อย่างไรก็ตามยุคที่เกิดดนตรีแบบ Disco Sound จริงๆคือกลางยุค 70 ซึ่งก็มาจาก การถือกำเนิดของ Discotheque ซึ่งเป็นสถานบันเทิงในรูปแบบใหม่ที่ได้ใช้วิธีเปิดแผ่นเสียงสดๆเช่นเดียวกับ DJ ทางสถานีวิทยุ แทนที่จะใช้วิธีแสดงดนตรีสดดังเช่น Night Club ทั่วๆไป
และ Discotheque นี้เองที่ทำให้เกิดมิติใหม่ในวงการแผ่นเสียงขึ้นมา ซึ่งจะเป็นในรูปแบบไหน อย่างไร ติดตามอ่านต่อได้ใน Blog หน้าครับ
เพลงที่ฝากมี 2 Part ครับ Part แรก ที่คุณกำลังฟังตอนนี้ ผมเอา Reach Out, I'll be There 2 นักร้อง 2 Version มาต่อกัน Version แรกเป็นของ Four-Top ปี 1966 ส่วน Version 2 ที่เอามาประกบรอยต่อกันเป็นของ Gloria Gaynor ปี 1975 จาก Album Never Can Say Goodbye ครับ
ส่วน Part ที่ 2 เป็น Disco Parade ครับ เต้นรำต่อเนื่อง 20 นาทีกับ 5 เพลงที่ผมตั้งเอาไว้ รอบนี้โยกกันแบบ Soft Soft นะครับ เริ่มต้นที่ Rock your Baby ของ George McCrae ผมต่อกับ When you're in love with a beautiful woman ของ Dr.Hook ครับ เพลงที่สามชื่อ Who done it (Whodunit) ของ Tavares เจ้าของบทเพลง Disco Inferno ที่โด่งดังจาก The Saturday Night Fever นั่นแหละครับ เอามาต่อกับ Girl, you'll be the woman soon ของ นักดนตรีเชื้อสายอินเดีย Biddu&The Orchrestra ผมเอา Love is the Message เพลงดังของ MFSB มาให้คุณลองฟังดู (วงนี้ผมจะเขียนถึงต่อไปใน Blog หน้าๆครับ) และจบด้วย Soul หวานๆ The Stylistic เพลง Star on a TV Show เฉพาะ Part 2 นี้ถ้าจะฟังต้องกดไปที่รูปแผ่นเสียงของ E-Snips ครับ
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:23:27:26 น.
ผมพลาดครั้งใหญ่เลยล่ะครับ พึ่งย้อนกลับมาอ่านที่พิมพ์ไว้ตะกี้เอง วง Tavares ไม่ใช่เจ้าของบทเพลง Disco Inferno ครับ ผมจำผิดไป 5555 นั่นต้อง The Tramps ครับ ส่วน Tavares นั่นต้องเพลง Heaven Must be Missing an Angle ครับ
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:23:31:40 น.
มาฟังเพลงค่ะ ได้ความรู้ไปด้วยนะ ดีจัง เพราะว่าให้ไปหาข้อมูลเองคงขี้เกียจ แหะๆ เพลงคึกคักจริงๆ ส่วนเพลงStar on a TV Show นี่หวานจริงๆนะคะ :)
เหมือนผีแอฟโฟรเข้าสิง 55 ว่าไปนั่น
พูดถึงแผ่นเสียงแล้ว ก็ให้เกิดอารมณ์อยากเอาไปซ่อมหัวเข็มเล่นแผ่นเสียง
แต่ผมเองก็มีแผ่นเสียงดิสโก้อยู่แค่สองสามแผ่นเอง สงสัยต้องงัดเอามาฟังบ้างละ