฝาแฝดของเขา เริ่มกวาดมือเปะปะไปเรื่อยจนฟาดเข้ากับหน้าของฟ้าลั่น “ชินทำไมผมนายยาวขึ้นล่ะ” ชวนากรกระตุกผมดาราวลีจนเด็กสาวร้องกรี๊ดลั่น

“หักคะแนนกลุ่มสาม!!” เสียงอาจารย์คาวัลโน่ประกาศก้อง

“แย่ล่ะสิ” บัลลังก์สมาชิกคนที่ห้าของกลุ่มซึ่งดูจะสมบูรณ์เกินอายุไปหน่อยอุทานขึ้น “พวกนายเงียบ ๆ กันหน่อยได้มั้ยเราถูกหักคะแนนแล้วนะ”

ในที่สุดควันจากหม้อยาก็จางลงพร้อมความเอะอะโกลาหล “ฉันชอบกบชั่วโมงที่แล้วมากกว่า”
ชวนากรพูดถึงชั่วโมงยาอาถรรพ์คราวที่แล้ว ซึ่งปรุงยาดื่มแล้วเป็นกบ “มันไม่มีควัน แล้วเราก็ไม่ถูกหักคะแนน”

“นั่นเพราะอาจารย์ไม่รู้ว่านายเที่ยวเอาไปใส่โกโก้ให้พวกเราดื่มหรอกย่ะ” ดาราวลีเอ่ยขึ้น ใบหน้าน่าเอ็นดูเริ่มงอง้ำ ยังโกรธที่ถูกดึงผมเมื่อครู่

“แค่ห้านาทีไม่น่าคิดมากน่า..ยังไงฉันก็แก้แค้นให้แล้ว” ชนุดมยัดยากลายร่างเป็นกบเข้าปากชวนากรทั้งขวดในคราวก่อนด้วย จึงทำให้ชวนากรเป็นกบอยู่ครึ่งชั่วโมง

“เพราะงั้นเราถึงไม่โกรธเขาไง” บัลลังก์กล่าวยิ้ม ๆ แต่ว่าชวนากรอยากเปลี่ยนเรื่องมากกว่า

อาจารย์คาวัลโน่ตักน้ำในหม้อปรุงยาของนักเรียนทีละกลุ่ม น้ำสีม่วงใสเดือดปุด ๆ อยู่ในหม้อทุกใบ อาจารย์คาวัลโน่พยักหน้า

“หลังจากนี้…หากเราต้องการกลิ่นอะไรก็ใส่สิ่งนั้นเพียงเล็กน้อยกลิ่นจะฟุ้งกระจายไปทั่ว ขอให้นักเรียนทุกคนตักน้ำยานี้ใส่ขวดยาของตัวเองที่เหลือเราจะเอามาทดลองกัน”

“ไหนพวกนายว่าน้ำยาแปลงกลิ่นน่าเบื่อไง??” ฟ้าลั่นถามเสียงเอะอะเมื่อเห็นฝาแฝดควักขวดยาออกมาถึงห้าขวด

“มันอาจมีประโยชน์ทีหลังก็ได้” ชนุดมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนในกลุ่ม เหตุนี้เองน้ำยาแปลงกลิ่นของกลุ่มสามจึงเหลือน้อยกว่ากลุ่มอื่น

“ทีนี้..พวกเธอเห็นกุหลาบนี่มั้ย พวกเธอแค่เด็ดกลีบของมันเพียงกลีบเดียว ใส่ลงไปในหม้อแล้วพวกเธอจะได้เห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร”

ทุกกลุ่มทำตาม เมื่อกลีบกุหลาบสัมผัสกับน้ำยาสีม่วงที่เหลือให้หม้อเท่านั้น มันก็ระเบิดตูมน้ำยาในหม้อหายไปจนหมดเหลือแต่กลิ่นกุหลาบอบอวลไปทั่วห้อง

ชวนากรเหลือบมองชนุดม “ความจริงมันก็สนุกดีนะ นายว่ามั้ย?

%%%%%%%%%%%%


“เปิดเทอมมาเป็นเดือน แม่ยังไม่เห็นเธอสองคนทำการบ้านเลยสักวันจะให้เข้าใจว่ายังไงฮึ!!”

“พวกเราทำนะ..แต่แม่ไม่เห็นเอง” ชนุดมบอกเสียงแผ่ว มองด้านหลังของสาวผมแดงหยิกฟู รูปร่างอ้อนแอ่นซึ่งกำลังง่วนอยู่ในครับ และเธอก็เป็นมารดาของเขาด้วย ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักและดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่น ไม่ได้สามารถหยุดยั้งวาจาร้ายกาจแบบสาวผมแดงไปได้

“แล้วเช้านี้พวกเธอยังทำให้คนส่งหนังสือพิมพ์ตกใจโดยแปลงร่างเป็นกบกระโดดใส่หน้าเขาอีก”

“พวกเราแค่ทบทวนบทเรียนวิชาปรุงยาอาถรรพ์” ชวนากรพึมพำ

นางรดาผู้เป็นมารดาหันกลับยื่นนิ้วชี้ส่ายไปมาทางฝาแฝดทั้งสองผู้กำลังแสร้งตีหน้าซื่ออย่างไม่ต้องสงสัย “ถ้ายังมีคราวหน้าอีกแม่จะหักค่าขนมพวกเธอให้น้องชน”

ชนาธินาถเด็กหญิงผมแดงวัยสิบเอ็ดหน้าบาน หันไปพูดกับพี่ชาย “หนูคงต้องคิดแล้วล่ะว่าจะเอาค่าขนมพวกพี่ไปทำอะไรดี” เด็กหญิงได้เพียงเสียงคำรามตอบกลับมา

“องค์ชายรัชทายาท แห่ง นัวล์ หายตัวลึกลับ” เสียงนายชาตรี โกสินทร์ บิดาของเด็กชายหญิงทั้งสามดังขึ้นเรียกความสนใจของสมาชิกในบ้าน นายชาตรีมีผมสีดำสนิทเช่นเดียวกับลูกชายใบหน้าหล่อเหลาแม้ในวัยสามสิบแปด และแน่ล่ะหนังสือพิมพ์ที่เขาอ่านอยู่ไม่ใช่ฉบับเดียวกับที่เด็กส่งหนังสือพิมพ์มาส่งให้เมื่อเช้า แต่มาจากนกพิราบส่งหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นการสื่อสารของโลกปีศาจมานับพัน ๆ ปี

ปลอกคอของนกพิราบมีกล่องเล็ก ๆ ติดอยู่ ชวนากรเคยเห็นหนังสือเล่มยักษ์หกเล่มที่บิดาสั่งซื้อออกมาจากกล่องที่ใหญ่ไม่เกินกล่องไม้ขีดนี้ ค่าบริการเป็นไปตามน้ำหนักของสิ่งของที่ส่งไปกับนกพิราบ

“หายไป..หมายถึงถูกลักพาตัวหรือฮะพ่อ หรือว่าหนีออกจากวังฮะ” ชนุดมถามพลางตักกุ้งตัวโตจากชามข้าวต้มของชนาธินาถเข้าปาก โดยน้องสาวไม่รู้ตัว

“ไม่รู้สินะ ต้องขอดูข้างในก่อน”

“มาฮะพ่อ ผมอ่านเอง” ชวนากรยื่นมือออกไปขอหนังสือพิมพ์จากบิดา เจ้าชายหายตัวน่าสนใจจะตาย

“ประชาชนชาวนัวล์ตื่นตระหนก หลังจากสมเด็จพระราชาอาร์ค ชาร์ลแฟรงค์ ออฟ นัวล์ ทรงพระ
ประชวรจากคำสาปลึกลับเมื่อสามเดือนก่อน บัดนี้องค์รัชทายาทฟิลลิป เฟรย์ ออฟ นัวล์ ทรงหายไปอย่างลึกลับอีกพระองค์พร้อมองครักษ์นายหนึ่ง ราษฎรชาวนัวล์ขวัญเสียหนัก บัดนี้มีเพียงสมเด็จพระราชินีอาตาเชียเพียงพระองค์เดียวเป็นผู้สำเร็จราชการแทน” ชวนากรถอนหายใจ “ว้า..! ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่” แล้วก็ต้องรีบหุบปากเมื่อนางรดาทำตาเขียวใส่

“อาจเสด็จออกมาเองก็ได้” ชนุดมเสนอความคิด

“อยู่ในวังมีตรงไหนไม่สบาย” ชวนากรไม่เห็นด้วย “พ่อว่าไงฮะ?” พร้อมทั้งยื่นหนังสือพิมพ์คืนนายชาตรี

นายชาตรีบิดาของเด็ก ๆ เป็นนักเขียนสารคดีเกี่ยวกับสัตว์บนพื้นโลก เขาเขียนส่งให้ทั้งโลกปีศาจและโลกมนุษย์ หนังสือที่นายชาตรีเขียนมักได้รับการตีพิมพ์ใหม่เสมอ ๆ ทำให้ฐานะทางบ้านของครอบครับโกสินทร์ค่อนข้างดี แต่พวกเขาก็สมัครใจเลือกอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมากกว่า
“ไม่รู้สิ คงต้องรออ่านข่าวต่อไปก่อน แต่พ่อไม่อยู่พวกเธออย่ากวนแม่ให้มันมากนักนะ” ผู้เป็นบิดาเพ่งมองบุตรชายทั้งสอง

ฝาแฝดทำเป็นไม่สนใจเฉไฉไปเรื่องอื่น “คราวนี้พ่อไปไหนฮะ” ชนุดมถาม

“ป่าเวทย์ดำ”

“ป่าเวทย์ดำ!!” ชนุดมและชวนากรร้องอย่างเจ็บปวด “พ่อไปป่าเวทดำ แต่ไม่เอาเราไปด้วย” ชวนากรครวญคราง

“ถึงพ่อให้ไปแม่ก็ไม่ให้ไป” นางรดาทำเสียงขุ่นใส่บุตรชาย “ที่นั่นมีแต่สัตว์อันตรายทั้งนั้น แล้วลูกก็เด็กเกินไปด้วย”

“เราไม่เด็กนะฮะ ปิดเทอมคราวก่อนพ่อยังพาเราไปอินเดียเลย เนอะชิว!?”

ฝาแฝดอีกคนพยักหน้า

“เราจะไม่เถียงเรื่องนี้กันอีก เจ็ดโมงแล้วถึงเวลาที่ลูก ๆ ควรไปโรงเรียนเสียที ”คำสั่งของนางรดาถือเป็นประกาศิตสำหรับครอบครัวโกสินทร์ “และลูกสองคนไปส่งจดหมายนกพิราบถึงป้าระรินให้แม่ด้วย”

ฝาแฝดโกสินทร์โอดครวญพร้อมกัน

“แม่ควรใช้โทรศัพท์มากกว่า..”


%%%%%%%%%%%%%%%%




Create Date : 27 ตุลาคม 2548
Last Update : 29 ตุลาคม 2548 17:43:20 น. 9 comments
Counter : 632 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยม และเลยมาแอดบล้อกด้วยจ้าน้องฝุน
คิดถึงเน้อ


โดย: คีตภา วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:6:54:46 น.  

 
อิอิอิ คิดถึงเหมือนกันค่ะ ตอนนี้เพิ่งหัดทำบล็อก อายุเริ่มเยอะ เลยชักเรียนรู้ช้า
เด๋วเจอกันแล้วจะขอคำแนะนำจากพี่หน่อยค่ะ


โดย: วาโย IP: 203.156.42.123 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:57:47 น.  

 
สับสนว่าพี่มีนิยายเรื่องอะไรบ้างค่ะ แล้วตัวละครในเรื่องไหนไปเกี่ยวกับเรื่องไหนบ้างคะ อ่านไปอ่านมาชักจะจำตัวละครในเรื่องหนูกี้ กีรติ ไม่ค่อยได้เลยค่ะ พอเจอเรื่องอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่ามีตัวไหนเชื่อมโยงบ้างเปล่าคะ

พื้นหลังบล็อกถูกใจมากเลยค่ะ สีชมพู ชอบจริงๆ ค่ะ

รอตอนต่อไปเรื่องของหนูกี้ค่ะ

ก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมพี่ไม่ทำบล็อกสักที จะได้เข้ามาอ่านนิยายได้ง่ายๆ อิอิ


โดย: lovekalo วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:26:03 น.  

 
เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ตอนนี้ก็เป็น พระจันทร์เต็มใจ,ลำนำแห่งรัก (ส่วนเรื่องของพี่คนโตตามมาเร็วๆ นี้ค่ะ)

สมมุติว่าเป็นรัก ก็จะมีเรื่องสั้นก่อนหน้าสองเรื่อง คือ รักคงอยู่เช่นเดิม,รักสุด..สะดุดภู

เรื่องสั้นอีกสองเรื่องที่ตัวละครเกี่ยวๆ กันอยู่ ก็ เรื่อง สืบหัวใจด้วยไอรัก กับเรื่องครั้งนี้คือรักค่ะ ชุดนี้อาจออกอีกตอนยาวนิดนึงเป็นเรื่องของน้ำฝนค่ะ (เร็วๆ นี้)

(มามองดูชื่อนิยายเราทำไมมีแต่คำว่ารักเต็มไปหมดล่ะเนี่ย)

เรื่องสั้นๆ จะเอามารวมในบล็อกเร็วๆ นี่ค่ะ


โดย: wayo IP: 203.156.42.123 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2548 เวลา:5:51:32 น.  

 
เข้ามาดูว่ามีนิยายที่เคยเขียนอยู่ในนี้บ้างหรือเปล่า
เพิ่งได้อ่านนิยายของคุณค่ะ
สนุกดี..
ขอให้มีผลงานออกมาเป็นรูปเล่มเยอะๆ นะคะ
รออ่านคะ


โดย: eSJay IP: 202.133.102.84 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:49:49 น.  

 
ขอบคุณ eSJay มากค่ะที่ติดตามผลงาน
แล้วก็ขอให้สมพรปากทีเถอะเพี้ยง!! อยากมีผลงานเป็นเล่มแยะๆ เหมือนกันค่ะ


โดย: wayo (wayo ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:38:11 น.  

 
อึม...แนวแฟนตาซีนี่น่าจะเขียนยากนะคะ

เก่งจังเลยที่เขียนออกมาได้(ดีซะด้วย)

จาติดตามผลงานต่อไปละกันนะ


โดย: salami girl IP: 210.203.186.182 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2548 เวลา:7:40:12 น.  

 
เข้ามาดูเเล้วจะอึง


โดย: เกม IP: 124.120.49.123 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:40:07 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ ^ ^


โดย: ~PoOh_LoVeLy_NaRaK~ IP: 125.27.92.10 วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:18:45:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wayo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เอ่อ...ไม่เข้าใจว่า
ทำไมถึงคลิกกล่องคอมเม้นต์ไม่ได้
กดไม่ติดเลยอะค่ะ
ตอบคอมเม้นไม่ได้
เดี๋ยวขอหาทางแก้ก่อนนะคะ

ยังไงก็ขอบคุณทุกคน
ที่แวะมานะคะ
(Y)(^O^")(Y)
My books
Friends' blogs
[Add wayo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.