"There Is Only One Happiness In This Life, To Love And Be Loved"
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
31 กรกฏาคม 2550

"มหัศจรรย์ภาษาจีน"

    ภาษาจีน เป็นภาษาที่ถูกใช้กันมานานมาก ในขณะที่ภาษาอียิปต์โบราณได้ชื่อว่าเป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุประมาณ 6,000 ปี แต่ตายไปนานแล้ว ไม่มีใครใช้ และไม่มีใครอ่านออก
    ภาษาจีนไม่เก่าแก่เท่า แต่มีอายุกว่า 4,000 ปีแล้ว ภาษาจีนยังคงถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีคนใช้ภาษาจีนมากที่สุดในโลก
    ก็เป็นเรื่องแปลกที่กว่า 4,000 ปีที่ผ่านมา ภาษาจีนได้ผ่านยุคสมัยของการพัฒนา การทำลายล้าง การผลัดแผ่นดิน การแตกแยก การถูกปกครองโดยชนต่างชาติไม่ว่าจะเป็นพวกฮวน พวกมองโกล หรือฝรั่งมังค่าที่เคยเข้าไปมีอิทธิพลมากมาย
    แต่ก็ไม่มีชาติใดเลยที่จะกลืน ล้มล้าง หรือลบล้างถวามเป็นจีนและภาษาจีนได้
โดยเฉพาะญี่ปุ่นและเกาหลี ที่ได้นำภาษาจีนไปใช้ในภาษาของตนมานานนับพันปี ทุกวันนี้ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีต่างก็พยายามสร้างอักษรภาษาของตนขึ้นมา แต่ก็ยังไม่สามารถทิ้งร้างภาษาจีนได้
    อักษรจีนมีวิวัฒนาการโดยกำเนิดจากการขีดหรือแกะสลักไว้บนกระดอง กระดูก และแผ่นหิน ให้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อการสื่อสาร จีนเป็นชาติแรกที่คิดเขียนหนังสือบนแผ่นไม่ไผ่ ซึ่งมีมากทั่วไปในปรเทศ โดยตัดไม่ไผ่เป็นแผ่นๆ เจาะรูร้อยเชือก แล้วพับไปพับมา
    ต่อมาก็มีความก้าวหน้าขึ้น เป็นการเขียนหนังสือบนผ้าแพรไหม โดยคนจีนคิดประดิษฐ์พู่กันขึ้นมาได้ ใช้ดินหม้อละลายเป็นน้ำหมึก ผสมกับกาวที่ทำจากเอ็นสัตว์ เพื่อจับหมึกให้เกาะกันติดและเกาะพื้นได้อยู่ตัว
    จากนั้นจีนก็คิดทำกระดาษขึ้นมา จากกระดาษก็คิดได้เทคนิคการพิมพ์ด้วยการเอากระดาษทาบบนแผ้นหินที่ขีดเขียนตัวหนังสือไว้
    การคิดได้เครื่องมือเพื่อการเขียนอักษรของจีน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้หนังสือจีนสามารถแพร่หลายไปในทุกท้องที่ให้มีการใช้เป็นมาตรฐานหนึ่งเดียว ในขณะที่ภาษาพูดของจีนมีหลากหลายสำเนียง จนพูดกันไม่รู้เรื่อง
    อย่างไรก็ตาม มาตรฐานตัวหนังสือจีนมีตำนานที่มาบนความทุกข์และน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน ที่ทมิฬพอๆกับพฤษภาทมิฬ แต่คนรุ่นหลังล้วนต้องยอมรับและสรรเสริญในการกระทำ
    เรื่องนี้มีจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีนว่า เป็นผลงานของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิผู้สร้างกำแพงเมืองจีนนั่นเอง
    เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงรวบรวมประเทศจีนได้เป็นปึกแผ่นได้ทรงพระราชดำริให้ทั้งประเทศมีมาตรฐานด้านภาษาเขียนตลอดจนมาตราชั่ง ตวง วัด ให้เป็นอย่างเดียวเหมือนกันหมด ทรงให้นายอาลักษณ์ประจำราชสำนักทำการคิดตัวอักษรขึ้นมา
    ประเทศจีนในช่วงนั้น เป็นยุคที่วิทยาการต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่การที่ประเทศจีนถูกแบ้งแยกเป็นก๊กเป็นก๊วนมานานนับร้อยปี แต่ละก๊กต่างก็มีบรรดานักคิด นักวิชาการของตน ที่มีชื่อเสียงจนถึงรุ่นหลัง คือ ขงจื๊อ เหลาจื๊อ และยังมีอีกสาพัดจื๊อ แต่ไม่ดังเท่า 2 จื๊อแรก
    เพื่อให้พระราชดำริของจักรพรรดิจิ๋นซีบรรลุเป้าหมายจึงมีพระบรมราชโองการสั่งจับบรรดานักวิชาการหรือจื๊อต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ก๊กไหน ก๊วนไหน และฝังทั้งเป็น พร้อมบรรดาสรรพวิชาทั้งหมดทั้งมวลที่จื๊อทั้งหลายได้เขียนไว้เพื่อให้ตัวอักษรจีนที่แต่ละก๊กใช้อยู่สูญสลายถูกทำลายไป
    แล้วให้ทุกท้องที่ใช้ตัวหนังสือจีนที่คิดขึ้นใหม่ จะได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
    ตรงนี้จึงมีอีกหนึ่งตำนาน เนื่องจากลูกหลานของขงจื๊อได้พากันซุกซ่อนตำราและแนวความคิดต่างๆ ของขงจื๊อไว้ในกำแพงฉาบปูนโบกทับอย่างดี จึงรอดพ้นสายตาของทหารที่บุกค้นและทำลาย
    ปัจจุบันนี้มีการบูรณะตำหนักขงจื๊อให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่นี่มีกำแพงที่ถูกรักษาไว้เป็นปูชนียวัตถุมีชื่อว่า "กำแพงซุกหนังสือ"
    เช่นเดียวกับคำสอนของขงจื๊อก็ได้แพร่หลายมืบมา จนมีคำยกย่องให้เป็น "ลัทธิขงจื๊อ" ในปัจจุบัน

ขอบคุณ บทความดีๆ จาก หนังสือ ตึ่งหนั่งเกี้ย ของคุณ จิตรา ก่อนันทเกียรติค่ะ


Create Date : 31 กรกฎาคม 2550
Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 19:29:48 น. 3 comments
Counter : 987 Pageviews.  

 


โดย: 10 IP: 58.64.108.88 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:47:36 น.  

 
ตามมาอ่านเอาความรู้ด้วยคน
(หมู่นี้สมองเบาๆไปนิด ต้องอัดสาระมากๆจะได้หนักๆหน่อย)


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:01:34 น.  

 
อยากให้ลูกเรียนภาษาจีนเหมือนกันค่ะ
อีกหน่อยก็จะเป็นภาษาที่สำคัญมากพอๆกับภาษาอังกฤษ


โดย: คุณนายไปรษณีย์ (mrs.postman ) วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:21:49:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khunyingka
Location :
สมุทรสาคร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Emo น้องลิง
Emo น้องเพนกวิน
X
X
[Add khunyingka's blog to your web]