นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 สิงหาคม 2558
 

[รักซ่อนใจ] 3 : คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์



: : : คำเตือน : : :

เนื้อหาของตอนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หากคุณไม่ชอบบทเรท 20+ กรุณาข้าม แต่ถ้าชอบ ก็อ่านโลดดดด



ตอนที่ 3

คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์




ณ สตูดิโออันเป็นสถานที่ทำงานของพิษณุ รถของเขมนิจ จอดเทียบด้านหน้าก่อนเธอจะลงจากรถด้วยสีหน้าเหมือนไม่อยากมาเยือนที่นี่เท่าไหร่นัก แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อสถานที่แห่งนี้คืองานของเธอ

เจ้าของสตูดิโอเป็นหนุ่มร่างสูงสมส่วน ผมยาวระต้นคอสวมเสื้อยืดและทับด้วยเสื้อแจ็กเกต เขายืนรออยู่ด้านหน้า ใบหน้ายิ้มแย้มต้อนรับ

“ผมดีใจที่คุณยอมมาที่นี่”

“มันเป็นงานของฉันนี่คะ” เธอตอบเสียงเรียบแล้วแบมือ “ของานที่คุณบอกว่าเสร็จแล้วด้วยค่ะ”

“อะไรกัน เครื่องยนต์ยังไม่ทันหายร้อนเลยคุณก็จะกลับแล้วเหรอ อยู่กินน้ำและคุยกันหน่อยสิครับ” เขาเชิญแล้วผายมือเข้าไปด้านใน

“งานผมอยู่ในโน่น ถ้าคุณไม่เข้ามาก็คงเอามันออกไปไม่ได้”

“นุ!” เขมนิจขึ้นเสียง

“เข้าไปคุยกันสิครับ ดีกว่ามายืนตรงนี้ตั้งเยอะ” พิษณุยังใจเย็น หญิงสาวหายใจเข้าหลายครั้งและจำใจเดินผ่านเจ้าของสตูดิโอเข้าไปด้านใน

“คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกมั้ยครับ คุณพยายามหนีผมตลอด แต่สุดท้ายแล้วกลับต้องเป็นฝ่ายวิ่งมาหาผมแทน”

“ก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละค่ะ จบงานนี้เราก็จะไม่ได้ติดต่อกันอีก”

“อย่าเพิ่งมั่นใจขนาดนั้นสิครับ อย่าลืมนะว่าบริษัทเสื้อเขาชอบงานของคุณและเขาก็ชอบการถ่ายภาพของผมด้วย บางทีจบงานนี้แล้ว อาจมีงานอื่นที่เราต้องทำร่วมกันอีกก็ได้” พิษณุบอกยิ้มๆ

“ไหนงานของคุณคะ” เธอถาม

“คุยกันก่อนไม่ได้หรือเข็ม” คราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนโยน

“อยากคุยอะไรล่ะคะ”

“คุณเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่เลิกกันครั้งล่าสุด ผมติดต่อคุณไม่ได้เลย ทำไมคุณถึงใจร้ายแบบนั้น”

“มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วนี่คะ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าค่ะนุ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”

“ผมขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษกับความเหลวไหลของตัวเอง ขอโทษที่ผมรักอิสระมากไปจนหลงลืมคุณ”

“ที่คุณลืมฉันเพราะฉันไม่สำคัญกับคุณ และถ้าเป็นแบบนั้น เราจะคบกันทำไมล่ะคะ ฉันปล่อยให้คุณไปตามทางที่คุณต้องการแล้ว คุณจะเอาอะไรอีก” เขมนิจถาม
การรักๆ เลิกๆ กันหลายครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะมือที่สามเหมือนหลายๆ คู่ แต่เพราะพิษณุรักอาชีพช่างภาพของเขาและชอบท่องเที่ยวเพื่อเก็บภาพประทับใจ ทำให้เขาละเลยแฟนสาว พอเขมนิจโกรธและบอกเลิก เขาก็เลิกเที่ยวและหันมาสนใจเธอ พอเธอหายโกรธเขาก็กลับไปทำตัวเหมือนเดิม จนหญิงสาวเหลืออดต้องหักดิบบอกเลิกและตัดขาดการติดต่อกับเขา

เธอหวังจะไม่เจอกับเขาอีก แต่ความหวังก็พังทลาย

“ผมแค่หลงลืมแต่ไม่เคยลืมคุณเลย คุณก็รู้ว่าผมชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป ถ้าคุณไปกับผม เราก็คงไม่ต้องเลิกกัน” เขาบอก ทำเอาเขมนิจไม่พอใจ

“คุณโทษว่าเป็นความผิดฉันที่เข้าไม่ถึงตัวตนของคุณหรือคะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เหมาะแล้วที่เราเลิกกัน”

“ไม่ใช่เข็ม ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น...แต่ช่างมันเถอะ เราอย่าคุยเรื่องในอดีตเลย ตอนนี้ผมเปลี่ยนตัวเองแล้ว ผมโตขึ้น เรียนรู้อะไรมากขึ้นแล้ว”

“ดีใจด้วยค่ะ” ฟังดูก็รู้ว่าเธอประชด

“เอาล่ะ ถึงเราเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ผมก็ขอให้เราสองคนคุยกันดีๆ ได้มั้ย คุณคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราสองคนเคยเป็นคนรักกันหรอกใช่ไหม”

“ค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณบอกใครว่าเรารู้จักกัน การทำงานของเราคงลำบากหากมีคนรู้”

“ผมยอมทำตามที่คุณต้องการก็ได้” เขารับปากง่ายๆ

“แลกกับอะไรคะ” เธอถามอย่างรู้ทัน ทำเอารอยยิ้มจากคนตัวสูงเปิดกว้าง

“แลกกับที่คุณเลิกทำหน้าบึ้งใส่ผม เราไม่จำเป็นต้องสนิทกันเหมือนเดิมก็ได้ แต่เป็นการทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง ผมรับรองว่าเมื่อก่อนคุณชอบผมยังไง ผมจะทำให้คุณชอบผมแบบนั้นอีกครั้งให้ได้”

เขมนิจนิ่งเงียบ สิ่งที่ต้องแลกเท่ากับเธอต้องให้เขาเข้ามาพัวพันอีกครั้งอย่างนั้นหรือ

“ถ้าคุณไม่ตกลง ผมจะบอกกับทุกคนว่าเราเคยเป็นคนรักกัน รักกันมากด้วย รักกันมาตั้งหลายปี” เขาบอก

“ไม่ อย่าพูดเรื่องนี้กับใคร ฉันไม่ชอบทำงานโดยมีสายตาสงสัยของใคร” เธอรีบบอก

“งั้นเรื่องของเราก็จะเป็น เราไม่เคยรู้จักกันแต่ผมกำลังอยากรู้จักคุณ” เขาเสนอ

“ถ้ามันไม่เร็วเกินไปจนเป็นที่น่าสงสัย ฉันก็ไม่มีปัญหา” เธอรับปาก ให้คนอื่นมองว่าเขากำลังตามจีบเธอ ดีกว่าให้รู้ว่าเขากำลังตามง้อขอคืนดี

“ได้ แล้วผมจะตามจีบคุณอีกครั้ง รับรองว่าคุณจะต้องติดใจ” เขากระซิบแล้วมองเธอตาเป็นประกาย ทำเอาเขมนิจถึงกับนิ่ง

ใช่...เธอเคยติดใจเขา แต่เขากลับติดใจการถ่ายภาพมากกว่า ทำให้ชีวิตรักต้องจบลง

“งานของคุณอยู่ไหนคะ ฉันต้องกลับเข้าออฟฟิศไปทำงานต่อ” เธอแบมือขอ พิษณุยักไหล่อย่างไม่ใช่ปัญหาก่อนยื่นซองน้ำตาลให้เธอ




อาทิตย์ต่อมา พิษณุมาหาเขมนิจที่บริษัท เพราะต้องเอางานมาให้เธอ ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองเจอกันทุกวัน เพราะพิษณุทยอยส่งภาพให้เธอทีละภาพสองภาพ บางวันไปหาเขาเพื่อรับงาน แต่เขากลับเล่นแง่ บอกว่างานยังไม่เรียบร้อย ให้มาเอาวันต่อไป หลายครั้งเข้า เธอก็ไม่ยอมไปหาเขาที่สตูดิโอ จนชายหนุ่มต้องเดินทางมาหาเธอที่บริษัทเอง

เขานั่งรอที่ล็อบบี้ด้านล่าง ไม่นานเขมนิจก็เดินเข้ามา

“ที่ทำงานคุณน่าอยู่ดีนะครับ” เขาชวนคุย

“ขอบคุณค่ะ รูปเสื้อคอลเลคชั่นใหม่ เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ”

“เจอกันไม่ทักทายสักคำ ถามแต่เรื่องงาน”

“เราตกลงกันแล้วนะคะว่าเราไม่รู้จักกัน เพราะฉะนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทักทายกันค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นออกไปดื่มกาแฟกันมั้ยครับ”

“คุณนุ!” เขมนิจเรียกเขาเสียงเคร่ง

“ไปในฐานะคนร่วมงานกันไงครับ และผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ด้วย ไปด้วยกันสิครับ”

“ขอโทษด้วยค่ะ แต่ฉันไม่สะดวก ยังมีงานอีกเยอะที่ต้องทำ ไว้เป็นโอกาสหน้าแล้วกันนะคะ” เธอปฏิเสธเสียงนิ่มแล้วยิ้มให้เขา “ของานของคุณด้วยค่ะ คุณธานีคงไม่ชอบแน่ๆ ที่คุณถ่วงเวลาแบบนี้” หญิงสาวยกลูกค้ามาอ้าง

“ผมถ่วงเวลาได้ตราบเท่าที่งานของผมเป็นที่พอใจของเขา”

“อย่ามัวแต่คุยเลยค่ะคุณนุ ฉันมีประชุมต่อ นี่ฉันก็โดดประชุมออกมาหาคุณนะคะ” เธอบอกเผื่อว่าเขาจะเห็นใจ

“รู้สึกดีจังครับ ที่ผมมีความสำคัญขนาดนั้น” เขาบอกยิ้มๆ

“ออกไปกับผมสิครับ แล้วผมจะเอางานให้คุณ ผมรู้ว่ารูปเซตนี้มีความสำคัญมาก ถ้าคุณได้ไปเร็วก็จะทำงานได้เร็ว รู้มาว่าเจ้านายของคุณธานีอยากเห็นสื่อตัวนี้มาก”

“คุณก็รู้อยู่แล้วยังจะมาถ่วงเวลาอีก” เธอต่อว่า

“ออกไปกับผมสิครับ แค่กาแฟแก้วเดียวก็ไปดื่มกับผมไม่ได้หรือครับ งานภาพถ่ายเป็นงานที่ต้องใช้ศิลปะ กาแฟก็คือศิลปะเหมือนกัน ผมชอบอยู่กับศิลปะครับ”

“ก็ได้ค่ะ ฉันไปกับคุณก็ได้” เขมนิจยอมแพ้

“ก็แค่นั้น...แต่ผมว่าเปลี่ยนจากกาแฟไปเป็นข้าวสักมื้อดีกว่านะครับ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว” เขาเอ่ยชวน ขณะที่เขมนิจทำหน้าเคร่ง

“ก็คุณไม่ยอมไปกับผมตั้งแต่แรก ถ่วงเวลาจนใกล้เที่ยงแบบนี้” เขาอ้าง ทำเอาเขมนิจต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามเขาไปเท่านั้น

ประตูลิฟต์ที่ทั้งสองเดินผ่านเปิดออก จิรายุทธและศศินาเดินออกมาพร้อมพนักงานคนอื่น

“คุณนุ” จิรายุทธเอ่ยทักแล้วเดินเข้าไปทักทาย “ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ลงมารับงานด้วยตัวเอง พอดีว่าผมติดประชุมกับทีมน่ะครับ”

“ครับ คุณเข็มแจ้งผมแล้วครับ นี่ก็กำลังจะไปทานข้าวกัน คุณยุทธล่ะครับ”

“ผมก็จะไปทานข้าวอยู่พอดีเลยครับ”

“ไปด้วยกันมั้ยคะ” ศศินาเอ่ยชวน

“ไม่รบกวนเวลาพี่นากับพี่ยุทธดีกว่าค่ะ”

“รบกวนอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น แต่พี่ว่าเข็มคงไม่อยากไปกินกับพี่เท่าไหร่หรอก” ศศินาพูดแล้วมองพิษณุยิ้มๆ ขณะที่ฝ่ายนั้นก็ยิ้มตอบและก้มศีรษะให้

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ไปก่อนครับคุณยุทธ” พิษณุเอ่ยลาแล้วก้มศีรษะให้ทั้งสองก่อนเดินออกจากอาคารไปพร้อมเขมนิจ




“ตอนแรกผมคิดว่าเราจะได้ไปกินข้าวกันแบบหมู่คณะซะอีก” พิษณุออกความเห็นระหว่างขับรถก่อนหันมายิ้มให้เธอ “หรือว่าจริงๆ แล้วคุณก็อยากไปกินข้าวกับผมแบบสองต่อสอง”

“อย่าสำคัญตัวผิดค่ะ ฉันไม่มีความต้องการแบบนั้นสักนิด” เธอตอบแบบไม่ถนอมน้ำใจ

“ฉันไม่อยากรบกวนเวลาของสามีภรรยาต่างหาก” เธอบอก

“เขาสองคนเป็นผัวเมียกันเหรอ ไม่เห็นสนิทกันเลย คิดว่าเป็นเพื่อนกันซะอีก”

“คุณจะให้เขาเกาะแขนโอบเอวกันหรือไง นี่มันที่ทำงานนะคะ”

“ถ้าเป็นผม ผมจะทำ” เขาบอกจริงจัง

“แต่นั่นคือหัวหน้าฉัน เขารู้จักกาลเทศะค่ะ” เธอพูด

“คุณอยากกินอะไรครับ” เขาเปลี่ยนเรื่อง

“แล้วแต่คุณเถอะค่ะ ฉันกินได้ทั้งนั้น” เธอบอกด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย พิษณุก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงซอยเล็กแห่งหนึ่งเขาก็เลี้ยวเข้าไป ก่อนหยุดหน้าร้านอาหารตกแต่งแบบทึบๆ ปกคลุมด้วยต้นไม้

เขมนิจหน้านิ่งไม่แสดงอาการใดๆ เธอไม่อยากเข้าไปเหยียบร้านนี้เลย และรู้สึกตัวเองคิดผิดถนัดเมื่อบอกว่าตามใจเขา เพราะพิษณุพาเธอมายังร้านอาหารเก่าที่เคยเป็นร้านโปรดของเธอ ร้านนี้เขาเป็นคนพาเธอมา และเธอก็เป็นคนเอ่ยปากว่าชอบบรรยากาศมาก จนเมื่อเลิกรากันไป เธอก็ไม่เคยผ่านมาแถวนี้อีก

บรรยากาศของร้านแห่งนี้ยังเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปคือความรู้สึกของเธอ จากที่เคยชอบก็กลายเป็นอึดอัด อาหารแสนอร่อยถูกปากก็กลายเป็นฝืดคอ และภาวนาให้มื้อนี้จบลงโดยเร็ว



เขมนิจเปิดประตูห้องพักของเธอแล้วเดินเข้ามาอย่างเหนื่อยๆ ในห้องของเธอเปิดไฟสว่าง หญิงสาวไม่มีอาการตกใจแต่กลับยิ้ม และรอยยิ้มของเธอก็เปิดมากกว่าเดิมเมื่อเห็นชายร่างสูงสง่าลุกจากโซฟาเพื่อยืนต้อนรับ เธอเดินเข้าไปหาและกอดเขาไว้

“เข็มกำลังคิดถึงพี่ยุทธอยู่พอดีเลยค่ะ นี่เข็มไม่ได้ฝันไปนะคะ” เธอถามแล้วซบใบหน้ากับแผงอกแข็งแรงของเขาจนรับรู้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นตุบๆ เป็นจังหวะ

“อยากรู้มั้ยว่าฝันอยู่หรือเปล่า ผมจะพิสูจน์ให้คุณรู้” เขาบอกเสียงนุ่มแล้วเชยคางเธอขึ้นก่อนจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากนุ่มส่งลิ้นร้อนเข้าไปพัวพันลิ้นเล็ก เขมนิจดูดลิ้นของเขาอย่างกระหายแล้วขบริมฝีปากเขาเล่น ทำเอาจิรายุทธครางลึกกับความร้อนแรงของเธอที่มีให้เขาเสมอ

มือเล็กลูบไล้ไปทั่วแขนล่ำและอกแกร่งก่อนปลดกระดุมเสื้อของเขาออกพร้อมกันนั้นก็ขยับไปชิดผนังแล้วดึงร่างสูงให้มาเบียดชิด เสื้อเชิ้ตของเธอถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยฝีมือของเขา

“คิดว่ายังเป็นความฝันอยู่มั้ย” เขาถามยิ้มๆ เมื่อเลื่อนปากออกก่อนละเลียดลำคอระหงของเธอและดูดเม้มจนเป็นรอยแดงจางๆ

“ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่ยุทธต้องพิสูจน์มากกว่านี้” เธอกระซิบเสียงพร่าแล้วโอบรอบคอเขาไว้ จิรายุทธหัวเราะในลำคออย่างถูกใจก่อนช้อนร่างบางขึ้นแล้วตรงไปยังเตียงนอน ทิ้งเสื้อเชิ้ตของเขากับเธอให้กองอยู่ตรงหน้าประตู

ร่างเล็กถูกวางบนเตียงนุ่มโดยมีร่างสูงสมส่วนทาบทับอยู่ด้านบน เขาเลื่อนมือไปปลดตะขอชั้นในเมื่อพุ่มดอกไม้อวบใหญ่เป็นอิสระ เขาก็ใช้ปากร้อนเข้าครอบครองทันทีและดูดกลืนด้วยความหิวกระหาย โดยมีเจ้าของอกนุ่มค่อยแอ่นป้อนด้วยความเต็มใจ เต้าใหญ่อีกข้างมีมือหนาคอยนวดเฟ้นจนเกิดริ้วแดง

“อืมมม แบบนั้นค่ะพี่ยุทธ อืมมม ดีจังค่ะ ดีจังเลย” เขมนิจบอกเสียงลอย มือของเธอปลดกางเกงของเขาด้วยความรีบร้อน

“ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีกว่านี้” เขากระซิบแล้วพรมจูบไปทั่วแก้มเนียน

“ค่ะ เข็มรออยู่ คิดถึงพี่ยุทธจะแย่อยู่แล้ว นานแค่ไหนแล้วคะที่พี่ยุทธไม่มาหาเข็ม ลืมเข็มไปแล้วหรือคะ” เธอถามเสียงอ้อน

“คุณอยากให้ผมทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” เขาถามพร้อมนวดเฟ้นอกอวบเธอไปด้วย ขณะที่เขมนิจมีสีหน้ารู้สึกผิด

“พี่ยุทธก็รู้ว่าเข็มไม่ได้ต้องการแบบนั้นจริงๆ แต่เข็ม...”

“เราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่า ผมจะชดเชยเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่หายไปให้คุณ” เขากระซิบและเม้มคางเธอเบาๆ

“ตั้งอาทิตย์หนึ่งเลยนะคะ คืนเดียวคงไม่พอหรอกค่ะ” เธอบอกด้วยตาเป็นประกาย

“เมื่อก่อนผมมาหาคุณเดือนละสองครั้ง คุณยังไม่เห็นว่าอะไรเลย” เขาถามล้อๆ

“แต่ช่วงหลังพี่ยุทธมาหาเข็มอาทิตย์ละสามวันนะคะ พี่ยุทธทำให้เข็มคิดถึง ต้องรับผิดชอบสิคะ” เธอกล่าวหา

ก็เพราะเขามาหาเธอบ่อยแบบนี้ไงเล่า ทำให้หญิงสาวทนไม่ได้ด้วยความรู้สึกผิดที่เพิ่มพูน ยิ่งเขาบอกว่าอยากเปลี่ยนเวลาสามวันให้กลายเป็นเจ็ดวัน ทำให้เธอต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม หนีไปพักใจต่างจังหวัด

แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย มีแต่จะทำให้เธอคิดถึงเขามากขึ้นไปอีก และทำให้เธอรู้ใจตัวเองมากขึ้นว่ารักเขามากแค่ไหน

“ผมยินดีรับผิดชอบ” เขาตอบแล้วเลื่อนตัวลงไปยังเต้าอวบของเธอ ลิ้นร้อนละเลียดกวาดป่ายยอดถันก่อนดูดเม้มแรงๆ เรียกเสียงครางหวานให้ดังขึ้น

“พรุ่งนี้หยุด พี่ยุทธอยู่กับเข็มนะคะ แล้ววันอาทิตย์ค่อยกลับ” เธอร้องขอ

“ไม่ได้หรอก” เขาบอกเสียงอู้อี้เพราะมีอกนุ่มอยู่เต็มปาก ทำเอามือเล็กของเขมนิจที่ลูบต้นคอเขาถึงกับชะงัก ชายหนุ่มดูดผลเชอร์รี่แรงๆ ส่งท้ายแล้วเลื่อนตัวขึ้น

“ไม่ได้ เพราะผมจะอยู่กับคุณจนถึงเช้าวันจันทร์ พรุ่งนี้นาเขานัดเพื่อนๆ มาที่บ้านกว่าจะกลับก็เย็นวันอาทิตย์ ผมเลยบอกว่าจะไปนอนบ้านใหม่ยาวจนถึงวันจันทร์...คุณจะให้ผมอยู่อีกหนึ่งคืนได้มั้ย” เขาถามอ้อน ทำเอาเขมนิจยิ้มปลื้มดีใจแล้วจูบเขาที่แก้มสาก

“เข็มให้พี่ยุทธอยู่ก็ได้ แต่พี่ยุทธจะตอบแทนเข็มยังไงคะ” เธอกระซิบถาม

“คุณพร้อมหรือยังล่ะ ผมกำลังจะตอบแทนคุณตั้งแต่ตอนนี้ คุณอย่าเพิ่งเหนื่อยก่อนแล้วกัน” เขาบอกแล้วเลื่อนตัวลงไปยังกลางลำตัวแล้วดึงชั้นในชิ้นเล็กออกให้พ้นสะโพกมน โดยได้รับความร่วมมือจากเขมนิจ เมื่อร่างบางเปลือยเปล่า เขาก็ใช้มือใหญ่ช้อนสะโพกของเธอขึ้นก่อนซุกซบใบหน้ายังเนินเนื้อที่มีไรขนปกคลุม

“อาาาาา อืมมมมม พี่ยุทธ โอวววว” หญิงสาวครางแผ่ว เธอจิกขาบนที่เตียงแล้วเกร็งตัว มือเล็กกดศีรษะเขาให้แนบกับเนื้อนุ่มมากขึ้น

ลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้าไปในโพรงนุ่มพร้อมนิ้วแกร่งที่บีบบดจุดกระสันของเธอไปด้วย ทำเอาร่างบางถึงกับสั่นและบิดด้วยความเสียววูบ

“อาาาา พี่ยุทธ พี่ยุทธขา โอ๊ะ โอววว ซี๊ดดดดด แบบนั้นค่ะ อีกค่ะ อีกนิดค่ะ โอววว อาาาาาา” เธอครางแล้วแยกขาให้กว้างกว่าเดิม เพื่อให้เขาซุกซบอย่างถนัด น้ำหวานกลิ่นหอมล้นทะลักจากลิ้นร้อนที่สอดทะลวงรัวเร็วไม่หยุด

ซ้วบๆๆๆ

เสียงดูดกินน้ำหวานดังไปทั่วห้องผสานไปกับเสียงครางของเขมนิจที่ดังไม่หยุด เธอยกสะโพกสลับถอยหนี ด้านในโพรงอ่อนตอดรัดลิ้นของเขาเรื่อยๆ

“ซี๊ดดดดดด อาาาาา ไม่ไหวแล้วค่ะพี่ยุทธ เข็มไม่ไหวแล้ว โอยยย โอยยย อ๊าาาาาา” เขมนิจหอบหนักเหมือนคนวิ่งทางไกล ช่องท้องของเธอหดเกร็งและเหมือนมีพายุลูกใหญ่ เธอทิ้งสะโพกลงบนที่เตียงอย่างหมดแรง ขณะที่จิรายุทธยังคงฝังใบหน้ายังเนินเนื้อของเธอ เขาดูดกลืนและกวาดเลียน้ำหวานไม่ให้เหลือสักหยด เมื่อเรียบร้อยก็เลื่อนตัวขึ้นมาประกบปากกับเธอ

“ค่าตอบแทนยังไม่หมดแค่นี้นะ” เขาบอกแล้วใช้เข่าดันเรียวขาของเธอให้อ้าออก เขมนิจยิ้มยั่ว เธอแอ่นอกถูไถก้อนเนื้อเต่งตึงกับแผงอกของเขา แขนเรียวโอบกระชับรอบเอวหนาแล้วกดน้อยๆ คล้ายเร่งเร้า

“เข็มรออยู่ค่ะ ต้องให้ถึงใจนะคะ ไม่งั้นเข็มไม่ยอมจริงๆ ด้วย” เธอบอกเสียงสั่นพร่าแสดงถึงความปรารถนา จิรายุทธยิ้มแล้วจูบเธอหนักๆ อีกครั้ง ลิ้นต่อลิ้นเกี่ยวกระหวัด ที่ด้านล่าง เขาค่อยๆ ดันกายใหญ่เข้าไปในโพรงถ้ำ

ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเนิบช้าไม่รีบร้อน จนเข้าไปได้ครึ่งโคน เขาก็ถอยตัวออกและดันกลับเข้าไปใหม่ คราวนี้ลึกกว่าเดิมพร้อมเสียงของเขมนิจที่ครางเร่งไม่หยุด ทำให้เขาต้องเพิ่มความเร็วจนร่างบางถึงกับสั่นคลอน เธอร้องเป็นจังหวะรับการขยับเข้าออกของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังผลั่บๆ ประสานไปกับเสียงครางของคนทั้งสองที่ดังไปตลอดทั้งคืนเพื่อให้สมกับความคิดถึงที่อัดแน่นมาเกือบสัปดาห์


..............................................................


ใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ สามารถโหลดฉบับมาอ่านกันได้นะคะ




หรือจะโหลดแบบเป็นชุดก็ได้ โหลด -->>  Set รัก-ต้อง-ห้าม







Create Date : 09 สิงหาคม 2558
Last Update : 9 สิงหาคม 2558 13:19:05 น. 0 comments
Counter : 1041 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com