หน้าวัวตัดดอก
ไม้ดอกไม้ประดับ อภิวัฒน์ คำสิงห์


หน้าวัว เป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมนำมาจัดแต่งตามงานสัมมนา จัดตกแต่งตามโรงแรม งานเปิดตัวสินค้า หรืองานอื่นๆ อีกมากมาย เพราะเนื่องจากเป็นไม้ดอกที่มีความคงทน สีสันสด เมื่อนำมาจัดรวมกับไม้ดอกหรือไม้ใบอื่นๆ แล้ว ทำให้ภาพรวมดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน มีเกษตรกรหันมาปลูกหน้าวัวตัดดอกจำหน่ายเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม แทนการปลูกไม้ดอกไม้ประดับอื่นๆ ที่ต้องใช้ทั้งต้นทุนและการดูแลที่สูงและยุ่งยากกว่า ดังเช่น คุณสังเวียน นาคฤทธิ์ เกษตรกรมือใหม่ที่หลังเกษียณอายุราชการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็หันมาสนใจกับอาชีพปลูกไม้ดอกไม้ประดับเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
เกษตรกรรม อาชีพทางเลือกที่เลือกทำ
คุณสังเวียน เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่ยังรับราชการอยู่จะมีกิจกรรมรองที่ทำหลังจากเลิกงานมา คือการปลูกกล้วยไม้สกุลช้างเป็นงานอดิเรก โดยจะใช้เวลาว่างจากงานประจำที่ทำมาเก็บสะสมกล้วยไม้สกุลช้างอย่างต่อเนื่องจนมีปริมาณมาก จึงได้ทำเป็นเชิงการค้า เพาะขยาย ขายให้กับแม่ค้าพ่อค้าที่เข้ามารับซื้ออย่างต่อเนื่อง
เป็นพนักงานกินเงินเดือนประจำ เงินเดือนสูงก็จริง แต่การทำงานต้องเจอกับแรงกดดันจากเพื่อนร่วมงาน จากภารกิจหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่สำหรับการปลูกหน้าวัว เราทำด้วยความสบายใจ เป็นเจ้าของธุรกิจตัวเอง มีเวลาว่างอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ถึงเงินจะไม่มากแต่ก็ได้ทุกสัปดาห์ ซึ่งเพียงพอกับการดำรงชีวิตอยู่
พื้นที่ 9 ไร่ คุณสังเวียน แบ่งสร้างบ้านเรือน ขุดบ่อน้ำ ศาลาพักผ่อน อีกส่วนหนึ่งใช้ปลูกสร้างโรงเรือนกล้วยไม้ ทำมาระยะหนึ่งก็เริ่มนำหน้าวัวเข้ามาปลูกควบคู่กัน ทำรายได้ทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง ตลาดก็คงที่ ผลผลิตที่ได้ก็เร็วกว่าการปลูกกล้วยไม้
ต่อจากนั้นมาคุณสังเวียนก็เริ่มทยอยจำหน่ายกล้วยไม้ออกไป และปรับสภาพและพื้นที่โรงเรือนให้เป็นโรงเรือนปลูกหน้าวัวตัดดอกแทน เพราะมองว่าตลาดนั้นดีกว่า ถึงจะลงทุนสูงแต่เมื่อเทียบกับผลกำไรแล้วถือว่าคุ้มค่ากว่าไม้อื่นๆ ที่สำคัญดูแลง่าย อีกทั้งขั้นตอนการดูแลไม่ยุ่งยาก วัสดุปลูกก็ใช้กาบมะพร้าวเพียงอย่างเดียว
ปลูกกล้วยไม้จำหน่ายมาสักระยะ ผมก็มองหาไม้ดอกตัวอื่นที่สามารถเก็บผลผลิตได้ในทุกๆ เดือน มาปลูกผสมกับกล้วยไม้ เพราะเนื่องจากกล้วยไม้สกุลช้าง 1 ปี จะให้ดอกเพียงครั้งเดียว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลารอนานพอสมควรกว่าจะขายออกไปได้แต่ละครั้ง
ในช่วงนั้นหน้าวัวเป็นไม้ดอกที่ผมทดลองนำมาปลูกควบคู่กับกล้วยไม้ สามารถให้ผลตอบแทนทุกสัปดาห์ มีผลผลิตออกจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมาผมก็เริ่มนำหน้าวัวสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาปลูกเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง ลองผิดลองถูกจนเกิดความชำนาญ จนหันมาปลูกเป็นพืชหลักแทนกล้วยไม้
สร้างอาชีพใหม่ จากพื้นฐานความรู้ที่มี
โรงเรือนปลูก คุณสังเวียน ได้ปรับพื้นที่โรงกล้วยไม้เดิมปรับสร้างแปลงปลูกที่ยกสูงจากระดับพื้นดินประมาณ 80 เซนติเมตร เพื่อป้องกันศัตรูที่จะเข้ามาทำลายทางดิน ส่วนความกว้างของแปลง ประมาณ 3.5 เมตร และความยาวขึ้นอยู่กับพื้นที่
แปลงปลูกผมจะใช้ซาแรนสีดำปูเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำเป็นกระบะปลูก เพื่อจะช่วยในการระบายน้ำและอากาศได้ดี ส่วนวัสดุปลูกจะใช้กาบมะพร้าวแข็งคลุมบริเวณรอบต้น
ส่วนต้นพันธุ์ แรกผมจะซื้อเข้ามาปลูก ซึ่งราคาค่อนข้างสูง อย่างเช่น โรซ่า แองเจิล ราคาหน่อก็ประมาณ 50 บาท ส่วนบัญชาออร์เร้นส์ ราคาหน่อประมาณ 80 บาท ซึ่งหลังจากที่ปลูกไปประมาณ 3 เดือน ต้นก็จะเริ่มให้ดอกและหน่อใหม่ออกมา ซึ่งเราสามารถแยกไปปลูกขยายต่อได้อีก
การแยกหน่อไปปลูกลงแปลงใหม่ คุณสังเวียนบอกว่า จะนำหน่อที่แยกมาจากต้นแม่ ไปปลูกลงในกระถางพลาสติกก่อนประมาณ 1 เดือน พอต้นเริ่มแทงรากออกมาก็จะนำมาปลูกลงแปลง โดยระยะห่างระหว่างแถวและต้นประมาณ 40 เซนติเมตร โดยแปลงปลูก 1 แปลง จะปลูกได้ 3 แถว
หน้าวัว เป็นดอกไม้ที่ไม่ชอบแสงมากเหมือนไม้ดอกอื่นๆ คุณสังเวียน จึงทำหลังคาป้องกันแสง โดยใช้ซาแรนสีดำที่มีประสิทธิภาพป้องกันแสงได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ทำเป็นหลังคาโรงเรือน
สำหรับการดูแลและการให้น้ำ คุณสังเวียนบอกว่า ไม่ยุ่งยาก ให้ดูวัสดุปลูกในแปลงหากมีความชื้นก็ไม่ต้องให้ แต่หากจะต้องให้จริงๆ คุณสังเวียนแนะนำว่า ควรให้วันเว้นวัน เพราะหากให้มากเกินไปจะทำให้รากเน่าได้
ส่วนการบำรุงและป้องกันโรคและศัตรู คุณสังเวียนจะฉีดคาร์เบนดาซิม หรือแมนโคเซบ ป้องกันเชื้อรา ใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท 3 เดือนครั้ง และให้วิตามินบี 1 เพื่อบำรุงราก
ตัดดอกจำหน่าย มีรายได้ทุกวัน
หลังจากที่ปลูกไปประมาณ 3 เดือน หน้าวัวจะเริ่มออกดอกให้ตัดจำหน่าย โดยการตัดดอกแต่ละครั้งจะต้องสังเกตดอกที่สมบูรณ์คือ ให้ดูเกสรหากมีสีเหลืองเกินครึ่งหนึ่งของช่อเกสรดอกนั้นก็สมบูรณ์เต็มที่พร้อมตัดไปจำหน่ายได้
พื้นที่ 3 ไร่ ของคุณสังเวียนที่ปลูกหน้าวัวไว้ประมาณ 20,000 ต้น สามารถเก็บดอกจำหน่ายได้สัปดาห์ละ 2,000 ดอก ซึ่งขนาดไซซ์ตั้งแต่ SS, S, M, L, XL, XXL ราคาจำหน่ายมีตั้งแต่ 3-23 บาท ต่อ 1 ดอก
สำหรับดอกหน้าวัวที่จะส่งไปยังร้านหรือตลาดนั้น จะทำความสะอาดดอกด้วยการนำมาล้างน้ำเปล่า ห่อด้วยถุงพลาสติก (ถุงแกง) เย็บแม็กซ์ และจัดเรียงช่อดอกพร้อมส่ง
ตลาดรับซื้อหลักๆ คุณสังเวียนบอกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านรับจัดดอกไม้ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ร้าน ที่รับซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยทุกสัปดาห์ลูกชายจะเป็นคนเข้าไปส่ง ซึ่งจุดเด่นที่พ่อค้าแม่ค้ายังเป็นลูกค้ามาอย่างยาวนานอยู่ที่ก้านดอกที่แข็ง ดอกใหญ่ สีสด และการใช้งานมีอายุนานถึง 21 วัน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสังเวียน นาคฤทธิ์ บ้านเลขที่ 153 ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โทรศัพท์ (081) 779-6754, (034) 651-153
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ ไม้ดอกไม้ประดับ คุณอภิวัฒน์ คำสิงห์
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 02 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2556 9:01:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4409 Pageviews. |
 |
|
|
|
|