Review สุดยอดร้านอาหารสุด Cool สุด Chic ในกรุงเทพฯ..[1]
เหม่อมองท้องฟ้า แบบว่าจะหาอะไรกินดีน้อ..... มองไปมองมา เจอร้านอาหารในเว็บ มีแต่น่าตาน่ากินทั้งนั้นเลย แถมร้านก็สวยเอามั่ก ๆ ทั้งเก๋ ทั้งบรรยากาศน่านั่งเป็นอย่างยิ่ง หวังว่าน้ำลายคงไม่ไหลกันนะคะ เอาไปดูเล่น ๆ ก่อน 6 ร้าน เดี๋ยวรีวิวอันที่ 2 จะตามมาอีกค่ะ ส่วนใครชอบอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวและขนมหวาน ไปชมที่หัวข้อก่อนหน้านี้ได้เลยนะคะ
ที่ตั้ง : ชั้น 1 สยามพารากอน เลขที่ 991 ถ.พระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร : 0-2129-4409 เว็บไซต์ : //www.greyhound.co.th/cafe อีเมล์ : anotherhoundcafe@greyhound.co.th เปิดบริการ : ทุกวัน 11.00 - 22.00 น. ราคาต่อหัว(โดยประมาณ) : 400 บาท
ถ้าจะบอกว่ายังไม่เคยไปเดิน Siam Paragon ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก็กลัวใครจะหาว่าไม่อินเทรนด์ We Recommend เลยหาเวลาว่างช่วงบ่ายแก่ๆ ไปเดินอัพเดทเทรนด์แฟชั่นกับเค้าบ้าง แต่ก็ไม่ลืมหาร้านอร่อยๆ มาฝากกันอยู่แล้ว อ๊ะ !! เจอแล้วค่ะ ร้านเก๋สะดุดตา Another Hound by Greyhound Cafe' คุ้นๆ ชื่อกันอยู่ใช่ไหมคะ เพราะเราเคย Recommend ไปเมื่อไม่นานนี่เอง
มาครั้งนี้เค้ามีร้านอาหารน้องใหม่สไตล์ Trendy Cafe' ที่ยกระดับพรีเมี่ยมมาอยู่บนห้างหรู ตกแต่งเน้นโทนขาวดำ นำความเป็นตะวันออกแฝงกับตะวันตกได้อย่างกลมกลืน ทางเข้าร้านแบ่งเป็นสองฟาก ด้านขวาเป็นเคาท์เตอร์ครัวเปิดโล่ง อีกฝั่งหนึ่งมีบาร์อยู่ด้านหน้า ภายในกรุกระจกใสมองเห็น Botanical Garden และลิฟท์แก้ว มีส่วนยกพื้นเป็นสองระดับ ที่นั่งเป็นโซฟายาว ประดับด้วยโคมไฟห้อยระย้า ด้านในสุดสามารถกั้นเป็นห้องส่วนตัวด้วยผ้าพิมพ์ลายงานลายเส้นดูหรูหรา
Another Hound Cafe' ให้บริการอาหารสไตล์ Thai Italian Twist ลูกครึ่งไทย-อิตาเลี่ยน เป็นการนำเอาส่วนผสมไทยๆ มาใส่รสชาติแบบอิตาเลี่ยน ขณะเดียวกันก็นำส่วนผสมของอิตาเลี่ยนมาปรุงด้วยรสชาติแบบไทย จนได้เมนูแปลกใหม่และน่าลิ้มลอง เน้นรสชาติดั้งเดิมที่ไม่ใช่ Fusion Food ทั้งยังออกแบบและตกแต่งอาหารทุกจานได้ชวนทานมากๆ เลยล่ะค่ะ
เอาเป็นว่ามารู้จักกับเมนูแนะนำใหม่ล่าสุดจากทางร้านเลย เริ่มที่จานรองท้อง Ravioli with Rock Lobster and Thai Spices Filling (180 บาท) เกี๊ยวอิตาเลี่ยนสอดไส้กั้งสับผสมเครื่องเทศไทยทอดกรอบ จิ้มทานกับพร้อมซอส Aoli ต่อด้วยเมนูเบาๆ Garden Salad with Thai Style Grilled Chicken (200 บาท) สลัดผักรวม เสิร์ฟกับไก่ย่างแบบไทยๆ คลุกเคล้ากับน้ำสลัดรสเข้มข้น
ถ้าชอบเมนูไทยๆ แนะนำ Fried Shrimp with Thai Herbal Spices (180 บาท) กุ้งตัวโตคลุกเกลือทอดกรอบ เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ และแกงจืด หรือจะเปลี่ยนเป็น Pork Mince and Smoke Bacon Balls (180 บาท) หมูคลุกเบค่อนสับทอด เสิร์ฟกับผักผัดเนย ข้าวสวย และ แกงจืดเช่นกันค่ะ
หรือจะเป็น Fried Tender Duck Meat with Thai Nam-Prik (230 บาท) เนื้อเป็ดทอดนุ่มกำลังดี เสิร์ฟกับน้ำพริกมะขาม ผักย่างแบบอิตาเลี่ยนและข้าวสวย เมนูนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด อิ่มข้าวแล้วมาต่อด้วยจานเส้นอย่าง Phad Thai with Fresh Scallop (220 บาท) ผัดไทยกับหอยเชลล์ตัวอ้วน
เท่านี้เอ่ยมาเป็นเมนูอิ่มท้องซะเยอะเลย ขอเอาใจคนรักสุขภาพกับ Fried Salmon with Green Mango Spicy Sauce (260 บาท) ปลาแซลมอนทอดกรอบทั้งหนัง คลุกเคล้ากับซอสมะม่วงดิบสับ ใครจะคิดล่ะคะว่าเนื้อแซลมอนหอมนุ่มเนี่ยจะอร่อยเข้ากับน้ำซอสรสจัดจ้านได้เป็นอย่างดี สุดท้ายคือ Tofu Lasagna (150 บาท) ลาซานย่าสอดไส้ด้วยเต้าหู้ญี่ปุ่นเป็นชั้นๆ สลับกับเนยแข็งและครีมอส อบร้อนฉุย เสิร์ฟกับผักสลัด
ถึงตอนนี้คุณผู้อ่านได้เห็นบรรยากาศร้านเรียบหรูน่านั่ง กับอาหารน่าหม่ำไปแล้ว ถ้าอยากจะมาสัมผัสเอง ก็มาได้เลยร้านอยู่บนชั้น 1 ตรงข้าม Fashion Mall หรือสังเกตุง่ายๆ อยู่ตรงข้ามร้านเสื้อผ้าที่ชื่อ Another Hound by Greyhound เหมือนกันนั่นล่ะค่ะ... ครั้งถัดไปเราจะไป Recommend ที่ไหน อย่าลืมติดตามกันได้นะคะ
ที่ตั้ง : 3/3 ซ. สุขุมวิท 31 กทม. โทร : 0-2259-0405 เวลาเปิด : วันธรรมดา 17.00 น.- 24.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 18.00 น.- 24.00 น.
สองสามเดือนที่ผ่านมาคิดว่าคุณๆคงเต็มอิ่มกับอาหารถนอมสุขภาพกันถ้วนหน้าแล้วนะคะ ต้นเดือนนี้เราก็ถึงคิวตามล่าหาของอร่อย แบบไม่ต้องกลัวอ้วน กันบ้างดีกว่า แอบกระซิบดังๆว่าจริงๆแล้วแบบนี้แหละที่เราชอบนัก... ไหนๆจะทานแล้วก็เอาให้เต็มที่ ชนิดเนื้อเยอะๆ ชีสเยิ้มๆไปเลยเป็นไง?! แหม...นึกภาพตามแล้วแอบเช็ดน้ำลายกันใหญ่เลยล่ะสิ "Pizzeria Bella Napoli" ร้านนี้แหละที่มีอาหารอย่างที่เรากล่าวกถึง อย่าชักช้าไปลุยกันเลย
บรรยากาศภายในร้าน บรรยากาศโดยรวมและการกแต่งทำให้นึกถึงทะเล สิ่งที่สังเหตุเห็นอย่างแรกคือเตาฟืนขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณเคาท์เตอร์ ด้านหน้าเป็นโต๊ะขนาดกลางสำหรับแขกผู้ใหญ่หรือวัยทำงาน ชั้นบนเหมาะสำหรับคุณที่มาเป็นคู่ และห้องด้านในอยู่ไกลจากเต้าร้อนๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกเด็กเล็กแดงมาด้วย
เมนูจานเด็ด ที่สุดไม่มีใครเกินคือ พิซซ่าตำรับรสชาติดั้งเดิมของอิตาเลียน มีหน้าต่างๆให้เลือกมากมาย เราช่างใจอยู่นานในที่สุดทางร้านก็แนะนำ Bismark Pizza ที่เราได้รับคำบอกเล่าว่าเป็นหน้าที่เหมาะกับคนที่ชอบทานอะไรคุ้มๆ เพราะเครื่องเยอะสะใจ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศ เบค่อนรมควัน ไข่ ผักขม Mozzarella cheese ฯลฯ
หรือใครจะเลือกเป็น Sfiziosa ที่ทานได้คุ้มไม่แพ้กันเพราะมีทั้ง มะเขือเทศ , Mozzarella cheese , Provola Cheese , Blue Cheese , Ricotta Cheese , แฮม และเห็ด
พอใจอยากจะเสกสรรเลือกหน้าเองตามใจชอบก็ไม่มีใครว่า เครื่องปรุงมีให้เลือกมากมาย นอกจากที่ว่ามายังมี Zucchini , Gorgonzola Cheese , Anchovy , Caper , อาหารทะเล , วิปปิ้งครีม ฯลฯ
นอกจากพิซซ่าแล้วสปาเก็ตตี้ก็เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด เราลอง Misto Mare สปาเก็ตตี้หน้าทะเลหน้าตาอลังการ อันประกอบด้วยอาหารทะเละต่างๆเช่น กุ้ง หอย ปลาหมึก เป็นต้น สปาเก็ตตี้ของที่นี่มีหน้าตาโดดเด่น เพราะเสิร์ฟมาในหม้อดินเผา แทนที่จะปิดด้วยฝาหม้อ กลับเป็นแผ่นแป้งที่เอาเข้าอบพร้อมๆกับอาหาร เวลาทานที่ร้านจะเปิดฝาแป้งออก เผยหน้าตาและกลิ่นที่เย้ายวนมายั่วกระเพาะเล่น
ใครกลัวไม่อิ่ม (!?) ที่ Bella Napoli เค้าก็พร้อมบริการคุณด้วยบุฟเฟต์สไตล์ค็อกเทล ที่มีอาหารสลับสับเปลี่ยนออกมาไม่ซ้ำหน้า เช่น มะเขือยาวอบกับ Mozzarella Cheese , แฮมห่อด้วยหน่อไม้ฝรั่ง , Ricotto หรือสลัดข้าวขนาดพอคำ จัดมาในฝาหอยพร้อมเลม่อนฝานบางๆ , กุ้งราดด้วยน้ำสลัด Thousand Island และมันฝรั่งอบ เป็นต้น ใครบอกว่าอ่านแล้วไม่นึกหิวก็ยากจะเชื่อ เราเองนั่งเขียนไปยังมื้อไม้อ่อน สงสัยร่างกายอ่อนแอเป็นโรคแพ้อาหารที่ร้าน Pizzeria Bella Napoli ขึ้นมาอีกร้านแล้วสิ!
(Updated: 01/11/03)
ที่ตั้ง : เลขที่ 63 ซอยสุขุมวิท 53 ถ.สุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร : 0-2259-7898-9 แฟกซ์ : 0-2259-7897 เว็บไซต์ : //www.coquette53.com เวลาเปิด : อาทิตย์-พฤหัสฯ 11.00-22.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 11.00-23.00 น. ราคาอาหารต่อหัว (โดยประมาณ) : 200 บาท
และแล้วก็ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักในวัน "วาเลนไทน์" ใครอยากจะบอกหรือแสดงความรักกับใคร ก็ถือโอกาสดีนี้ได้เลยนะคะ เชื่อว่าหลายท่านก็คงกำลังมองหาสถานที่พิเศษสำหรับวันดีๆ ที่จะถึงนี้กันอยู่ We Recommend เลยสรรหาร้านเก๋ๆ น่ารักๆ มาแนะนำ เผื่อเป็นไอเดียให้คุณได้จูงมือคนรู้ใจไปทานอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติค...คงน่าประทับใจไม่น้อยเลยค่ะ
Coquette หรือ คอเคทท ร้านที่เราภูมิใจนำเสนอแห่งนี้ เป็นบ้าน 2 ชั้นมีสนามหญ้าด้านหน้า ภายในดัดแปลงเป็นร้านขายของแต่งบ้าน บรรยากาศหวานแหววสไตล์ อิงลิชคันทรีผสมวินเทจ ก่อนที่เราจะเข้าไปหามุมดีๆ นั่งพัก ก็เพลินตาไปกับเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน ทั้งโต๊ะเก้าอี้ เตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ผ้าปูลายสวยๆ ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ และเสื้อผ้าเครื่องประดับสไตล์วินเทจ
ไม่เพียงแต่จะมีสินค้าที่น่าจับจองเป็นเจ้าของ ที่นี่ยังมีส่วนของคาเฟ่เล็กๆ บริการอาหารแสนอร่อยในแบบฟิวชั่นฟู้ดให้ได้เลือกทานด้วยค่ะ ก่อนอื่นขอชื่นใจกับ Virgin Strawberry (85 บาท) น้ำสตรอเบอร์รี่สดปั่น ในแก้วมาร์ตินี่โรยเกลือที่ขอบแก้ว ทำให้รับรสชาติเปรี้ยวจี๊ดหอมหวานได้มากยิ่งขึ้น จากนั้นเราเรียกน้ำย่อยด้วย แซลมอนห่อร็อกเก็ตราดด้วยซอสรสจัด (Rocket Salmon with Jaew Sauce 95 บาท) เนื้อแซลมอนสด พร้อมซอสแจ่วรสจัดจ้านเปรี้ยวหวานเผ็ดกำลังดี
หรือจะเป็นจานเบาๆ สลัดปลาหมึกทอดอิตาเลี่ยนซอส (Fried Squid Salad 110 บาท) ปลาหมึกชิ้นโตชุปแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมกับผักสดหลากชนิด ราดด้วยซอสสูตรพิเศษที่ให้คุณอร่อยแบบวางช้อนไม่ลง ต่อด้วย หมูสไลด์แตงกวาญี่ปุ่น (Slide Pork with Japanese Cucumber 155 บาท) เนื้อหมูนุ่มๆ ราดด้วยซอสรสกลมกล่ม กรุบกรอบกับชิ้นแตงกวาญี่ปุ่น ตบท้ายด้วยของหวานเข้ากับบรรยากาศ Strawberry Roll (90 บาท) เนื้อแป้งนุ่มลิ้นสอดไส้ครีมและสตรอเบอร์รี่ ราดด้วยรสเปรี้ยวหวาน อร่อยเพลินจนหมดชิ้นในพริบตาเดียวเลยล่ะค่ะ
ถ้าคุณเอยากมาที่นี่ก็ไม่ยาก ร้านตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 53 จากปากซอยเข้ามาประมาณ 400 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ สังเกตง่ายๆ มีสนามหญ้าและโต๊ะเก้าอี้น่ารักๆ อยู่หน้าบ้าน แถมยังมีป้ายชื่อบอกด้วย มีบริการจอดรถ (Valet Parking) ทุกวันตั้งแต่ เวลา6โมงเย็นเป็นต้นไป... ท้ายทิ้งทางร้านก็ฝากบอกว่า จะเป็นช่วงวาเลนไทน์หรือโอกาสพิเศษอื่นๆ คุณก็สามารถพาคนรู้ใจมาสัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติคสไตล์ Coquette กันได้ตลอดเลยนะคะ
(Updated: 01/02/06)
ที่ตั้ง : 45/4-8 ถ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร : 0-2254-5699 เปิดบริการ : ทุกวัน 11.00 - 22.00 น. ราคาต่อท่าน(โดยประมาณ) : 300 บาท
We Recommend จะชวนไปดินเนอร์ที่ยุโรป เอ้ย!! ไม่ใช่ค่ะ เป็นร้านที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปต่างหาก เรากำลังเอ่ยถึงร้านล่าสุดที่เพิ่งไปมาก็คือ Mokka Since 1964 ชื่ออาจจะยาวไปหน่อย แต่จำไม่ยากค่ะ ร้านตั้งอยู่ในซอยหลังสวน จำได้ว่าไม่ได้มาเยือนแถวนี้นานเหมือนกันเลยนะเนี่ย
Mokka ร้านอาหารที่มีลุคสุดคลาสสิค สไตล์ Neo Industrial กับบรรยากาศสบายๆ ตกแต่งแบบยุโรปร่วมสมัยในยุค '60 '70 '80 ผสมผสานความเป็น Antique และ Modern เข้าไว้ด้วยกันอย่างน่ามอง รวมทั้งเป็นที่โชว์ของสะสมโบราณของเจ้าของร้านทั้งเครื่องเรือน โซฟา โต๊ะเก้าอี้ และอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ
นอกจากจะบรรยากาศร้านที่ชวนให้เราหย่อนกายลงนั่งเอกเขนกแล้ว จุดเด่นของร้านนี้ก็คือ เมนูอาหารแปลกใหม่ ทั้งไทยและยุโรป มาให้คุณๆ ได้เลือกทานกัน สำหรับเมนูแนะนำวันนี้ อันดับแรกเป็น ชีสทอด (120 บาท) อร่อยเพลินกับแผ่นปอเปี๊ยะห่อชีสทอดเยิ้มๆ ต่อด้วยเมนูไทยปนฝรั่งอย่าง พล่าแซลมอน (190 บาท) ชิ้นปลาสไลด์เป็นเส้น ราดด้วยน้ำยำมะม่วงรสแซบ
อีกจานที่อยากให้คุณลอง ปลากะพงราดซอสมะขาม (220 บาท) เมนูสุขภาพกับรสชาติเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นขิงอ่อนเจียวที่โรยมาด้วย หรือถ้าเป็นเมนูจานเดียวก็มี ข้าวผัดปลาสลิด (120 บาท) รสกลมกล่อมเผ็ดนิดๆ แถมยังมีชิ้นปลาสลิดทอดกรอบมาให้เคี้ยวกันมันๆ
ตบท้ายดินเนอร์แบบคลาสสิคมื้อนี้ด้วยของหวาน Banana Split (110 บาท) ชั้นล่างเป็นชิ้นกล้วยหอมห่อแผ่นแป้งเครป ทานกับไอศกรีมรสวานิลลา ช็อกโกแลต และสตรอเบอรี่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มดีกรีเบาๆ Vodka Punch (150 บาท) สำหรับคุณผู้หญิงด้วยค่ะ
แค่เขียนแนะนำพร้อมรูปประกอบนิดหน่อย อาจจะยังไม่เห็นภาพ ไว้มีโอกาส ลองแวะเข้าไปที่ Mokka กันได้นะคะ ที่นี่พร้อมเปิดบริการสำหรับคนรักกินทุกท่านค่ะ
(Updated: 15/03/07)
ที่ตั้ง : 22 สุขุมวิทซอย 33 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร : 0-2662-3471 อีเมลล์: buongiornocafe@yahoo.com เวลาเปิด : อังคาร - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 23.00 น. (ปิดวันจันทร์) ราคาเฉลี่ยต่อหัว : 300 - 500 บาท
่ BUONGIORNO!!! ชาว BKKMENU.com ทุกคนค่ะ ทักทายกันแบบชาวอิตาเลียน เพื่อให้เข้ากับร้านที่เราจะไปกันวันนี้ค่ะ บรรยากาศน่านั่งมากๆ เลยต้องรีบจดไว้ในลิสต์ ว่าต้องพามา We recommend แน่นอน
"Cafe' Buongiorno" ร้านอาหารอิตาเลียนที่ดัดแปลงบ้านเก่ามาตกแต่งใหม่ ่ด้วยโทนสีเหลืองสดใสสไตล์อิตาเลียน เดินผ่านด้านนอก เป็นโซนนั่งแบบเอ้าท์ดอร์ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ แถมมีมุมนั่งทาน ที่ยื่นออกไปในคลองเล็กๆ ให้อารมณ์สบายๆ มากเลยค่ะ ส่วนที่นั่งด้านใน ก็จะดูทางการขึ้นแต่ก็สบายน่านั่งเช่นกันค่ะ
เมนูเด็ด... อาหารของ "Cafe' Buongiorno" เป็นอาหารอิตาเลียนแท้สูตรดั้งเดิม ลองมาดูเมนูที่ถือว่าเป็นจานเด็ดของทานร้านกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ขอบอกว่ามีเยอะ ชวนเพื่อนมาทานกันหลายคนก็ดีค่ะ จะได้ผลัดกันชิมหลายๆ เมนู เอาล่ะค่ะ...มาเริ่มด้วยของเบาๆ อย่าง "Ham & Pesto with Salad on Rosemary Focaccia" เหมือนแซนวิชค่ะ แต่เป็นขนมปังหัวหอมใส่โรสแมรี่ สอดไส้แฮมและเพสโต้ซอสค่ะ แล้วก็ให้เพื่อนอีกคนลองสั่ง "Crostini "Trio"" มาทานดูค่ะ เป็นขนมปังปิ้ง หน้าต่างๆ 3 ท๊อปปิ้งค่ะ มีทั้ง ไข่, ทูน่า และมะเขือเทศ แต่ถ้าเวลาสั่งทานจะมาท๊อปปิ้งละชิ้นค่ะ
ต่อมา...ทานอาหารอิตาเลียนทั้งที ขาดจานนี้ไปแย่เลย "Tris di Pasta" พาสต้า 3 แบบ 3 รสชาติในจานเดียวมีทั้ง Penne Arrabiata, Spaghetti Carbonara และ Fucilli with Tuna and Olives และอีกหนึ่งเมนูจานเด็ดค่ะ "Grilled Lamb Cutlet with Rosemary & Asparagus" ซี่โครงแกะย่างเสิร์ฟพร้อมมันอบและแอสปารากัส หอมอร่อยกับเนื้อนุ่มๆ
ส่วนของหวาน ที่ไม่ควรพลาด นี่เลยค่ะ "Red Wine Granita" และ "Lemon Granita" เย็นชื่นใจจังเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็น เมนูของหวานแบบเย็นของ ชาวอิตาเลียนกันเลยทีเดียว
ของขึ้นชื่อของที่นี่เลยค่ะ ขอแนะนำให้ลองคือ "Biscotti" ที่มี ถึง 14 แบบสูตรเฉพาะของ "Cafe' Buongiorno" ส่วนใหญ่จะกินกับเครื่องดื่มร้อน อย่างกาแฟ หรือชาค่ะ วิธีทาน ก็นำเจ้า "Biscotti" มาจุ่มในเครื่องดื่มถ้วยโปรด ของเรา เพื่อให้นุ่มขึ้นและมีรสชาติขึ้น แต่ถ้าชอบแบบเย็นๆ เลือกแก้วนี้ค่ะ "Biscottcino" คาปูชิโนปั่นกับ Biscotti อร่อยแบบกรุบๆ
อยากทานกันใช่มั้ยล่ะ... ถ้าอยากก็ไปได้เลย ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 นี่เอง
(Updated: 15/10/04)
ที่ตั้ง : 18 ถ. สีลม สุริวงศ์ บางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร : 0-2233-8118 แฟ็กซ์ : 0-2233-8119 เว็บไซต์ : //www.bugandbee.com เวลาเปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00 - 04.00 น.
อากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ เรามีร้านเครปมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ เผื่อช่วงวันหยุดสงกรานต์จะได้ไปหาของอร่อยคลายร้อน แถมไม่ต้องไปเบียดเสียดผู้คนอีกด้วยค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า Bug & Bee อยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงนี้เองค่ะ ลงบันไดปุ๊ปก็เจอปั๊ป หาไม่ยากแน่นอนค่ะ
เพียงเดินเข้ามาที่ Bug & Bee ก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายเลยค่ะ ด้วยการตกแต่งที่มีสไตล์ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ชั้น แล้วแต่ละชั้นมีการตกแต่งและบรรยากาศไม่ซ้ำกันเลยค่ะ ให้อารมณ์สนุก ว่าจะเลือกทานชั้นไหนดีได้ตามใจชอบ
อาหารหลักตัวชูโรงของร้าน Bug & Bee ก็คือ เครปส์ (Crepes) ค่ะ แล้วเครปของที่นี่ก็ไม่เหมือนที่ไหนๆ เครปของที่นี่แบ่งออกเป็น เครปของคาว และ เครปของหวาน เราเลยขอเครปของคาวมาประเดิมเป็นมื้อแรกของวันสัก 2 จานกำลังดี ไม่นานนัก Curry Crab ก็มาเสิร์ฟพอดี เป็น ปูผัดผงกระหรี่ห่อด้วยแป้งเครป น่าทานมากๆ ชิมแล้ว รสชาติเข้มข้นด้วยเนื้อปูและผงกระหรี่ และที่สำคัญทานกับแป้งเครปที่ห่อไว้ เข้ากันได้อย่างดีเลยค่ะ ตามมาด้วย Massaman Pork หรือ เครปมัสมั่น รูปร่างหน้าตาคล้ายพิซซ่าแถมยังตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยม แกล้มด้วยอาจาดรสเปรี้ยว แก้เลี่ยนได้ดีค่ะ แถมรสชาติไม่แพ้จานแรก สองจานนี้เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นเครื่องเทศและความเผ็ดร้อนนิดๆ ค่ะ เห็นมั้ยคะ แต่ละจานเป็นการนำแป้งเครปแบบฝรั่งมาผสมผสานกับ อาหารไทยของเราๆ ได้อย่างกลมกลืนตามที่บอกจริงๆ ค่ะ
ผ่านของคาวไปแล้ว อิ่มทีเดียวค่ะ แต่เราจะชิมเพียงเท่านี้เหรอค่ะ ไม่มีทางค่ะ ขอเครปของหวานต่อเลยดีกว่า หน้าตาของจานนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว Deep Fried Ice Cream ไอศกรีมช็อกโกแลตห่อด้วยแป้งเครปที่ผสมเม็ดอัลมอนด์ให้ เคี้ยวกรุบๆ ราดด้วยครีมช็อกนุ่มลิ้น
อีกเมนูที่เด่นไม่รองใคร น้ำผลไม้ปั่นหลากชนิด(Juice/Jelly) ที่มีเจลลี่มาให้เคี้ยวหนึบหนับเพลินๆ เกือบทุกแก้ว ร้อนๆอย่างนี้ไม่น่าพลาด 2 แก้วนี้ค่ะ Mango Marvel น้ำมะม่วงปั่นสีเหลืองสวยที่แอบใส่ เม็ดสาคูมาด้วย แถมยังโปะด้วยวิปครีมและโรยด้วยมะม่วงสุกชิ้นเล็ก มาอีก ส่วนอีกแก้ว Ruby Rose สีออกแดงๆส้มๆ สดใสดี รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ เวลาดูดทีไร เจลลี่รสส้มก็ติดลิ้นเข้ามาด้วยทุกทีค่ะ ใครชอบลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ไม่น่าพลาดค่ะ ใช้เวลาช่วงวันหยุดนี้ให้เป็น ประโยชน์นะคะ โดยการหาอะไรอร่อยๆทานในกรุงเทพฯ แบบคนน้อยๆ ดูบ้างอาจจะอร่อยขึ้นกว่าเดิมค่ะ
Create Date : 27 มิถุนายน 2550 |
|
29 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2550 17:57:57 น. |
Counter : 4121 Pageviews. |
|
|
|