นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 สิงหาคม 2558
 

[รักซ่อนใจ] 2 : แฟนเก่า



ตอนที่ 2

แฟนเก่า


“งานนี้ลูกค้าของเราชอบมาก เขาบอกว่างานชิ้นหน้าจะให้พวกเราทำการตลาดให้อีก” จิรายุทธบอกลูกน้องระหว่างที่กำลังประชุมปิดงานเก่า

“ถ้าเราได้งานทุกตัวจากบริษัทของเขาล่ะก็ สิ้นปีนี้โบนัสบานแน่ๆ” นิสาบอกด้วยท่าทางมาดมั่น

“อาจมีสิทธิ์ไปเป็นได้นะ เขาชอบพวกเรามาก บอกว่าไม่เหมือนการตลาดที่เคยทำ รายนั้นขอเปลี่ยนข้อมูลนิดหน่อยก็ทำหน้าเบื่อ ไม่เหมือนของเรา ขนาดส่งงานให้ช้า เรายังทำเสร็จก่อนกำหนด” แทนไทบอก

“แบบนั้นมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ พวกเราต้องเป็นหมีแพนด้าไปตั้งเป็นอาทิตย์” เขมนิจบอก “ได้โบนัสมาก็ไม่รู้จะคุ้มกับที่เสียเงินรักษาถุงใต้ตาหรือเปล่า”

“สวยๆ อย่างเข็ม ต่อให้หมีแพนด้าสิบตัวรวมกันก็ยังสวย” นิสาชม

“ใช่ๆ” แทนไทเห็นด้วยและส่งยิ้มให้เธอ ขณะที่เขมนิจเพียงยิ้มตอบและไม่พูดอะไร โดยมีสายตาของจิรายุทธลอบมอง

“กลับมาที่งานต่อ” เขาบอก “ถึงงานนี้จะปิดแล้ว แต่เราก็ยังมีงานใหม่รออยู่ โดยเฉพาะบริษัทใหม่ที่เราต้องทำให้เขาประทับใจให้ได้ ตอนนี้ลูกค้าส่งรายละเอียดมาแล้ว วันนี้บ่ายๆ ผมจะไปพบพวกเขา คุณไปกับผมด้วยนะเข็ม” ท้ายประโยคเขาหันไปพูดกับเขมนิจ

“ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำ

“เอาละ ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว ยังไงอย่าลืมศึกษาข้อมูลของบริษัทใหม่กันนะครับ โดยเฉพาะเข็ม ผมอยากให้คุณรู้ข้อมูลของลูกค้าเยอะหน่อย เขาจะได้ประทับใจในการประชุมกันครั้งแรก”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำอีกครั้ง ก่อนเพื่อนร่วมงานจะทยอยออกจากห้องประชุมเล็ก ระหว่างนั้น สาวใหญ่ร่างผอมสมส่วนก็เดินตรงเข้ามา

“อ้าว พี่นา” นิสาทัก

“ประชุมเสร็จหรือยัง” ศศินาถาม

“เพิ่งเสร็จเลยค่ะ” เธอบอก

“ดีจัง พี่กำลังจะมาดูพอดีว่าห้องว่างหรือเปล่า”

“คิดว่าพี่นาจะมาชวนพี่ยุทธไปกินข้าวซะอีก” เขมนิจถามยิ้มๆ

“ก็อยากมาชวนเหมือนกันแต่เขาคงไม่ว่างไปกินกับพี่หรอก ช่วงนี้เห็นเขายุ่งๆ อยู่ ไม่รู้ว่าไปติดพันใครที่ไหนหรือเปล่า” ศศินาพูดยิ้มๆ และมองสามีที่อยู่ด้านหลังลูกน้อง

“หนิงรู้ค่ะ” นิสาพูดเสียงจริงใจ ขณะที่เขมนิจเสียววาบ มือเธอเย็นกะทันหันจนต้องกำไว้และซุกในเสื้อสูท

“ตอนนี้พี่ยุทธกำลังติดพันบริษัทเสื้อแห่งหนึ่ง งานนี้พวกเราจริงจังมากเลยนะคะ ต้องทำให้เขาประทับใจงานของเราให้ได้ค่ะ”

“มิน่าถึงได้ลืมพี่ไปเลย” ศศินาพูดแล้วหัวเราะน้อยๆ แทนไทกับชาญชัยหัวเราะก่อนเดินแยกไป โดยมีนิสาเดินตามไปด้วย

“เธอต้องช่วยพี่ดูหน่อยแล้วนะเข็ม เพราะนอกจากบริษัทเสื้อแล้ว ตอนนี้เขาก็กำลังติดพันบ้านเล็กบ้านน้อยด้วย” ศศินาหันไปพูดกับเขมนิจ ทำเอาหญิงสาวถึงกับหน้าเสีย

“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดและมองหัวหน้าที่แสนดีในแง่ร้าย พี่หมายถึงเขากำลังเห่อบ้านใหม่น่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าไปนอนบ้านใหม่หรือว่าไปนอนบ้านใครกันแน่ เราออกไปข้างนอกกับเขาบ่อยๆ ยังไงพี่ฝากดูด้วยนะ” ศศินาบอกด้วยรอยยิ้ม ส่วนเขมนิจหัวเราะน้อยๆ พยายามมองให้เป็นเรื่องขำขัน ทั้งที่ในใจขำไม่ออก

ศศินาต้องการสื่ออะไรหรือเปล่า?

เธอกำลังส่งสัญญาณบางอย่างหรือเปล่า?

เธอระแคะระคายเรื่องความสนิทที่เป็นมากกว่าหัวหน้ากับลูกน้องหรือเปล่า?

...เพียงแค่คิด เขมนิจก็ใจสั่น ขนกายลุกชัน

“คุณว่างมั้ย ไปกินข้าวกันหน่อยนะ” จิรายุทธชวนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์

“เอาสิคะ ตอนนี้ฉันว่างอยู่ แต่เดี๋ยวขอไปบอกอ้อยก่อนว่าฉันขอจองห้องประชุมเล็กช่วงบ่าย...ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยเข็ม” ศศินชวน

“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ เชิญพี่ยุทธกับพี่นาเลยค่ะ” เขมนิจยิ้มจืดแล้วผายมือให้ทั้งสอง

“ไม่เป็นไร ไปด้วยกันสิ คนกันเองทั้งนั้น”

“เข็มนัดเพื่อนไว้แล้วค่ะ” เธอปฏิเสธอีก ไม่รู้คิดไปอีกหรือเปล่าว่าศศินาตั้งใจชวนเธอเป็นพิเศษ และเหมือนเป็นการลองใจอย่างไรอย่างนั้น

หรือบางที...เธออาจคิดไปเอง

“อย่าลืมว่าเรามีนัดไปหาลูกค้าตอนบ่ายสองนะเข็ม” จิรายุทธเตือนลูกน้อง น้ำเสียงของเขาราบเรียบเป็นปกติ

“ค่ะ เข็มไม่ลืมค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” รับคำจบเธอก็รีบเดินออกจากการสนทนาทันที




จิรายุทธและลูกน้องของเขาเดินเข้ามาในอาคารสูงแห่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทลูกค้าที่พวกเขาจะมาคุยงานกันในวันนี้ สีหน้าของเขมนิจไม่ค่อยสู้ดีนักและถอนใจเป็นพักๆ

“เข็มรู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะพี่ยุทธ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงอึดอัด

“เพราะเรื่องที่นาพูดกับคุณหรือ” เขาถาม

“ใช่ค่ะ พี่นากำลังสื่ออะไรหรือเปล่าคะ เขาระแวงเรื่องของเราหรือคะ”

“ไม่มีอะไรหรอก คุณก็รู้ว่าเขาชอบพูดแบบนี้ คุณกับเขาสนิทกันนี่”

“ก็เพราะสนิทกันนี่แหละค่ะ ที่ทำให้เข็มรู้สึกไม่สบายใจและลำบากใจทุกครั้งที่เห็นหน้าพี่นา”

“ไม่เอาน่าเข็ม เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ เมื่อตอนเที่ยงผมก็ถามเขาแล้ว เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่แซวเล่นเท่านั้น ท่าทางของเขาก็ยังเหมือนเดิม เชื่อผมเถอะ ผมอยู่กับเขามาเป็นสิบปี ถ้ามีพิรุธผมต้องเห็นอยู่แล้ว”

“แต่เข็มก็ไม่สบายใจอยู่ดี เข็มอยากหยุดเรื่องของเราค่ะ” เธอบอกขณะเดินเข้าลิฟต์ ซึ่งด้านในมีแค่พวกเขาสองคน จิรายุทธกดหมายเลขบนแผงแล้วยิ้มให้เธอ

“คุณอยากให้เป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ” เขาถามเสียงอ่อนโยน เขมนิจถอนใจอย่างตัดสินใจไม่ถูกและเงียบไป

“นับตั้งแต่วันนี้ ผมจะไม่ไปหาคุณอีก ถ้ามันทำให้คุณสบายใจ”

“ไม่ค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธแล้วขยับเข้าใกล้เขา “อย่าเพิ่งนะคะ ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป เข็มยังไม่พร้อม” เธอบอกเสียงอ้อนพร้อมเหลือบไปมองตัวเลขด้านบน ซึ่งอีกหลายชั้นกว่าจะถึง

“เข็มขอโทษค่ะ ลืมมันไปนะคะ” เธอกระซิบแล้วเขย่งตัวจูบเขาที่ปากเพื่อเป็นการขอโทษก่อนผละออก

“ผมไม่ยกโทษให้ จนกว่าจะได้ทำโทษคุณคืนนี้” เขาบอกยิ้มๆ

“อย่าเลยค่ะ พี่ยุทธมาค้างกับเข็มสองวันแล้ว บางทีที่พี่นามาพูดวันนี้ อาจต้องการสื่ออะไรก็ได้ พี่ยุทธกลับบ้านดีกว่าค่ะ” เธอขอ

“ก็ได้ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจ” เขาตอบก่อนการสนทนาจะหยุดลงเมื่อลิฟต์เปิดออกยังชั้นที่ต้องการ




ประตูของห้องประชุมเล็กเปิดออกโดยหญิงสาวคนหนึ่ง เธอผายมือให้แขกเข้ามา ด้านในนั้นมีบุคคลนั่งอยู่สามคน สองคนใส่สูทเรียบร้อย ส่วนอีกหนึ่งคนสวมเสื้อยืดสวมทับด้วยแจ็กเกตสีเข้ม เขากำลังง่วนอยู่กับกล้องถ่ายรูปที่มีสายเสียบกับโน้ตบุ๊ก

“คุณจิรายุทธกับคุณเขมนิจค่ะ” เลขาสาวแนะนำ ขณะที่คนในห้องยืนขึ้นต้อนรับ โดยเฉพาะชายหนุ่มคนที่ง่วนอยู่กับกล้อง เขาเงยหน้าทันทีเมื่อได้ยินชื่อเขมนิจ

“สวัสดีครับ” จิรายุทธเอ่ยทักและยิ้มให้ทุกคนเช่นเดียวกับลูกน้องของเขา ก่อนเธอจะชะงักเมื่อเห็นคนที่ถือกล้องมองจ้องตรงมาที่เธอตาไม่กะพริบ

ใจของเขมนิจตกวูบไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอ

เธอพยายามหนีเขาแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยพ้น

“นุ” หญิงสาวเปรยเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน และเธอยังเห็นปากของเขาขมุบขมิบคล้ายเรียกชื่อเธอแบบไม่แปร่งเสียง

“เชิญนั่งก่อนครับ” ชายใส่ชุดสูทผายมือ ทั้งสองก้มศีรษะรับและนั่งฝั่งตรงข้าม

“ผมขอแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ นี่คือคุณธานี เป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารครับ และนั่นคือคุณพิษณุ ช่างภาพของเรา และนี่คือคุณจิรายุทธ นักการตลาดที่จะมาพัฒนาแบรนด์เสื้อของเราครับ” ชายในชุดสูทสวมแว่นนามจารึกแนะนำ

“ยินดีที่ได้เจอกันวันนี้ครับ” จิรายุทธยิ้ม

“ยินดีที่ได้เจอกันซะทีครับ” พิษณุเอ่ย สายตาของเขายังไม่ละไปจากใบหน้าหวานของเขมนิจ ขณะที่หญิงสาวเขม่นมองและส่ายหน้าเล็กน้อย คล้ายไม่ต้องการให้เขาแสดงออกว่ารู้จักกับเธอ

เธอพยายามหนีและเลิกติดต่อเขาทุกวิถีทางแต่ไม่น่าเชื่อว่าจู่ๆ เธอก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเขา แถมยังต้องร่วมงานกันอีก

เมื่อไหร่เธอจะหนีเขา...แฟนเก่าคนนี้ได้เสียที!

“ถ้าคุณยุทธมีอะไรเพิ่มเติมหรือสงสัยก็ถามคุณธานีได้เลยนะครับ คุณธานีจะเป็นคนที่รู้รายละเอียดของเนื้องานทั้งหมด” จารึกบอก

“รายละเอียดที่ทางคุณธานีส่งให้ผมถือว่าครบถ้วนมากเลยครับ วันนี้ผมคิดสโลแกนคร่าวๆ มาให้ทางคุณเสนอผู้ใหญ่ด้วย ยังไงลองดูก่อนนะครับ” จิรายุทธเข้าเรื่อง โดยมีเขมนิจเป็นคนคอยส่งข้อมูลและจดรายละเอียดที่สำคัญๆ ไว้ เธอนั่งเงียบและพยายามไม่มองช่างภาพคนนั้น แม้ว่าจะถูกจับตามองแบบไม่วางตาก็ตาม และถึงจะรู้สึกอึดอัดแต่เธอก็โล่งใจไม่น้อยที่เขารับรู้สัญญาณที่เธอส่งให้ การไม่แสดงตัวของเขา ทำให้เธอสบายใจ แต่ก็เป็นความสบายใจเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความอึดอัดใจที่มี




จิรายุทธเดินเข้ามาในบ้านเดี่ยวขนาดเกือบร้อยตารางวาด้วยท่าทางเหนื่อยๆ การพูดคุยกับลูกค้าใหม่ในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นและเป็นกันเอง ลูกค้าชอบงานที่เขานำเสนอ ขณะเดียวกันเขาก็ชื่นชอบภาพถ่ายของพิษณุไม่น้อย ชายหนุ่มคนนั้นพูดน้อยดูถ่อมตัว และเขาเห็นว่าสายตาของช่างภาพคนนั้นคอยลอบมองลูกน้องคนสวยของเขาไม่วางตา เขามีความรู้สึกแปลกๆ กับสายตาคู่นั้น แต่ก็พยายามปัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป เขมนิจเป็นคนสวย ยิ้มแย้ม คล่องแคล่ว ไม่แปลกที่เพศตรงข้ามจะสนใจ

“วันนี้แปลกที่คุณกลับบ้าน” ศศินาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงขำขันเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น ขณะที่สามีเดินเลี่ยงไปรินน้ำมาดื่ม

“ไม่ไปนอนบ้านเล็กบ้านน้อยของคุณแล้วหรือคะ”

“นา” จิรายุทธเรียกภรรยาเสียงเรียบ

“ขอโทษค่ะ ฉันหมายถึงบ้านใหม่ที่คุณเห่อนักหนา” เธอบอกด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม

“ตกแต่งไปถึงไหนแล้วคะ ฉันไม่ได้แวะไปดูหลายเดือนแล้ว”

“ยังทำอยู่เรื่อยๆ ผมไม่รีบร้อน” เขาบอก บ้านหลังนั้นเป็นความตั้งใจของเขาที่อยากซื้อเก็บไว้เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน ทุกส่วนทุกมุมของบ้านเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของเขา โดยไม่ผ่านการกู้ยืมธนาคาร ทำให้บ้านเสร็จช้ากว่าปกติหลายเท่า

“คุณจะแวะไปดูก็ได้นะ เผื่อว่าคุณอยากเสนอไอเดีย”

“ไม่ล่ะคะ ฉันชอบอยู่บ้านนี้มากกว่า หลังนั้นเป็นแค่ทาวน์เฮ้าส์ เล็ก อึดอัด ฉันหายใจไม่ออก และคงต้อนรับเพื่อนฉันไม่ได้” เธอบอก และไม่เคยขัดเมื่อจิรายุทธอยากได้บ้านหลังใหม่เป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็กกว่าที่นี่เกือบครึ่ง เขาให้เหตุผลว่า อยู่กันแค่สองคน จึงไม่อยากอยู่บ้านหลังใหญ่ยากต่อการเก็บกวาด ผิดกับเธอที่ชอบบ้านหลังใหญ่โอ่อ่า

ที่สำคัญคือ เธอเป็นคนติดเพื่อนและมักจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ในช่วงวันหยุด โดยกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อนคือการเล่นไพ่ ซึ่งเงินก็ไม่เยอะแยะเพราะเล่นเพื่อความสนุก ไม่ได้หวังร่ำรวย

นี่คงเป็นสาเหตุจริงๆ ที่เขาเลือกมีบ้านหลังใหม่ขนาดเล็ก เขาชอบอยู่เงียบๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบสังสรรค์ ไม่ชอบเล่นการพนัน และที่เธอยอมให้เขาไปนอนบ้านใหม่อาทิตย์ละหลายๆ วันเพราะเธอจะได้สะดวกในการนัดเพื่อนๆ มาที่นี่

“วันนี้เพื่อนคุณไม่มาที่บ้านเหรอ หรือยังไม่ถึงเวลา” เขาถามและมองนาฬิกาข้อมือ ซึ่งแสดงเวลาทุ่มกว่า

“วันนี้งดค่ะ เพราะวันไปเที่ยวเกาหลี อาทิตย์หน้าถึงจะกลับ ช่วงนี้คุณจะอยู่บ้านก็ได้นะคะ ฉันไม่ว่า”

“ดีเลย ผมกับคุณจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง ขนาดว่าเราเจอกันทุกวัน แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย”

“คุณอยากคุณอะไรล่ะคะ” เธอถามขณะที่สายตามองไปยังโทรทัศน์ตรงหน้า “ฉันเพิ่งได้แผ่นซีรีย์เกาหลีมาใหม่ คุณจะดูกับฉันมั้ย เด็กในแผนกฉันน่ะ เชียร์เรื่องนี้มากเลยนะคะ บอกว่าสนุกตื่นเต้น เขาดูจนไม่ได้นอนไปสองคืนเลยค่ะกว่าจะจบ”

“คุณอย่าดูแบบนั้นแล้วกัน เดี๋ยวจะตื่นไปทำงานไม่ไหว”

“ฉันไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานหรอกค่ะ นี่ก็กะว่าจะดูถึงห้าทุ่มก็จะนอนแล้ว”

“คุณจะนั่งดูตลอดเลยเหรอ ทั้งที่ผมอยู่ตรงนี้” เขาถามเสียงเรียบ ภรรยาเขาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เคยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเลย ยิ่งเรื่องเอาอกเอาใจยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอไม่เคยใส่ใจ

โดยเฉพาะเรื่องความสุขแบบสามีภรรยาที่พึงมีร่วมกัน มันหายไปเกือบห้าปีแล้ว

“คุณก็มานั่งดูกับฉันสิคะ คุณอยากคุยอะไรก็คุยมา แต่คุณก็ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องงานอยู่แล้วนี่คะ ลูกน้องของคุณก็ทำงานเก่ง เข้ากับคุณได้ทุกคน หรือว่าใครมีปัญหาคะ”

“ไม่มีหรอก”

“นั่นไงคะ ปัญหาเรื่องงานของคุณก็ไม่มี ชีวิตคู่ของเราก็ปกติ ไม่เห็นมีอะไรต้องคุยกันเลย มาค่ะ มาดูซีรีย์กันดีกว่า” เธอขยับตัวและดึงหมอนอิงออกเพื่อให้เขานั่งข้างๆ

“ไม่ล่ะ ผมจะอาบน้ำและนอนเลย ผมไปนอนห้องเล็กนะ”

“แล้วแต่ค่ะ ก็ดีเหมือนกัน ฉันเข้านอนดึกๆ จะได้ไม่กวนคุณ” เธอเห็นดีด้วยและไม่ขัดข้องสักนิดที่เขาขอแยกห้องนอน

จิรายุทธถอนใจเบาๆ อย่างเหนื่อยใจ ทำงานว่าเหนื่อยแล้ว กลับมาเจอภรรยาแบบนี้ ทำให้เขายิ่งเหนื่อยเป็นหลายเท่า พร้อมความคิดถึงเขมนิจที่เพิ่มพูน ที่ถ้าไม่ติดว่ารับปากไปแล้วว่าจะกลับมานอนบ้าน เขาคงเผ่นไปให้เธอดูแลแล้ว และเขาเชื่อว่าหญิงสาวคนนั้นต้องดูแลเขาอย่างดีที่สุดยิ่งกว่าภรรยาเสียที

ทั้งสองต่างกันราวฟ้ากับเหว

หากเป็นนิสัย เขมนิจคือฟ้า

แต่สำหรับความผิดชอบชั่วดี เธอก็คือเหวดีๆ นี่เอง

น่าแปลกที่เขาอยากไปยืนใกล้ปากเหวมากกว่าเพราะเชื่อว่าที่ตรงนั้นจะพาเขาไปยังขอบฟ้าที่ต้องการได้



....................................


ใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ สามารถโหลดฉบับมาอ่านกันได้นะคะ




หรือจะโหลดแบบเป็นชุดก็ได้ โหลด -->>  Set รัก-ต้อง-ห้าม






Create Date : 08 สิงหาคม 2558
Last Update : 8 สิงหาคม 2558 15:39:25 น. 0 comments
Counter : 978 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com