เมื่อเป็นเช่นนี้เพลงที่นำมาใช้ จึงเป็นผลงานในช่วงครึ่งหลังสี่เต่าทองของ John Lennon ซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น Across the universe, All You Need is Love, Strawberry fields forever, I am a Warlas, Revolution, I want you (she's so heavy),A day in my life ซึ่งบางเพลงก็ฟังยาก (จอห์นและพอล แต่งเพลงร่วมกันในยุคแรก ต่อมาแยกกันแต่ง จอห์นได้รับอิทธิพลหลายด้าน เพลงในยุคต่อมาจะมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และมีเนื้อหาหลากหลาย ขณะที่เพลงของพอลส่วนใหญ่ยังเป็นเพลงรักๆ ใคร่ๆ แต่พอลก็มีความสามารถทางด้านดนตรีและทำเพลงเพราะ) ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะนำมาเรียงร้อยเป็นเนื้อหาของหนังได้ดีแบบนี้ เจ๋งมาก ความไพเราะอาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ สีสรรของหนังก็ออกแนวอาร์ต สีฉูดฉาดสวยดี ในต่างประเทศเคยมีละครเพลงเรื่อง Lennon นำเสนอเพลงของจอห์น ช่วงสี่เต่าทองแตกไปแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
It won't be long ช่วงแรกๆ มีเพลงหวานแหววอย่าง All my loving, I want to hold your hand ก่อนที่หนังจะเครียดขึ้น ฟังเพลงนี้นึกถึง Honey Honey ในเรื่อง Mamma Mia เหมือนกันครับ
A little help from my friend ต้อนรับเพื่อนใหม่จากอังกฤษ มีบทลูกคู่รับส่ง ตามแบบหนังเพลงเหมือนกันนะ
ฺBono แห่ง U2 โผล่มาในบท ด๊อกเตอร์โรเบิร์ต ผู้เผยแพร่แนวคิดปรัชญาแปลกๆ มากับเพลง I am a Walrus ในบรรยากาศไซคีเดอลิค เหมือนพาเราท่องไปในโลกคนเมา LSD หรือกัญชา (ในหนังไม่มีการพูดถึงยาเสพติดเลย dj booboo เดาเอา ว่าหนังสื่อว่าพวกเขาอัพยากัน เพลง I am a Walrus เป็นที่รู้กันว่าฟังแล้วได้บรรยากาศ ฮาย สุดๆ เนื้อเพลงของJohn Lennon หลายๆเพลงในช่วงนั้นเป็นแบบ ไปไหนมา สามวาสองศอก ยากแก่การสื่อความหมาย คิดอีกอย่างก็คือ เมายานั่นเอง )
ซัลมา ฮาเย็ค โผล่มานิดเดียว ในบทพยาบาลในจินตนาการของแม๊ค ยังเซ็กซี่เหมือนเดิม ในเพลง Happiness is a warm gun เพลงนี้ John Lennon ไม่ยึดโครงสร้างของท่อนเพลงแบบเดิมๆ เหมือนเอาสามเพลงมาต่อกัน เนื้อเพลงเข้ากับเนื้อหาของหนังแบบไม่น่าเชื่อ
ถ้าใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ แล้วไม่ได้รู้จักเรื่องราวหรือเพลงของสี่เต่าทองเลย ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ในหนังไม่มีการพูดถึงอะไรเกี่ยวกับ The Beatles เลย แต่ในองค์ประกอบของฉากต่างๆและตัวละคร ได้ซ่อนสัญลักษณ์เอาไว้มากมายที่เกี่ยวกับ The Beatles
เช่นชื่อตัวแสดง Jude จากเพลง Hey Jude Lucy จากเพลง Lucy in the sky with daimond Max จากเพลง Maxwell's silver hammond ไม่ค่อยชัวร์นะ prudence จากเพลง dear prudence JoJo จากเพลง Get back Jude มาจาก Liverpool อังกฤษ บ้านของ The Beatles สตอเบอรี่เป็นสัญลักษณ์และชื่อบริษัทเพลงในหนัง เลียนแบบ แอปเปิ้ลของพวกสี่เต่าทอง ฉากวงดนตรีเล่นในช่วงแรกๆ เหมือนการแสดงของ The Beatles ในการฟอร์มวงใหม่ๆ ที่ craven club ฉากการแสดงบนหลังคา สื่อถึงการแสดงสดร่วมกันครั้งสุดท้ายของ The Beatles ที่หลังคาตึกแอปเปิล (บันทึกเสียงงานชุด Get Back ซึ่งสุดท้ายใช้ชื่อ Let it be) แล้วมีตำรวจมาไล่เหมือนกันด้วย
เมื่อเดือนก่อนไปค้นเพลง Across the Universe มาเก็บไว้เหมือนกันค่ะ แล้วก็ได้ถามเพื่อนที่อินเดียเกี่ยวกับ ชัยคุรุเทวา โอม คิดว่าจะหาโอกาสมาขึ้นบล็อกเหมือนดัน
ูู^^^^Jai Kuru Deva ในเพลง Across The Universeในเพลง ต้นฉบับ น่าจะเป็นภาษาสันสกฤษ ผมเขียนภาษาไทยมั่วๆ เองครับ อาจจะไม่ถูก เคยเข้าไปอ่านในคลับบีทเทิลส์นานหลายปีแล้ว เรื่องความหมาย ลืมแล้วเหมือนกัน
คุณ บูบู้..งานเข้าแฮะ เงียบจ้อยไปเลย วันนี้ไหว้สารทจีน หรือ เปล่าเอ่ย.. Wherever you go ...เดินทางปลอดภัยนะคะ ตะกี้ตี 3เพิ่งตื่นมาดู Tennis US Open 2009 ค่ะ พอดี นาดาล แข่ง...ตัดผมสั้นแปลกไปอีกแบบ เดี๋ยวแข่งเสร็จ เธอก็บินมาพักผ่อนที่กระปี่กับแฟน 1 สัปดาห์ ก่อนแข่ง PTT Thailand Open ที่ เมืองทอง
ดูรูปแล้ว สีสันของหนังเป็นยุคบุปผาชนจริงๆ
นำเสนอในส่วนที่หลายคนไม่ค่อยรู้อย่างเพลงยุคหลังที่ไม่ค่อยดังของเค้า
ชอบอะไรที่คิดแหวกๆแบบนี้นะ
ยังไม่เมนต์อะไรมากมายนะคะคุณบูบู้ เด๋วไปหามาดูก่อน
ไม่ยักรู้ว่าเป็นหนังแนวมิวสิคั่ล
คนคลั่งมิวฯอย่างเจ๊ อยากดูมาก....ขอบคุณที่แนะนำ
พรุ่งนี้ก็ไปดูมัมมา มีอาแล้วนะ
ส่วนคุณบูบู้ก็ทำงานไปค่ะ....ยุคนี้ยังมีงานท่องเที่ยว นับว่าเป็นวาสนามากกก