มะลิ : ขยายพันธุ์ - ดูแล
รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com
"มะลิ" เป็นพรรณไม้ยืนต้น พบได้ในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง บางชนิดมีลำต้นแบบเถาเลื้อย ผิวเปลือกลำต้นสีขาวมีสะเก็ดรอยแตกเล็กน้อย ลำต้นเล็กกลมแตกกิ่งก้านสาขาไปรอบๆ ลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงกันเป็นคู่ๆ ตามก้านและกิ่ง ลักษณะของใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อตามส่วนยอดหรือง่ามใบ ดอกมีขนาดเล็กสีขาว กลิ่นหอม กลีบดอกเรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ผลเป็นรูปกลมรีเล็กเมื่อสุกจะมีสีดำ ภายในมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด
ได้ความรู้จากกรมส่งเสริมการเกษตร ถึงการขยายพันธุ์มะลิ ว่ามีหลายวิธี ทั้งการปักชำ การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง การแยกกอ โดยวิธีที่นิยมและได้ผลดีคือการปักชำ ซึ่งมี 4 ขั้นตอน 1. เตรียมวัสดุเพาะชำ คือทรายผสมขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 บรรจุในภาชนะ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม 2. เตรียมกิ่งพันธุ์ กิ่งที่ใช้เป็นกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ตัดให้มีความยาวของกิ่ง 4 นิ้ว หรือมีข้ออย่างน้อย 3 ข้อ การตัดกิ่งควรตัดให้ชิดข้อ ลิดใบส่วนล่างออก 3. นำกิ่งมะลิปักชำลงในแปลงชำให้มีระยะระหว่างแถวและกิ่ง 2x2 นิ้ว รดน้ำและสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา รักษาความชื้นให้เหมาะสมและคงที่ และ 4.หลังจากกิ่งปักชำออกรากแล้วให้ย้ายลงปลูกในถุงขนาด 2x3 นิ้ว โดยใส่ดิน+ขุยมะพร้าว+ปุ๋ยคอก อัตรา 3:1:1 จนต้นมะลิแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก
ทั้งนี้ มะลิต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย มีความชุ่มชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การดูแลรักษามะลิ 1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 8x14 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ดินร่วน อัตรา 1:1:1 ผสมดินปลูก ควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้งเพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป 2. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน โบราณนิยมปลูกบริเวณทางเข้าหน้าบ้านเพื่อเป็นเสน่ห์แก่บ้าน ขนาดหลุมปลูก 30x30x30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ดินร่วน อัตรา 1:1 ผสมดินปลูก
คำเตือนคือระวังมะลิเป็นโรค โรคที่มะลิเป็นมากคือโรครากเน่า (Sclerotium root rot) แมลงหนอนเจาะดอก อาการ ใบเหลือง เหี่ยว ต้นแห้งตาย โคนต้นมีเส้นใยสีขาว และดอกเป็นแผล เป็นรู ทำให้ดอกเสียรูปทรงและร่วง ดอกเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ การป้องกัน ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของหนอน ตัวแก่ ส่วนการกำจัดใช้ยาเมโธมิล หรือเมธามิโดฟอส อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก หรือใช้เทคนิคเพิ่มเติมด้วยการใช้สมุนไพรควบคุมศัตรูพืช เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในดอกมะลิ
โดยใช้สารสะเดาควบคุมหนอนเจาะดอกมะลิ เพลี้ยไฟและตั๊กแตน มีวิธีการใช้สารดังนี้ ใช้สารสะเดาบดอบแห้ง จำนวน 5 กิโลกรัม ผสมกับแอลกอฮอล์ 3 ลิตร หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง เพื่อให้แอลกอฮอล์สกัดสารอาซาดิแรคตินออกมาจากสะเดาให้มากที่สุด จากนั้นเติมน้ำ 5 ลิตรลงไปแล้วใส่ภาชนะมีฝาปิด หมักทิ้งไว้ 2 วัน คนทุกวัน เมื่อครบกำหนดแล้วคั้นเอาน้ำเก็บไว้ในแกลลอน แล้วเอากากสะเดามาผสมแบบเดิมอีกครั้ง ทำเช่นเดิมแล้วคั้นเอาน้ำมารวมกับน้ำครั้งแรก ใช้น้ำนั้นไว้ฉีดพ่นในอัตราน้ำสารสะเดาหมัก 100 ซีซี ผสมกับน้ำสะอาด 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน จะควบคุมศัตรูพืชดังกล่าวได้อย่างดี
หน้า 24
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ รู้ไปโม้ด nachart สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ
Create Date : 03 พฤษภาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2556 12:29:37 น. |
Counter : 1976 Pageviews. |
|
|
|