|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ร้ายกว่าโจร
บอกกล่าวก่อนอ่าน....
เรื่องสั้นขนาดสั้นจู๋หลายๆเรื่อง ที่จขบ.ทยอยนำมาลงนี้ เคยตีพิมพ์กระจัดกระจายอยู่ในหนังสือต่างๆเมื่อรอบหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นแนวตลกร้าย...หรือที่จขบ.สมัครใจเรียกเอาเองว่า แนวคอมเมดี้ แซ็ทไทร์...เป็นยังไงก็ลองอ่านกันดูนะคะ
.....................................................................................................
ในยุคที่บ้านเมืองระส่ำ ข้าวของแพงวินาศสันตะโรอย่างนี้ อาชีพที่ขึ้นหน้าขึ้นตาในหมู่คนที่ยากจนแต่ใจหาญอยู่สักหน่อย ก็เห็นจะไม่พ้นอาชีพฉกชิงวิ่งราวหรือปล้นเขากิน
อาศัยใจกล้ากับมีปืนสักกระบอกหรือมีดสักด้าม โอกาสจะหาเงินมาใช้จ่ายก็ไม่ยาก เพราะตำรวจสมัยนี้มักไม่มีน้ำยาจับผู้ร้ายสักเท่าไร ซึ่งหากวิเคราะห์ลงไปอีกทีก็น่าเห็นใจตำรวจ งานหนัก เงินเดือนน้อย ยากจนไส้กิ่ว คนเกลียด จะเอาเรี่ยวแรงหรือกำลังใจที่ไหนไปปราบโจร เผลอๆก็เป็นโจรมันซะเองเลย จะได้มีเงินมีทองกับเขาบ้าง
“ชิด” กับ “ต้อย” ผัวเมียวัยหนุ่มสาวคู่นี้ก็พาตัวเองล่องลอยไปตามกระแสโจรเฟื่องเช่นเดียวกัน
เป็นเวลาสองปีมาแล้วที่ทั้งสองประกอบอาชีพจี้ปล้นโดยพ้นมือตำรวจมาได้ทุกครั้ง ซึ่งก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะพวกเขาไม่ใช่โจรกระจอกประเภทไร้การศึกษาแบบโจรทั่วไปแบบที่พบเจอกันตามท้องตลาด
ชิตเกือบจบปวส.ช่างกลสถาบันดัง ถ้าไม่บังเอิญไปตีกับคู่อริจนฝ่ายนั้นพิการและตัวเองโดนไล่ออกเสียก่อน ส่วนต้อยเมียสาวหุ่นอวบอั๋นก็จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเปิดเลยทีเดียว
ดังนั้นการเป็นมิจฉาชีพของทั้งคู่จึงดำเนินไปอย่างคนมีสติปัญญาพึงกระทำ การวางแผนที่แยบยลทำให้การปล้นทุกครั้งราบรื่นสัมฤทธิ์ผล
ชิตกับต้อยคิดว่าจะยึดอาชีพเลวๆนี้ต่อไปอีกสัก 5 ปี แต่ก็นั่นแหละ พอเข้าปีที่ 3 คือปีนี้ ก็ชักจะมีปัญหาเข้ามาแล้ว การทำมาหากินเริ่มฝืดเคืองเพราะจำนวนโจรผู้ร้ายที่เป็นคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกนั้นต่างก็ปล้นสถานที่ต่างๆอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ละวันมีการปล้นเป็นสิบๆราย หนังสือพิมพ์จึงลงข่าวกันครึกโครม ทำให้ตำรวจต้องเพิ่มกำลังและประสิทธิภาพในการทำงาน สุจริตชนทั่วไปก็ระแวดระวังกันมากขึ้น
...นับแต่นี้ การจี้ปล้น ใช่จะง่ายดายเหมือนก่อน...
“ ไอ้บ้าเอ๊ย” ชิตสบถอย่างหัวเสียหลังอ่านหนังสือพิมพ์จบ “โง่แล้วยังเสือกเป็นโจร”
“อะไรเหรอพี่ชิต” ต้อยซึ่งนั่งตะไบเล็บอยู่เงยหน้าถามสามีคู่ทุกข์คู่ปล้น
“ ก็ไอ้พวกปล้นแบงค์ไง มันปล้นเข้าไปได้ยังไงสี่ห้าวันติดๆกัน อย่างนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ซี ปล้นแบงค์ไหน ตำรวจรวบได้หมด แล้วไอ้แบงค์ที่ยังไม่ถูกปล้นมันก็ระวังเต็มที่ ตอนนี้ทุกแบงค์มีทั้งยามทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าทั้งวันทั้งคืน”
“งั้นแผนการเราก็ต้องหยุดไว้ก่อนสิพี่”
“คงต้องล้มไปเลยแหละ เพราะไอ้แบงค์ที่เราจะปล้น มันก็จ้างยามกับตำรวจมาเฝ้าแล้ว...มีหมาตำรวจตัวเบ้งคุมอยู่ด้วย...ฮ่วย...ทำไงดีวะเนี่ย”
ชิตล้มตัวลงนอนกับพื้นห้อง เอามือก่ายหน้าผากอย่างกลุ้มใจ ส่วนต้อยเลิกตะไบเล็บและหันมานั่งกอดเข่าแทน...ชีวิตโจร บางครั้งก็ทุกข์เหมือนกัน...
“ พักนี้เงินเราชักร่อยหรอเต็มทน ยังไงก็ต้องหาทางให้ได้นะพี่ เอาร้านเสริมสวยเล็กๆซักร้านก่อนก็ได้มั้ง”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นซี้ ตอนนี้ข่าวปล้นมันไปทั่ว ร้านเสริมสวย ร้านทอง ร้านอาหาร มีคนปล้นตัดหน้าเราอยู่ทุกวัน แล้ววันก่อนเธอจำได้มั้ยที่ปล้นมินิมาร์ทน่ะ เห็นเปล่า ในร้านเขาติดกล้องวงจรปิด ถ่ายออกมาเห็นหน้าชัดแจ๋ว เดี๋ยวนี้ที่ไหนๆก็ติดกล้องกันหมดแล้ว ขืนบุ่มบ่ามเข้าไปมีหวังนอนคุกยาว”
“ แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ”
“ค่อยๆคิดไปละกัน เรามีสมอง มันก็ต้องใจเย็นๆ ”
สองผัวเมียนั่งปรึกษาหารือกันอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว พวกเขากำลังคิดว่าที่ใดหนอเป็นที่ที่มีเงินจำนวนมากให้ปล้นและที่แห่งนั้นไม่มีรปภ.หรือตำรวจ
...ที่แห่งนั้นจะต้องเป็นที่ที่สงัด คนไม่มี หนีสะดวก...
คิดไปคิดมาสองโจรระดับเซียนก็คิดออก ชิตกระโดดตัวลอยร้องบอกเมีย
“วัดไง...เราจะปล้นวัดกัน”
ต้อยชะงัก ถึงจะเป็นโจร เธอก็เป็นโจรพุทธมามกะ...หาใช่โจรไร้ศาสนาแต่อย่างใดไม่
“บ้าเหรอพี่ชิต เดี๋ยวนรกกินหัวหรอกปล้นพระปล้นเจ้า อีกอย่าง วัดจะมีอะไรให้ปล้นนักหนา”
“อะฮ้า...” ชิตดีดนิ้วเปาะ “ นี่แหละ...นี่แหละ...เพราะใครๆคิดแบบเธอนี่แหละ วัดถึงไม่ค่อยถูกปล้นไง ใครๆก็กลัวบาป ใครๆก็คิดว่าวัดไม่มีอะไรให้ปล้น วัดก็เลยเป็นที่ปลอดภัย อะฮ้า ต้อยเมียรักของพี่ วัดสมัยนี้เงินทำบุญเป็นล้านๆนะจ๊ะ ยิ่งวัดที่กำลังจะสร้างโบสถ์ สร้างศาลา เงินเข้าเป็นร้อยล้านก็มี” เสียงของชิตลิงโลด ตาพองโตเป็นไข่ห่าน
“จริงสินะ” ผู้เป็นเมียเริ่มเห็นด้วย “ฉันก็มัวแต่กลัวบาปจนลืมคิดไป”
หลังจากตกลงใจว่าจะปล้นวัดกันแล้ว ชิตกับเมียก็ไปดูลาดเลาที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ทั้งคู่สืบทราบว่า วัดนี้เก็บเงินบริจาคไว้ในห้องเล็กๆติดกับห้องเจ้าอาวาส
“ ข่าวว่าเจ้าอาวาสวัดนี้รวยไม่ใช่เล่น ไม่ใช่พระดีเด่อะไรหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวบาป ช่วงที่ปลอดที่สุดก็คือช่วงที่พระฉันเพล เราจะแอบเข้าไปตอนนี้ อย่าลืมปืนกับเครื่องมืองัดแงะให้พร้อมล่ะ”
“จะมีใครเฝ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้นะพี่”
“ ถึงมี อย่างดีก็แค่คนนึง ไม่มีปัญหาหรอก เพราะไม่ใช่พวกยามหรือตำรวจอยู่แล้ว เท่าที่รู้นะกุฏิของเจ้าอาวาสไม่ค่อยมีใครกล้าวุ่นวายเท่าไหร่ ตัวท่านเองก็เก็บตัววิปัสนาอยู่แต่ในห้อง ไม่ลงฉันกับพระรูปอื่น ซึ่งถ้าเราโผล่ไปเจอท่านเองก็ยิ่งดีสิ เพราะกุญแจตู้เซฟอะไรเนี่ยต้องอยู่กับท่านแหงๆ หรือถ้าไม่อยู่ เราก็ค้นเงินที่ห้องเจ้าอาวาสเองนั่นแหละ เชื่อเถอะว่ามันต้องมีเงินสดเป็นล้าน มันต้องมีมากกว่าร้านเสริมสวยกระจอกๆอยู่แล้ว”
วางแผนกันอย่างรัดกุม จนกระทั่งถึงวันลงมือจริงๆ สองผัวเมียก็ดำเนินการตามนั้น ทั้งคู่ลอบเข้าไปในกุฎิที่เป็นตึกสามชั้นกลางหมู่ไม้ได้อย่างง่ายดายตามประสามืออาชีพ
“ โอ้โห! โคตรจะทันสมัยเลย”
ชิตอุทานเมื่อเห็นภายในกุฎิของเจ้าอาวาสมีการตกแต่งอย่างเลิศหรู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นแพงระยับ
“พี่ชิตดูนี่สิ มีห้องใต้ดินด้วย”
ต้อยซึ่งเป็นคนช่างสังเกตชี้ให้ดูทางลงห้องใต้ดินซึ่งมีตู้ใบใหญ่บดบังไว้
“ ห้องสำคัญอยู่ข้างล่างแหงๆ โอ้โฮเฮะ...นี่มันกุฎิพระ หรือซ่องโจรกันแน่วะเนี่ย” ชิตงึมงำแล้วก็ชวนเมียย่องลงไป
แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด ในกุฏิมีโทรทัศน์วงจรปิดและสัญญาณเตือนภัยเมื่อมีผู้บุกรุก ชิตกับต้อยถูกชายกล้ามใหญ่สองคนโผล่ออกมาจับตัวไว้ เขาเห็นเจ้าอาวาสโผล่หน้าออกมาจากห้องและยิ้มอย่างเยือกเย็น
...ต่อมาในเวลาใกล้ค่ำ ทั้งคู่ถูกส่งตัวให้ตำรวจ...
...................................
ในห้องขังดึกคืนนั้น ชิตนั่งเกาะลูกกรงน้ำตาซึม ป่านนี้ต้อยเมียรักซึ่งถูกขังอยู่อีกที่หนึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง เป็นความผิดของเขาเองที่ริปล้นวัดแห่งนี้ ลำพังตัวเขาถูกชายหน้าเหี้ยมสองคนรุมซ้อมยังไม่กระไรหรอก เขาทนได้
แต่ที่มันส่งต้อยเข้าไปในห้องเจ้าอาวาส แล้วไม่นานเธอเดินโผเผออกมาด้วยความเจ็บปวดนี่สิ...
...ภาพนั้นมันสะท้อนหัวอกคนเป็นผัวยิ่งนัก...
...........จบ...............................
ขอบคุณภาพประกอบจาก ลุงแมว
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551 |
|
37 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2551 14:25:07 น. |
Counter : 533 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 18 พฤศจิกายน 2551 14:21:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซาตานสีส้ม IP: 203.154.236.196 18 พฤศจิกายน 2551 14:58:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 18 พฤศจิกายน 2551 19:30:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 18 พฤศจิกายน 2551 19:58:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 18 พฤศจิกายน 2551 21:34:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัยย์ IP: 115.67.96.231 18 พฤศจิกายน 2551 21:55:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัยย์ IP: 115.67.89.180 19 พฤศจิกายน 2551 7:40:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: SIMAKHA IP: 124.157.156.42 19 พฤศจิกายน 2551 8:52:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 9:30:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป๋อน้อย 19 พฤศจิกายน 2551 9:38:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทาสบอย 19 พฤศจิกายน 2551 10:32:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 11:19:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 12:50:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย IP: 202.149.25.234 19 พฤศจิกายน 2551 17:26:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฤทัยนาวา 19 พฤศจิกายน 2551 18:20:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 19 พฤศจิกายน 2551 20:55:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 19 พฤศจิกายน 2551 22:23:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 19 พฤศจิกายน 2551 23:59:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิตช์ (Litchi ) 20 พฤศจิกายน 2551 3:42:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชวนคุย 20 พฤศจิกายน 2551 9:14:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 20 พฤศจิกายน 2551 10:28:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: เขาพนม 20 พฤศจิกายน 2551 19:00:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พอเขียนเรื่องนี้จบ
สงสัยอยู่เหมือนกันว่า นรกจะกินหัวคนเขียนหรือเปล่า(ฟะ)?
..................................
ขอบคุณที่เพื่อนๆเข้ามาอ่าน
รบกวนฝากคอมเมนต์ไว้หน่อยนะคะ...
ป.ล. บอกซะก่อนว่าจขบ.เป็นคนรักชาติ และศาสนายิ่งชีพค่ะ