... มาแว้วๆ ***ยอดรักนักศิลป์ตอนที่ 26 ทางรอด *** OG 2 ตอน13-ตอนจบ** **คลิกอ่านทุกเรื่องได้ที่เมนูด้านซ้ายเลยจ้า.. ^_^
“ความทุกข์-หากเล่าสู่กันฟังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนความสุข-ถ้าเราแบ่งปันมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ขอบคุณลูกบล็อกทุกท่านที่ร่วมสร้างบล็อกแห่งความสุขนี้ขึ้นมา อยากให้พื้นที่ในบล็อกแห่งนี้ได้เป็นที่แบ่งปันทุกข์และสุขร่วมกัน จะไม่มีรักรูปแบบใดที่เป็นไปไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้....วอนวอน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ตอนที่ 4.2 Advents (การมาถึง) จุงฮาและ น้ำ แปล PPP รีไรท์เตอร์ ZIG ZAG XL พิสูจน์อักษร

“นางเป็นใครกันคะ?” บุคลิกจริตกร้านโลกของผู้หญิงคนนั้น ทำให้คยองมีรู้สึกกลัว

“เป็นนางโลมที่ดูแลหอนางโลมน่ะ”

“นาง...ดูน่ากลัวนะคะ” นางกล่าวอย่างกระสับกระส่าย

“อะไรหรือ?” เขาประหลาดใจ พร้อมกับหันกลับไปมองนาง “ทำไมนางถึงทำให้เจ้ารู้สึกเช่นนั้นล่ะ?”

“ข้ารู้สึกว่าภายใต้หน้าเปื้อนยิ้มที่ดูสุภาพแต่ลวงโลกนั้นคืออะไรบางอย่างที่เป็นอันตราย” นางกล่าวเหมือนเป็นลางร้าย

“แต่อะไรทำให้เจ้าคิดเช่นนั้นล่ะ?”

“มันก็แค่เป็นความรู้สึก” นางไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างไร “ท่านต้องระวังตัวให้มากๆ หากอยู่ใกล้นางน่ะค่ะ” นางกล่าวอย่างกังวล

“เจ้าทำอย่างกับว่านางจะแทงข้างหลังข้าสักวันอย่างนั้นแหละ” เขาหัวเราะ

“มันไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ ท่านอาจจะไม่ใส่ใจในคำของข้าแต่ท่านก็ไม่จำเป็นต้องหัวเราะนี่คะ” นางตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรอีก

“ข้าขอโทษ มันไม่เป็นไรหรอก” เขากล่าวปลอบโยนนาง ไม่ว่าสิ่งที่นางพูดจะเป็นจริงหรือไม่ เขาจะไม่มีทางระวังตัวน้อยลงเมื่ออยู่ที่หอนางโลม “ดูซิ ตะวันตรงหัวแล้ว ไปหาที่พักเหนื่อยกันเถอะ”

พวกเขาหยุดพักที่โรงเตี๊ยมเพื่อทานอาหารกลางวันที่นั่น ขณะนั่งลงที่โต๊ะ ยุนบกสังเกตเห็นเสาที่บอกเขตแดนซึ่งเหมือนกับในแผนที่ที่ซุกควอนเคยให้เขาดูมีเพียงแค่2เส้นทางที่นำทางออกจากตัวเมืองคือทางถนนและท่าเรือ หรือถ้ามีใครต้องการจะปีนเนินเขาก็อาจจะเป็นอีกทางเลือก เขามองที่ถ้วยของเขาอย่างเหม่อลอย ขณะคิดหาทางจัดการกับปัญหานางโลม เหมือนมีภูเขาแบกบนบ่า เขาจะสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างหมดได้เช่นไร อย่างน้อยขณะที่นางโลมและแขกของนางอยู่ภายในห้อง เขาก็ต้องอยู่ด้วย เขาถอนหายใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ทำให้เสียเวลาเปล่า เขาเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารกับเจ้าของโรงเตี๊ยมแล้วเดินออกไปพบกับคยองมีและสาวใช้ที่นั่งรอเขาอยู่

“โอ้ ข้าต้องขอโทษด้วย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทานอาหารเสร็จแล้วและมานั่งรออยู่ที่นี่” เขากล่าวขอโทษ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ท่าน ท่านต้องการการพักผ่อนบ้าง” คยองมีอมยิ้ม “แล้วเราจะไปที่ไหนกันต่อคะ?”

“เดินลงไปที่อ่าว” เขากล่าว ยุนบกมองเห็นกิจกรรมมากมายจากระยะไกลและกระตือรือร้นที่จะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

เขาออกเดินแล้วหยุดเมื่อเห็นการโต้เถียงอยู่ใกล้ๆ พ่อค้าเร่คู่หนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับชายอีก4คนที่ดูเหมือนว่าต้องการสินค้าของพวกเขา การยอมจำนนปรากฏอยู่บนสีหน้าของพวกเขา ขณะที่พวกเขายอมให้พวกนั้นเอาสินค้าไป

“ทำไมพวกเขาถึงยอมให้ชายเหล่านั้นนำสินค้าของพวกเขาไปล่ะคะ?” มันเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับคยองมี พ่อค้าเร่น่าจะขัดขวางไม่ใช่ยินยอมเช่นนี้

“เจ้าเชื่อว่าพวกพ่อค้าเร่ต้องปกป้องสินค้าของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?”

“แล้วมันไม่ถูกต้องหรือคะ?” นางกล่าวอย่างไม่ยอมรับ “พวกเราก็เห็นพ่อค้าเร่ในทุกๆที่นี่คะ”

“ก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต เพราะเหตุนี้เอง ถ้าไปเจอคนเลวๆอย่างชายพวกนั้น พ่อค้าเร่จะถูกกดขี่ให้ส่งมอบสินค้าของพวกเขาไป ถ้าไม่ยอม พวกนั้นก็จะไปฟ้องเจ้าหน้าที่ทางการ” ยุนบกผงกศีรษะไปยังชายทั้ง4คนที่กำลังเดินไปทางตลาด “พวกอันธพาลเหล่านี้จะขายสินค้าให้กับลูกค้าในราคาที่สูงกว่า แต่ตอนนี้เราเดินไปที่อ่าวกันเถอะ”

เรือขนาดใหญ่และเรือเล็กหาปลาจอดอยู่เต็มท่าเรือ เป็นภาพของกิจกรรมที่วุ่นวายมาก ขณะที่ย้ายสินค้าลงจากเรือบรรทุกสินค้าและย้ายต่อไปยังโกดังสินค้า มีพ่อค้า (gaekju) อยู่จำนวนหนึ่งที่วุ่นอยู่กับการแลกเปลี่ยนซื้อขายอยู่ที่ศาลาเล็กที่อยู่ติดกับท่าเรือ ยุนบกรู้สึกว่าที่นี่อันตรายเกินไป จึงตัดสินใจเดินไปตามฝั่งทะเล ที่นี่มีกระท่อมของชาวประมงที่มีปลาคอร์วินา (corvina) ปลาแอนโชวี (anchovy) และปลาอกเหลือง (croaker) ตากแห้งอยู่ ตาข่ายถูกแขวนอยู่นอกบ้านโดยมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายกำลังเช็กและซ่อมแซมรอยขาด พวกเขาเดินมาถึงกลุ่มที่อยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ที่มุงด้วยใบจาก มีชายหลายคนรวมกลุ่มกันอยู่ ยุนบกสงสัยว่าทำไมจึงมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ริมของกลุ่มคนเหล่านั้น เกิดความไม่ลงรอยกันเรื่องราคาระหว่างนายหน้ากับชาวประมง แล้วเป็นเรื่องราคาของอะไรล่ะ? เมื่อเห็นถึงความไม่เข้าใจของยุนบก ชายคนหนึ่งก็อธิบายเพิ่มเติม ไม่ใช่ว่าชาวประมงทุกคนจะมีเงินซื้อเรือหาปลาเอง ดังนั้นก็ต้องเช่าเรือแทน แต่ว่าพวกเขาก็เจรจาต่อรองกับนายหน้าให้ลดราคาแพงเกินไปลงหน่อย ดังนั้นจึงเกิดการโต้แย้ง

ยุนบกส่ายศีรษะให้กับการหากำไรจากคนอื่น พร้อมกับกล่าวขอบคุณชายคนนั้น ก่อนจะเดินต่อไปยังชายฝั่ง หนุ่มน้อยคนหนึ่งกำลังเล่นว่าวอยู่ท่ามกลางลมที่แรง แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกน ทำให้หนุ่ม คนนั้นรีบสาวเชือกเพื่อเก็บว่าวและรีบวิ่งหนีไป พาโดจะต้องชอบที่นี่ มีทะเลให้ว่ายเล่น มีลมแรงให้เล่นว่าว สักวันหนึ่งเขาจะพาเด็กชายมาที่นี่ อ่าแต่เขาลืมไปว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นหรอก เขาคิดว่าเด็กชายจะทำอย่างไรเมื่อกลับบ้าน ขณะที่เขามองออกไปที่ทะเล นกทะเลร่อนถลาไปมา เพิ่มเสียงร้องของมันปนไปกับเสียงคลื่น บ้างก็วิ่งไปบนพื้นทราย มีนกกระสาเดินย่ำตามน้ำเพื่อมองหาอาหาร

“ข้าไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน” คยองมีถอนหายใจ พร้อมกับกระชับเสื้อคลุมที่กระพือไปตามแรงลม “มันทั้งกว้างใหญ่ งดงามและเงียบสงบ”

“ข้าก็เช่นเดียวกัน มันช่างน่าลุ่มหลง เสียงของทะเลนั้นทำให้ใจสงบ ชวนให้เผยถึงความฝัน” ยุนบกมองหญิงแก่คนหนึ่งที่ค่อนข้างจะสกปรกที่ถือตะกร้าเปล่ามา ก่อนจะหยุดพูดคุยกับหญิงอีกคนที่มีหมอนรอง (ttoari) วางบนศีรษะของนางเพื่อรองถาดขนาดใหญ่ที่ใส่ปลาเอาไว้แล้วคลุมด้วยผ้าอีกที แล้วยังมีตะกร้าผักอยู่ใต้แขนของนางอีก “อืม...”

“แล้วความฝันที่ท่านปรารถนาจะเผยออกมาคืออะไรคะ พี่ท่าน?” นางสังเกตว่าเขากำลังสนใจในผู้หญิง ทั้ง2 คน เขากำลังมองอะไรอยู่นะ?

“ไม่มีอะไรที่พู่กันไม่สามารถถอดแบบได้” เขากล่าวอย่างใจลอย ตากำลังจับจ้องไปที่รายละเอียดของหญิงทั้งสองคนนั้น “แล้วเจ้าล่ะ?”

“ข้า...ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” นางกล่าวอย่างลังเล “ข้าก็จำไม่ได้” ความฝันก็คือเรื่องของท่านเพียงเรื่องเดียว นางอยากจะพูดอย่างนี้ แต่ก็รู้ว่าเขาคงไม่ต้องการได้ยินมัน นางกลัวว่านางจะทำลายมิตรภาพที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่นี้

“จะเป็นไปได้อย่างไร? นอกเสียแต่ว่าความฝันที่เจ้ายึดถือไว้นั้นสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว และเจ้าไม่ตระหนักถึงมันได้อีกหรือ? หากมันไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ก็ควรจะปล่อยมันไปไม่ใช่หรือ?” เขาพูดต่อเมื่อเห็นว่านางไม่พูดอะไร “น้องหญิง เจ้ายังคงยึดมั่นบางสิ่งเอาไว้ แต่นั่นมันเกิดขึ้นในการพบครั้งแรก การพบกันที่ไม่ได้เริ่มต้นจากความสมเหตุสมผล และต้องจบลงด้วยการสูญเสียทั้งเวลาและความโศกเศร้า ทำไมเจ้าไม่ลองมองความเข้มแข็งที่อยู่ภายในตัวเจ้าเอง เหมือนที่เจ้าแสดงออกมาอย่างกล้าหาญเช่นคืนนั้นและยอมรับมันล่ะ”

เขาถอนหายใจเมื่อเห็นคำปฏิเสธในดวงตาของนาง บางทีมันอาจยังไม่ใช่เวลานี้ นางอาจจะยังไม่พร้อมที่จะยอมรับมัน แต่เขาก็หวังว่าถึงที่สุดแล้ว นางจะได้พบกับแสงสว่าง

“ถ้าเช่นนั้น เราเดินไปจนสุดทางเดินนั้นดีไหม” เขาเปลี่ยนเรื่องและเริ่มออกเดิน เริ่มมีกระท่อมชาวประมงมากขึ้นและอู่ซ่อมเรืออยู่ตรงสุดทางเดิน ตอนที่พวกเขาเดินกลับไปที่ตลาดก็บ่ายแก่ๆแล้ว โดยเดินไปทางตะวันตกของเมืองที่เป็นแหล่งของการเล่นพนัน ขณะที่ยุนบกนำทางคยองมีให้ห่างจากตรอกที่มีการวิวาทกันอยู่ ชายหลายคนกำลังรุมชาย3คนที่แต่งตัวมอมแมมเช่นเดียวกับพวกขายของเร่ที่เขาพบเมื่อครู่ พวกนั้นวิ่งหนีออกมาจากตรอก มีเสียงตะโกนตามหลังมา พวกเขาแยกกันหนีและมีคนหนึ่งที่วิ่งมาทางยุนบก ยุนบกรีบผลักคยองมีและสาวใช้ไปหลังประตูทางเข้าบ้าน ขณะที่พวกนั้นวิ่งหนีผ่านเขาไป แล้วชายร่างใหญ่กำยำก็วิ่งมาและจับคอเสื้อของยุนบกไว้ พร้อมชูกำปั้นขึ้น

“เฮ้ ท่านจับคนผิดแล้ว...” ยุนบกกล่าว เมื่อเห็นว่าหญิงที่ด้านหลังเขาทั้งสองคนนั้นหอบด้วยความกลัว

“เจ้าโง่!!! ไม่ใช่เขา มันวิ่งไปทางอื่นแล้ว!!!” เสียงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธแทรกขึ้นมาทำให้การเคลื่อนไหวหยุดลง
“
โอ้ ขอโทษ” ชายร่างใหญ่กำยำก็ทำท่าทางเซ่อๆ แล้วปล่อยยุนบกลง และวิ่งไปตามล่าเป้าหมายที่ถูกต้องแทน

จบเรื่องซะที ยุนบกรู้สึกโล่งอก เขาสามารถที่จะหลบหมัดนั้นได้แต่หญิงสาวด้านหลังคนใดคนหนึ่งจะรับเคราะห์แทน

“ไปจากที่นี่กันเถอะ ก่อนที่จะมีพวกนั้นเข้าใจว่าข้าเป็นพวกนักพนันอีก” เขากล่าว พร้อมกับส่งสัญญาณบอกหญิงทั้งสองคนที่กอดกันกลมอยู่ที่ประตูทางเข้า

พวกนางตามเขาไปอย่างรวดเร็ว กระตือรือร้นที่จะออกไปจากบริเวณนี้และออกไปจากเหตุการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ มีชายโดนซ้อมนอนอยู่บนถนน น่าจะเป็นหนึ่งในสามของนักพนัน ผู้ไล่ตามคงจะจับตัวเขาได้ทัน มีรอยช้ำตามใบหน้าและตามแขน มีเลือดไหลออกจากริมฝีปากที่แตก พร้อมกับขดตัวอยู่บนพื้น ส่งเสียงครางเบาๆ โดยที่คนที่ผ่านไปมาไม่มีใครจะยื่นมือช่วยเขาเลย

“รีบไปกันเถอะ” ยุนบกพูดอย่างเร็ว ขณะที่คยองมียังจ้องดูชายคนนั้นอยู่

“แต่...ไม่มีใครจะช่วยเขาเลยหรือคะ?” เขากล่าว ขณะที่แจฮวาดึงนางให้เดินตามนายน้อยไปยังที่ที่ปลอดภัย

“ไม่มีประโยชน์หรอก” ยุนบกดูผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพวกเขาออกจากเขตตะวันตกของเมืองมาได้

“จะเป็นไปไม่ได้เลยหรืออย่างไร?” นางกล่าวอย่างไม่เชื่อหู

“เชื่อข้าเถอะ ที่อูริยองเมื่อหลายปีก่อน ข้าเคยพยายามมาแล้ว ตอนนี้เราควรจะกลับไปยังบ้านตระกูลแบดีกว่าไหม ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว” เขาชี้ไปที่พระอาทิตย์ที่เริ่มตก แต่นางอยากจะใช้เวลาอยู่กับยุนบกให้นานกว่านี้ แต่คยองมีก็ต้องยอมรับว่านางเหนื่อยมากแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าตกใจที่ได้เจออีกล่ะ

“เกิดอะไรขึ้นในอูริยองตอนนั้นล่ะคะ?” นางถามอย่างสงสัย ขณะที่พวกเขาเดินไปทางทิศเหนือ

“ข้าไปพบกับชายคนหนึ่งที่เหมือนกับที่พบเมื่อครู่ ข้านำเขากลับไปที่โรงงานกระดาษ ช่วยเหลือทำแผลให้เขาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาเป็นนักพนันที่เล่นจนเสียเงินทั้งหมดไป และก็มีหนี้สินจากการหยิบยืมเงินจากบ่อนการพนัน เมื่อใดที่เขาไม่มีเงินจ่ายคืน พวกนั้นก็จะซ้อมเขา แต่ไม่ฆ่าเขา ข้าก็เลยถามว่าทำไม เขาหัวเราะและตอบว่าคนที่ตายไปแล้วจะมาจ่ายเงินคืนได้อย่างไรล่ะ พวกนั้นจะตามล่าลูกหนี้ เอาทุกอย่างเท่าที่เขาจะมี หรือไม่ก็ขายทรัพย์สินหรือแม้แต่ครอบครัว หากว่าเขาไม่สามารถจ่ายคืนได้ ก็จะบังคับให้ทำเรื่องที่ผิดกฎหมายแทนการชำระคืนไงล่ะ”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนั้นคะ?” สิ่งที่เขาพูดมานั้นทำให้นางกังวลเป็นอย่างมาก นางไม่เคยได้ยินท่านลุงกล่าวถึงเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ยุนบกหัวเราะอย่างขื่นขม “ตอนนั้นข้ามันซื่อ หลงคิดว่าข้าจะสามารถทำให้เขาไม่เล่นการพนันอีก แต่ข้าก็ล้มเหลว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นเรื่องที่โง่เขลา แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้ หรือไม่เขาก็ปฏิเสธที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง หลังจากที่ยืมเงินจากข้าไปแล้ว เขาก็สัญญาว่าจะนำมันมาคืน แต่เขาก็กลับไปที่บ่อนการพนันอีก แล้วข้าก็พบว่าเขาถูกฆ่าหลังจากที่เขาขายทุกสิ่งทุกอย่างที่มี รวมถึงภรรยา และลูกสาวของเขาด้วย”

พวกเขาจะทำอย่างไรกับครอบครัวของชายคนนั้น? แค่คิด คยองมีรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย นางไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะมีอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ การหลอกลวงซ่อนอยู่ภายในผู้คนที่เดินไปมาอยู่รายล้อมตัวนาง

“แล้วไม่มีทางที่จะขจัด...บ่อนการพนันให้หมดไปหรือคะ?” หากสามารถขจัดมันออกไปได้หมด นางแน่ใจว่าปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น

“พวกมันผิดกฎหมาย” เขาผงกศีรษะเพื่อยืนยัน ขณะเห็นว่านางดูแปลกใจ “บางครั้งบางคราว ที่อูริยอง พวกทหารก็จู่โจมเข้ามากวาดล้างพวกบ่อนเหล่านี้ให้หมดไป แต่มันก็จะกลับมามีเหมือนเดิมอีกครั้ง เหมือนกับนักเล่นพนันที่ยากที่จะขจัดความชั่วร้ายออกไปได้ ข้าคิดว่าชินแฮก็คงจะเหมือนกัน”

ข่าวสารที่ได้รับนี้ช่างน่าตกใจนัก แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากกล่าวขอบคุณยุนบกที่ชวนนางไปด้วยและแยกย้ายกันไปเมื่อมาถึงบ้านพัก เขามองนางเดินจากไปพร้อมกับคิดว่าหากว่าเขามีความก้าวหน้าในการเปลี่ยนใจนางได้บ้าง คงจะมีเวลาเท่านั้นแหละที่สามารถบอกได้ อาหารมื้อเย็นวันนี้หรูหราน้อยกว่าเดิม แต่ก็ยังคงแพงอยู่ดีเพราะมีเนื้อหมูที่ต้มด้วยไฟอ่อนๆ เป็นอาหารจานหลัก

“ท่านได้พบเจออะไรในเมืองมาบ้างล่ะ?” เถ้าแก่แบกล่าวหลังจากโต๊ะอาหารถูกยกออกไปหมดแล้ว

“ข้าได้เปิดหูเปิดตามากเลยครับ นายท่าน ข้าไม่เคยคิดว่าข้าจะได้เห็นอาหารสดหลากหลายชนิด และการถนอมอาหารทะเล และยังมีสินค้าจากต่างเมืองอื่นอีก แล้วเมืองชายฝั่งทุกเมืองจะเหมือนกันไหมครับ?” ยุนบกถามด้วยความใคร่รู้

“ใช่ อาหารที่หมักด้วยเกลือส่วนใหญ่นั้นจะถูกส่งไปยัง ชอลลิยอง (Cheollyeong) บ้างก็นำไปขายที่ตลาดนัดในเมืองอื่นๆ” เมื่อเห็นว่าเขาสนใจ เถ้าแก่แบจึงอธิบายให้ละเอียดมากขึ้น “บุกอ (Bugeo) เป็น หัวปลาอลาสก้าตากแห้งเป็นที่ต้องการมาก เพราะมันมีให้จับเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น แต่ชินแฮก็เปรียบเหมือนชุมชนหาปลาเล็กๆ เมื่อเทียบกับปูซานหรือเมืองทางชายฝั่งตะวันออกอื่น ซึ่งท่านสามารถหาคนที่ร่ำรวยได้อย่างง่ายดายในที่นั้น”

“แต่ก็ยังมากกว่าที่ข้าเคยเห็นที่อูริยองอยู่ดี” มันไม่น่าแปลกใจเลยจริงๆ เมื่อพิจารณาว่าอูริยองตั้งอยู่ที่ใจกลางประเทศมากไป ส่งผลให้เป็นปัญหาในการขนส่งอาหารทะเลสดๆ โดยจากที่เขาเคยเห็นและเคยกินมักจะเป็นพวกอาหารแห้งและพวกอาหารที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว

“บางทีนะ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยร้านค้าที่จะจัดหาของให้กับเมืองชางวอนและหมู่บ้านอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้การค้าที่นี่ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จ” เถ้าแก่แบอธิบาย “แล้วท่านไปทางตะวันตกของเมืองหรือเปล่าล่ะ?” เขาถามทันที

“ไปเจอมากับตัวแล้วครับ” ยุนบกตอบ หากว่าเถ้าแก่แบต้องการจะเตือนเขาถึงเรื่องนี้ มันคงจะสายไปแล้วล่ะ

“อ่า นั่นเป็นความผิดพลาดของข้า ข้าลืมที่จะเตือนท่านให้อยู่ห่างจากเขตนั้น” เถ้าแก่แบกล่าวขอโทษ “ข้าหวังว่าคงไม่เกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นนะ”

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ” ยุนบกตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงเหตุการณ์นั้น “ข้าแค่ตกใจที่มีการเล่นพนันกระจายอยู่ในทุกๆที่ครับ”

“ใช่แล้วล่ะ” ชายแก่ถอนหายใจ “ข้าเกรงว่าสิ่งผิดกฎหมายยังจะคงอยู่ ผลกำไรที่สูงและผู้ชายก็มักจะถูกล่อด้วยโอกาสที่จะได้เงินมาอย่างง่ายๆ แม้กระทั่งเงินทองของเพื่อนฝูง”

“แล้วไม่สามารถทำอะไรได้เลยหรือครับ นายท่าน”

“จะทำอะไรได้ล่ะ? แม้แต่ทางการก็ยังปิดหูปิดตาตราบเท่าที่พวกนั้นเสนอเงินสินบนให้ ข้าไม่แปลกใจเลยที่เจ้าหน้าที่บางคนยังเป็นเจ้าของบ่อนการพนันเสียเอง แต่ถึงจะมีใครพยายามกำจัดบ่อนการพนันนี้ให้หมดไป พวกนั้นก็จะย้ายไปตั้งที่อื่นอยู่ดี” เขาถอนหายใจอีกครั้ง “แต่ตอนนี้ข้าขอแนะนำให้ท่านเข้านอนแต่โดยเร็ว งานท่านจะเริ่มในวันพรุ่งนี้”

คืนนั้นยุนบกเขียนภาพของผู้หญิง2คนที่เขาเห็นที่อ่าวจากความทรงจำ เกือบจะยามสามแล้วเมื่อเขาเขียนภาพเสร็จ เขามองดูภาพที่เขียนเสร็จ พอใจกับมันมากก่อนจะเก็บมันไว้ในกระบอกภาพวาด แล้วเตรียมอุปกรณ์เขียนภาพที่เหลือ พร้อมกับครุ่นคิดถึงงานที่เขาได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เขาหวังว่าอีกไม่นานจะได้กลับไปอูริยองพร้อมกับจองฮยาง



ซอนยุน (จองฮยาง)
15th Mangjong 1789


“เจ้าคิดว่าเมืองนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

ซอนยุนยิ้มตอบให้กับหญิงที่อยู่ตรงข้ามกับนาง ขณะที่พวกนางนั่งจิบน้ำชาอยู่ที่ห้องของนางหลังจาก ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว มยองฮีเสนอเรื่องทานอาหารเย็นด้วยกันขึ้นมาหลังจากที่กลับจากเดินชมเมือง น่าแปลกใจที่นางโลมที่มาใหม่อย่างนางจะมีปัญหา แต่สำหรับซอนยุนแล้วนางพยายามหาทางปิดกั้นความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับใครๆที่มาจากชนชั้นสูงหรือกับพวกพ่อค้า

“อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเล กลิ่นของทะเลทำให้รู้สึกสดชื่นต่างจากอูริยอง”

“อ่า แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเบื่อกลิ่นปลาไปอีกนาน” มยองฮีหัวเราะ “เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีมนตร์ขลัง สักวันหนึ่ง เจ้าต้องลองไปเดินตามชายฝั่งเพื่อดูพระอาทิตย์ตก ภาพนั้นเป็นภาพที่สวยงามมาก”

“นั่นเป็นภาพที่ควรได้จะเห็นค่ะ” คำแนะนำนั้นช่างน่าสนใจ นางคิดว่าจะต้องไปดูพร้อม ยุนบกก่อนที่ พวกเขาจะออกจากเมืองนี้

“แน่นอน ว่ามันจะดีที่สุดหากเจ้ามีใครสักคนไปดูพร้อมกับเจ้า” ดวงตาของซอนยุนแสดงให้เห็นว่านางกำลังจินตนาการอยู่ มยองฮีรับรู้ถึงมัน แล้วใครคือคนที่นางกำลังนึกถึงล่ะ?

“บางที” ซอนยุนกะพริบตา เพื่อไล่สิ่งที่นางกำลังจินตนาการอยู่ออกไป มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำที่นี่

“แต่แน่นอนว่าเจ้าต้องมีใครบางคนอยู่ในใจแล้ว? ในที่สุดพวกเราทุกคนก็มักจะรักใครสักคนที่พิเศษสำหรับเรา” มยองฮีแหย่กระตุ้นอย่างสุภาพ

“แม้จะเป็นอย่างนั้นก็ตาม ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนึกถึงมัน” นางตอบเลี่ยงแต่มันก็คือความจริง แล้วทำไมมยองฮีถึงต้องการเจาะจงพูดเรื่องนี้ล่ะ?

“บางที แต่สักวันมันก็ต้องมาถึงไม่ใช่หรือ?” มยองฮีอธิบาย “แล้วเจ้าคิดยังไงกับช่างเขียนล่ะ?”

“ข้าเพิ่งพบเขาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น” ซอนยุนตอบอย่างระวังและเชื่อว่าทั้งนางและยุนบกลืมนัดแนะหนทางที่จะติดต่อกัน หากเกิดอะไรขึ้น “เขาเป็นสุภาพบุรุษมากค่ะ”

“แล้วเจ้าไม่พบสิ่งที่น่าลุ่มหลงในตัวของเขาบ้างเลยหรือ?” มยองฮีจิบน้ำชาพร้อมกับลอบมองนางทาง หางตา

“ค่ะ ข้าพบ” คงจะเป็นการโกหกหน้าด้านๆหากว่านางตอบปฏิเสธ ซอนยุนจึงปลดปล่อยอารมณ์ออกมาเล็กน้อย “แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า ข้าก็ต้องเข้าไปอยู่ในครอบครัวของคนอื่นอยู่ดี” มีความเสียใจปนอยู่ในน้ำเสียงของนาง “ดังนั้นข้าก็ทำได้เพียงแค่โหยหาและเฝ้ามองอยู่ไกลๆ เท่านั้น”

“มันก็จริง” มยองฮีผงกศีรษะ “ข้าคิดว่าบรรดาสาวๆของเราจะต้องซุบซิบกันมากเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง แม้กระทั่งผู้อุปถัมภ์เองก็คงจะสนใจ”

“แล้วท่านล่ะค่ะ คิดยังไงกับช่างเขียนคนนั้น?” มันช่วยไม่ได้ แต่จองฮยางก็ถามออกไปแล้ว

“ข้าจะบอกว่าเขาทำให้ข้าเกิดความสนใจ พฤติกรรมของเขาไม่ใช่สิ่งที่ข้าคาดไว้ว่าจะได้พบ แต่บางทีข้าอาจจะเข้าใจผิด” แล้วก็มีเสียงแทรกเข้ามาให้ห้อง “อ่า นี่มันก็ดึกมากแล้ว โปรดให้อภัยข้าด้วย” มยองฮีกล่าวขณะลุกขึ้น “พักผ่อนให้มากๆนะ”

อะไรอยู่ในแววตาของนาง? ซอนยุนจ้องไปที่ประตูหลังจากที่มยองฮีปิดมัน มันทำให้นางไม่สบายใจเลย อ่า ดูเหมือนกับผู้ล่ากำลังสอดแนมเหยื่อของมันอยู่ นางควรจะเตือนยุนบกไหมนะ? นางเคาะนิ้วบนหน้าผากขณะตัดสินใจ แต่ไม่ต้องเตือนหรอก เขาต้องระวังอยู่แล้ว นางต้องเชื่อว่าเขาต้องรู้สิ่งที่มยองฮีพยายามทำ และนางก็สงสัยว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องทำอะไรบางอย่างในเร็วๆนี้ มันน่าสงสัยมากเมื่อนึกถึง ทำไมนางต้องเอ่ยถึงยุนบก พวกเราทำอะไรให้นางสงสัยโดยไม่รู้ตัวงั้นหรือ? หรืออาจเป็นเรื่องปกติที่จะมีการซุบซิบนินทานางโลมที่มาใหม่งั้นหรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์เช่นนี้ นางคงต้องพิจารณาหรือแปลคำพูดของคนอื่นให้มากกว่าเดิม แต่ตอนนี้นางกำลังคิดอยู่ว่ายุนบกกำลังทำอะไรอยู่




Create Date : 31 มกราคม 2554
Last Update : 11 มีนาคม 2554 12:08:46 น. 6 comments
Counter : 1561 Pageviews.

 
มาคนแรกเลย....

ในที่สุดก้อมาลงแล้วเย้.....



โดย: อินจัด IP: 125.25.43.254 วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:12:27:17 น.  

 
คนที่สองขอรับ

สนุกมากมายขอรับ ขอบคุณช่างแปลและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านขอรับ


โดย: ซินยุนบกน้อย IP: 192.168.20.145, 58.137.158.114 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:01:50 น.  

 
ดีใจจัง ในที่สุดก้ออัพแล้ว
สนุกมากค่ะ อ่านแล้วอารมณ์ดี
ขอบคุณท่าน จุงฮาและ น้ำ แปล PPP รีไรท์เตอร์ ZIG ZAG XL พิสูจน์อักษร...
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ..สู้ สู้


โดย: เอ้า มาด้วยคน... IP: 110.49.193.54 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:50:25 น.  

 
สนุกมากเลย จะรอต่อไปค่ะ


โดย: blue sky IP: 202.69.140.130 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:44:25 น.  

 
เข้ามาแล้วนะ ดีใจที่คุณมาสานต่อ


โดย: อเลคซ์ IP: 183.88.114.173 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:49:30 น.  

 
ขอบคุณทีมแปลทุกคนครับ ช่างเหมือนมนต์เสนห์ที่ยังตราตรึงทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวของสองคนนี้ ขอบคุณมากๆๆครับผม สำหรับการเสียสละในการเรียบเรียงเรื่องที่สวยงามน่าหลงใหล ขอให้ทีมแปลทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะครับผม


โดย: เกษตรศิลป์ IP: 58.9.234.157 วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:19:18:49 น.  

albatross11
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




รักกันเพียงใดก็ต้องพลัดพราก หวงไว้เพียงใดก็ต้องจำจาก ข้ามาคนเดียวข้าไปคนเดียว ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร ต่างคนมาต่างคนไป ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ปล่อยวางได้จึงเบาสบาย... เมื่อปัญญาแจ่มแจ้งจะสลัดคืน เมื่อมาจากดิน ท้ายที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน ยึดเอาไว้ก็ได้แต่ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย พุทธทาสภิกขุ............ .............................. .............................. ความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจนั้น เป็นเรื่องทรมานยิ่ง และเรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย... ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...พุทธโอวาท --------------------------- พระราชดำรัส ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงสละพระราชสมบัติ เพื่อประชาชน ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
New Comments
Friends' blogs
[Add albatross11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.