นักสู้ต้องมีวันชนะ
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
18 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

ร้ายกว่าโจร



บอกกล่าวก่อนอ่าน....


เรื่องสั้นขนาดสั้นจู๋หลายๆเรื่อง ที่จขบ.ทยอยนำมาลงนี้ เคยตีพิมพ์กระจัดกระจายอยู่ในหนังสือต่างๆเมื่อรอบหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่เป็นแนวตลกร้าย...หรือที่จขบ.สมัครใจเรียกเอาเองว่า แนวคอมเมดี้ แซ็ทไทร์...เป็นยังไงก็ลองอ่านกันดูนะคะ


.....................................................................................................









ในยุคที่บ้านเมืองระส่ำ ข้าวของแพงวินาศสันตะโรอย่างนี้ อาชีพที่ขึ้นหน้าขึ้นตาในหมู่คนที่ยากจนแต่ใจหาญอยู่สักหน่อย ก็เห็นจะไม่พ้นอาชีพฉกชิงวิ่งราวหรือปล้นเขากิน

อาศัยใจกล้ากับมีปืนสักกระบอกหรือมีดสักด้าม โอกาสจะหาเงินมาใช้จ่ายก็ไม่ยาก เพราะตำรวจสมัยนี้มักไม่มีน้ำยาจับผู้ร้ายสักเท่าไร ซึ่งหากวิเคราะห์ลงไปอีกทีก็น่าเห็นใจตำรวจ งานหนัก เงินเดือนน้อย ยากจนไส้กิ่ว คนเกลียด จะเอาเรี่ยวแรงหรือกำลังใจที่ไหนไปปราบโจร เผลอๆก็เป็นโจรมันซะเองเลย จะได้มีเงินมีทองกับเขาบ้าง

“ชิด” กับ “ต้อย” ผัวเมียวัยหนุ่มสาวคู่นี้ก็พาตัวเองล่องลอยไปตามกระแสโจรเฟื่องเช่นเดียวกัน

เป็นเวลาสองปีมาแล้วที่ทั้งสองประกอบอาชีพจี้ปล้นโดยพ้นมือตำรวจมาได้ทุกครั้ง ซึ่งก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะพวกเขาไม่ใช่โจรกระจอกประเภทไร้การศึกษาแบบโจรทั่วไปแบบที่พบเจอกันตามท้องตลาด

ชิตเกือบจบปวส.ช่างกลสถาบันดัง ถ้าไม่บังเอิญไปตีกับคู่อริจนฝ่ายนั้นพิการและตัวเองโดนไล่ออกเสียก่อน ส่วนต้อยเมียสาวหุ่นอวบอั๋นก็จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเปิดเลยทีเดียว

ดังนั้นการเป็นมิจฉาชีพของทั้งคู่จึงดำเนินไปอย่างคนมีสติปัญญาพึงกระทำ การวางแผนที่แยบยลทำให้การปล้นทุกครั้งราบรื่นสัมฤทธิ์ผล

ชิตกับต้อยคิดว่าจะยึดอาชีพเลวๆนี้ต่อไปอีกสัก 5 ปี แต่ก็นั่นแหละ พอเข้าปีที่ 3 คือปีนี้ ก็ชักจะมีปัญหาเข้ามาแล้ว การทำมาหากินเริ่มฝืดเคืองเพราะจำนวนโจรผู้ร้ายที่เป็นคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกนั้นต่างก็ปล้นสถานที่ต่างๆอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ละวันมีการปล้นเป็นสิบๆราย หนังสือพิมพ์จึงลงข่าวกันครึกโครม ทำให้ตำรวจต้องเพิ่มกำลังและประสิทธิภาพในการทำงาน สุจริตชนทั่วไปก็ระแวดระวังกันมากขึ้น

...นับแต่นี้ การจี้ปล้น ใช่จะง่ายดายเหมือนก่อน...


“ ไอ้บ้าเอ๊ย” ชิตสบถอย่างหัวเสียหลังอ่านหนังสือพิมพ์จบ “โง่แล้วยังเสือกเป็นโจร”

“อะไรเหรอพี่ชิต” ต้อยซึ่งนั่งตะไบเล็บอยู่เงยหน้าถามสามีคู่ทุกข์คู่ปล้น

“ ก็ไอ้พวกปล้นแบงค์ไง มันปล้นเข้าไปได้ยังไงสี่ห้าวันติดๆกัน อย่างนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ซี ปล้นแบงค์ไหน ตำรวจรวบได้หมด แล้วไอ้แบงค์ที่ยังไม่ถูกปล้นมันก็ระวังเต็มที่ ตอนนี้ทุกแบงค์มีทั้งยามทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าทั้งวันทั้งคืน”

“งั้นแผนการเราก็ต้องหยุดไว้ก่อนสิพี่”

“คงต้องล้มไปเลยแหละ เพราะไอ้แบงค์ที่เราจะปล้น มันก็จ้างยามกับตำรวจมาเฝ้าแล้ว...มีหมาตำรวจตัวเบ้งคุมอยู่ด้วย...ฮ่วย...ทำไงดีวะเนี่ย”

ชิตล้มตัวลงนอนกับพื้นห้อง เอามือก่ายหน้าผากอย่างกลุ้มใจ ส่วนต้อยเลิกตะไบเล็บและหันมานั่งกอดเข่าแทน...ชีวิตโจร บางครั้งก็ทุกข์เหมือนกัน...

“ พักนี้เงินเราชักร่อยหรอเต็มทน ยังไงก็ต้องหาทางให้ได้นะพี่ เอาร้านเสริมสวยเล็กๆซักร้านก่อนก็ได้มั้ง”

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นซี้ ตอนนี้ข่าวปล้นมันไปทั่ว ร้านเสริมสวย ร้านทอง ร้านอาหาร มีคนปล้นตัดหน้าเราอยู่ทุกวัน แล้ววันก่อนเธอจำได้มั้ยที่ปล้นมินิมาร์ทน่ะ เห็นเปล่า ในร้านเขาติดกล้องวงจรปิด ถ่ายออกมาเห็นหน้าชัดแจ๋ว เดี๋ยวนี้ที่ไหนๆก็ติดกล้องกันหมดแล้ว ขืนบุ่มบ่ามเข้าไปมีหวังนอนคุกยาว”

“ แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ”

“ค่อยๆคิดไปละกัน เรามีสมอง มันก็ต้องใจเย็นๆ ”


สองผัวเมียนั่งปรึกษาหารือกันอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว พวกเขากำลังคิดว่าที่ใดหนอเป็นที่ที่มีเงินจำนวนมากให้ปล้นและที่แห่งนั้นไม่มีรปภ.หรือตำรวจ

...ที่แห่งนั้นจะต้องเป็นที่ที่สงัด คนไม่มี หนีสะดวก...

คิดไปคิดมาสองโจรระดับเซียนก็คิดออก ชิตกระโดดตัวลอยร้องบอกเมีย

“วัดไง...เราจะปล้นวัดกัน”

ต้อยชะงัก ถึงจะเป็นโจร เธอก็เป็นโจรพุทธมามกะ...หาใช่โจรไร้ศาสนาแต่อย่างใดไม่

“บ้าเหรอพี่ชิต เดี๋ยวนรกกินหัวหรอกปล้นพระปล้นเจ้า อีกอย่าง วัดจะมีอะไรให้ปล้นนักหนา”

“อะฮ้า...” ชิตดีดนิ้วเปาะ “ นี่แหละ...นี่แหละ...เพราะใครๆคิดแบบเธอนี่แหละ วัดถึงไม่ค่อยถูกปล้นไง ใครๆก็กลัวบาป ใครๆก็คิดว่าวัดไม่มีอะไรให้ปล้น วัดก็เลยเป็นที่ปลอดภัย อะฮ้า ต้อยเมียรักของพี่ วัดสมัยนี้เงินทำบุญเป็นล้านๆนะจ๊ะ ยิ่งวัดที่กำลังจะสร้างโบสถ์ สร้างศาลา เงินเข้าเป็นร้อยล้านก็มี” เสียงของชิตลิงโลด ตาพองโตเป็นไข่ห่าน

“จริงสินะ” ผู้เป็นเมียเริ่มเห็นด้วย “ฉันก็มัวแต่กลัวบาปจนลืมคิดไป”


หลังจากตกลงใจว่าจะปล้นวัดกันแล้ว ชิตกับเมียก็ไปดูลาดเลาที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ทั้งคู่สืบทราบว่า วัดนี้เก็บเงินบริจาคไว้ในห้องเล็กๆติดกับห้องเจ้าอาวาส

“ ข่าวว่าเจ้าอาวาสวัดนี้รวยไม่ใช่เล่น ไม่ใช่พระดีเด่อะไรหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวบาป ช่วงที่ปลอดที่สุดก็คือช่วงที่พระฉันเพล เราจะแอบเข้าไปตอนนี้ อย่าลืมปืนกับเครื่องมืองัดแงะให้พร้อมล่ะ”

“จะมีใครเฝ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้นะพี่”

“ ถึงมี อย่างดีก็แค่คนนึง ไม่มีปัญหาหรอก เพราะไม่ใช่พวกยามหรือตำรวจอยู่แล้ว เท่าที่รู้นะกุฏิของเจ้าอาวาสไม่ค่อยมีใครกล้าวุ่นวายเท่าไหร่ ตัวท่านเองก็เก็บตัววิปัสนาอยู่แต่ในห้อง ไม่ลงฉันกับพระรูปอื่น ซึ่งถ้าเราโผล่ไปเจอท่านเองก็ยิ่งดีสิ เพราะกุญแจตู้เซฟอะไรเนี่ยต้องอยู่กับท่านแหงๆ หรือถ้าไม่อยู่ เราก็ค้นเงินที่ห้องเจ้าอาวาสเองนั่นแหละ เชื่อเถอะว่ามันต้องมีเงินสดเป็นล้าน มันต้องมีมากกว่าร้านเสริมสวยกระจอกๆอยู่แล้ว”


วางแผนกันอย่างรัดกุม จนกระทั่งถึงวันลงมือจริงๆ สองผัวเมียก็ดำเนินการตามนั้น ทั้งคู่ลอบเข้าไปในกุฎิที่เป็นตึกสามชั้นกลางหมู่ไม้ได้อย่างง่ายดายตามประสามืออาชีพ

“ โอ้โห! โคตรจะทันสมัยเลย”

ชิตอุทานเมื่อเห็นภายในกุฎิของเจ้าอาวาสมีการตกแต่งอย่างเลิศหรู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นแพงระยับ

“พี่ชิตดูนี่สิ มีห้องใต้ดินด้วย”

ต้อยซึ่งเป็นคนช่างสังเกตชี้ให้ดูทางลงห้องใต้ดินซึ่งมีตู้ใบใหญ่บดบังไว้

“ ห้องสำคัญอยู่ข้างล่างแหงๆ โอ้โฮเฮะ...นี่มันกุฎิพระ หรือซ่องโจรกันแน่วะเนี่ย” ชิตงึมงำแล้วก็ชวนเมียย่องลงไป

แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด ในกุฏิมีโทรทัศน์วงจรปิดและสัญญาณเตือนภัยเมื่อมีผู้บุกรุก ชิตกับต้อยถูกชายกล้ามใหญ่สองคนโผล่ออกมาจับตัวไว้ เขาเห็นเจ้าอาวาสโผล่หน้าออกมาจากห้องและยิ้มอย่างเยือกเย็น

...ต่อมาในเวลาใกล้ค่ำ ทั้งคู่ถูกส่งตัวให้ตำรวจ...

...................................


ในห้องขังดึกคืนนั้น ชิตนั่งเกาะลูกกรงน้ำตาซึม ป่านนี้ต้อยเมียรักซึ่งถูกขังอยู่อีกที่หนึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง เป็นความผิดของเขาเองที่ริปล้นวัดแห่งนี้ ลำพังตัวเขาถูกชายหน้าเหี้ยมสองคนรุมซ้อมยังไม่กระไรหรอก เขาทนได้

แต่ที่มันส่งต้อยเข้าไปในห้องเจ้าอาวาส แล้วไม่นานเธอเดินโผเผออกมาด้วยความเจ็บปวดนี่สิ...

...ภาพนั้นมันสะท้อนหัวอกคนเป็นผัวยิ่งนัก...



...........จบ...............................



ขอบคุณภาพประกอบจาก ลุงแมว





 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551
37 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2551 14:25:07 น.
Counter : 533 Pageviews.

 

เรื่องนี้เขียนตั้งแต่สมัยจบใหม่ๆ นานมากจนจำไม่ได้ สมัยยังเอ๊าะ...


พอเขียนเรื่องนี้จบ
สงสัยอยู่เหมือนกันว่า นรกจะกินหัวคนเขียนหรือเปล่า(ฟะ)?

..................................

ขอบคุณที่เพื่อนๆเข้ามาอ่าน
รบกวนฝากคอมเมนต์ไว้หน่อยนะคะ...

ป.ล. บอกซะก่อนว่าจขบ.เป็นคนรักชาติ และศาสนายิ่งชีพค่ะ

 

โดย: ทากชมพู 18 พฤศจิกายน 2551 14:21:50 น.  

 



แต่งเองหรือคะ
อ่านสนุกดีค่ะ แต่...จบไม่แฮปปี้เลย แหะๆ..

แวะผ่นมาเที่ยวค่ะ
เอากาแฟติดมือมาฝากด้วยค่ะ งุงิ

มีความสุขกับทุกๆ วันนะคะ ^ ^


 

โดย: Butterflyblog 18 พฤศจิกายน 2551 14:41:14 น.  

 

พล็อตนี้ ..คิดได้ไงน่ะ
เถื่อนสุดริด ...

เดาทางจบไม่ถูก .. ไม่ใช่สิ ยังไม่ทันเดาเลย
จบซะแล้ว
เรื่องสั้นของ จขบ นี่น่าส่งเข้าประกวดเรื่องสั้น ..
ประเภท ใครสั้นที่สุด ...

 

โดย: ซาตานสีส้ม IP: 203.154.236.196 18 พฤศจิกายน 2551 14:58:20 น.  

 


เข้าใจคิดพล็อตเรื่องเน๊าะ...แหล่ม

 

โดย: อุ้มสี 18 พฤศจิกายน 2551 19:30:57 น.  

 

ตกใจกับตอนจบ

แล้วก็มาตกใจอีกทีกับ คห.3

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 18 พฤศจิกายน 2551 19:49:12 น.  

 


เรื่องนี้แฟนๆทำใจหน่อยนะคะ

บอกไปแว้วว...ว่า แรงงง......

แต่สะท้อนสังคมนะคะ...ความเป็นจริงที่เราไม่อยากรู้หรอกว่ามีอยู่

เขียนขึ้นในช่วงหนึ่งที่มีข่าวมัวหมองเยอะๆ.......

............................................................

คห 5 ตกใจอะไรกะคห.3 เหรอ?

เค้าเป็นแฟนคลับเรื่องสั้นของพี่นะ

ทั้งหมดนั้น...ถือว่าเขาชม...

 

โดย: ทากชมพู 18 พฤศจิกายน 2551 19:58:01 น.  

 

สวัสดียามค่ำ
ทั้งพระและโจร ตกนรกหมด ผิดศีลทั้งคู่
แต่แก๊งข้างถนนผิดมากกว่า (ร้ายกว่าโจรและพระ)


 

โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม 18 พฤศจิกายน 2551 20:09:14 น.  

 

กำลังอ่านเพลินๆ เหมือนถูกไฟช๊อตกระทันหันครับ...

ยุคสมัยที่มีเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับพระ ทำให้วงนินทาของพวกผู้ชายมีเรื่องสนุกๆคุยกันมากขึ้นครับ

 

โดย: Insignia_Museum 18 พฤศจิกายน 2551 20:36:57 น.  

 

งั้นก็แล้วไปเถอะ พี่อัยย์

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 18 พฤศจิกายน 2551 20:48:08 น.  

 





ฝีมือร้ายกาจ มากๆ วาจะเขียนเรื่องจากจิตนาการที

ปาดดด และปาดดด กันไปเลยค่ะ อย่างน้อยสามวัน
เหงื่อน่ะคะ

เคยแต่เขียนวิชการก็งี้แหละ จิตนนาการบรรเจิด แต่ถ่ายทอดไม่ได้

มายกนิ้วให้คุณชมพู อัยย์ค่ะ


เอารูปนี้มาฝาก

 

โดย: Sweety-around-the-world 18 พฤศจิกายน 2551 21:04:07 น.  

 

เรื่องสั้นวันนี้ไม่ค่อยถูกใจ ไม่มียิงกันอีกแล้ว

ชอบแนวหวานๆมากกว่า หรือ แบบบู๋ๆยิ่งชอบเลย

 

โดย: ลุงแอ๊ด 18 พฤศจิกายน 2551 21:34:38 น.  

 


โจรพุทธมามกะเจอเจ้าอาวาสลามกะ ซะแล้ว

 

โดย: HoneyLemonSoda 18 พฤศจิกายน 2551 21:49:20 น.  

 

โห...คห. 12 คิดได้ไงเนี่ย
เจ้าอาวาสลามกะ...

 

โดย: อัยย์ IP: 115.67.96.231 18 พฤศจิกายน 2551 21:55:09 น.  

 

สวัสดียามดึก
จะบวชเป็นเจ้าอาวาสเขาก็ไม่ยอมให้บวช

บริจิต บาร์โดต์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการแสดงของเธอ
อีกคนที่อยู่ในสมัยใกล้เธอ ที่เรียกขานเธอว่าดาราเนื้อนมไข่ นักดูหนังอย่างคุณทากชมพูต้องรู้แน่นอน

ขอให้จขบ.มีสุขภาพที่แข็งแรง ราตรีสวัสดิ์

 

โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม 18 พฤศจิกายน 2551 22:55:48 น.  

 

คุณอัยย์ชมพู

ไปมาแล้วนะ ...https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=the-universal-thought&group=5

แต่เจอเตือนมาแบบบนี้..........ขออภัยค่ะ เจ้าของ blog ยังไม่ได้ระบุหน้าหลักของ blog นี้.......

เศร้าเลย

 

โดย: Sweety-around-the-world 19 พฤศจิกายน 2551 0:24:06 น.  

 

คห 15
เข้าใจอะไรผิดแน่แร้ววว...

 

โดย: อัยย์ IP: 115.67.89.180 19 พฤศจิกายน 2551 7:40:17 น.  

 

... วันนี้มีเวลาว่างนิดหน่อย เลยแอบมาอ่านเรื่องสั้นค่ะ

... สั้นได้ใจจริงๆ เลย ... กำลังเพลิน ... อ้าว จบซะงั้น

... ถ้าอยู่ในหนังสือ อุ๋มคงต้องไล่หน้าใหม่ หรือไม่ก็พลิกหาหน้าถัดไปอยู่แน่ๆ เลย ...

... จริงๆ แล้วช่วงนี้ยุ่งกับงานนอกค่ะ เลยไม่ได้ใช้เน็ต

 

โดย: SIMAKHA IP: 124.157.156.42 19 พฤศจิกายน 2551 8:52:03 น.  

 




.....................

 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 9:30:08 น.  

 

มาแว้ว มาแว้ว
...แต่ไม่ตกใจ

ก็สมัยนี้หน่ะ ศรัทธาในผ้าเหลืองเราค่อนข้างจะร่อยหรอ เห็นข่าวพระทําอะไรวิบัติก็ไม่สะดุ้งแล้ว มันชาชิน

เข้าใจว่าพระที่ดีมีมาก แต่พวกมาหากินกับศาสนามันฝังตัวแน่นไปหมด

คุณอัยย์เขียนตั้งแต่จบใหม่ๆ (กี่ปีแล้วน้า ฮุฮุฮุ... ) ตอนนั้นคนอ่านคงสะดุ้ง

สังคมเรา ชินกับเรื่องร้ายๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เศร้าเน๊อะ

 

โดย: เป๋อน้อย 19 พฤศจิกายน 2551 9:38:31 น.  

 

อ่านจบแร้วววว

เรื่องสั้น สั้นมั่กมากกกกกกก

 

โดย: ทาสบอย 19 พฤศจิกายน 2551 10:32:06 น.  

 


ดีครับสหาย


เปิดถึงนึกว่า ..มีคลิปวีดีโอเห็นดำๆ


ไปบำบัดแล้วนะสหายย



 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 11:19:54 น.  

 

โอ้...เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ
สมจริงและมีอยู่จริงนี่นา...โจร ตำรวจ พระ ฯลฯ
ผมก็มีข้อมูลแบบนี้ เขียนดีมั้ยเนี่ย ha


ขโมย+โจร = ขโจย

 

โดย: pu_chiangdao 19 พฤศจิกายน 2551 11:26:57 น.  

 



อิอิ...สหายก้อพูดเกินไป


หรอไม่เกินนะ

ชิบ...กาแฟ

 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 19 พฤศจิกายน 2551 12:50:35 น.  

 

สวัสดีครับทกชมพู

มารายงานอากาศก็แล้วกันนะ
เพราะไม่สะดวกอ่านหน้าจอเลยตอนนี้
เพราะเน็ตมือถือที่ดอยวาวีหลุดบ่อยมากเลย
ที่เชียงดาวยังไม่หลุดบ่อยเท่านี้

ทั้งที่สัญญาณเต็ม
เป็นเพราะอะไรไม่รู้

เลยยังไม่ได้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้

ดอยวาวีอากาศหนาวเย็นสบาย
พระจันทร์และดาวสวยตามปกติ
แต่ถ้าคนขี้เหงาห้ามมาอยู่คนเดียว
อาจกระทบกระเทือนต่อหัวใจได้
เพราะวิวสวยไม่อยากดูคนเดียว

 

โดย: พ่อพเยีย IP: 202.149.25.234 19 พฤศจิกายน 2551 17:26:17 น.  

 

พี่สาวววว....

ผมไม่มีเวลาแวะมาเยี่ยมเลย ลงดอยมาก็หลายวันแล้ว งานยุ่งหูตูบ...

แต่ก็ยังคิดถึงพี่สาวของผมอยู่เน่อ...

ตอนนี้มาทักทายก่อน เดวจะกลับขึ้นไปอ่านละ... ^^

 

โดย: ฤทัยนาวา 19 พฤศจิกายน 2551 18:20:27 น.  

 

แหม แฟนตรึมเลย พี่อัยย์

สงสัยต้องหาปลาหมึกมาปิ้งเสียแล้วค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 19 พฤศจิกายน 2551 20:17:14 น.  

 

เรื่องสั้นน่ะ ไม่ต้องลงหลายวัน อ่านไม่ทันใจเลย
รีบๆลงเรื่องต่อไปได้แล้วนะอัยย์

ปล.ใครจะมาแย่งอาชีพขายปลาหมึกปิ้ง
แต่ตอนนี้พอจะมีกินมีใช้ เลยเลิกขายก่อน
ให้ยุ้ยขายแทนไป เห็นไปทะเลมาหลายเที่ยวคงตุนปลาหมึกไว้เยอะ

 

โดย: ลุงแอ๊ด 19 พฤศจิกายน 2551 20:55:08 น.  

 

จะเข้ามาแต่เมื่อวานแล้ว คอมพ์เดี้ยงไปซะก่อน

เรื่องนี้เขียนนานแล้วเหรอครับ ทำไมอินเทรนด์จัง เห็นเดี๋ยวนี้ปล้นร้านสะดวกซื้อกันเป็นว่าเล่น เหมือนกะไต้หวันเลย ปีก่อนผมเดินที่พัทยาก็โดนวิ่งราวกระเป๋า พวกไกด์ หัวหน้าทัวร์ นักท่องเที่ยว โดนกันเยอะเลย แต่จะไม่มีคดีรุนแรงเท่าไหร ที่พัทยานี่เยอะมากครับ ฉกชิงวิ่งราว แต่โจรสาวหุ่นอวบอั๋นนี้ครับ เจ้าอาวาสอาจจะชอบแบบนี้ผมก็ชอบเหมือนกัน

แต่ยังไงโจรก็คือโจร ครับ ถูกต้องเลยครับ ถึงจะดูน่าสงสารตามท้องเรื่อง แต่ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ต้องได้รับโทษ เรื่องสั้นคุณทากชมพู มีจุดศูนย์กลาง เอ๊ะจุดไคลแมกซ์จุดหักมุมดีทุกเรื่องเลยครับ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพวกเรื่องสั้นเลย

 

โดย: dj booboo 19 พฤศจิกายน 2551 20:59:29 น.  

 

สวัสดีค่ำวันพุธ
บาบาน่า สแตนวิค ไม่แน่ใจว่าได้ดูหนังที่เธอแสดงหรือเปล่าจำไม่ได้แล้ว ระยะนี้ยิ่งความจำยิ่งไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องขอบคุณที่พาเธอไปเยี่ยมที่บ้าน เธอก็ไม่ชอบยางรถยนต์ที่ขวางถนนในกทม.เหมือนคนอื่นๆ
ให้จขบ.มีสุขภาพที่แข็งแรง ราตรีสวัสดิ์หลับฝันดี

 

โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม 19 พฤศจิกายน 2551 21:20:08 น.  

 

คิดได้เพราะโจรพุทธมามกะ น่ะแหละค่ะ

ชอบเรื่องสั้นหักมุมแบบนี้
มาเกาะขอบจอ รออ่านตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อ

ความรู้สึกเหมือนตอนเด็ก เดินไปค้างบ้านคุณยายทุกเย็นวันศุกร์ เพื่ออ่านนิตยสารรายสัปดาห์เลย
โดนตัดพ้อบ่อยๆ ว่ามาหายายเพราะคิดถึง หรือว่ามาอ่านหนังสือ

 

โดย: HoneyLemonSoda 19 พฤศจิกายน 2551 21:58:14 น.  

 

ปลื้ม ๆ...มีเพื่อนมาอ่านอยู่เรื่อยๆ



พรุ่งนี้ลงเรื่องใหม่ต่อดีกว่า...(ชักคึก)

 

โดย: ทากชมพู 19 พฤศจิกายน 2551 22:23:50 น.  

 




คุณอัยย์ชมพู เข้าใจตรงกกันแล้วค่ะ

คุณ21 โอ๊ยย ไม่อยากบำบัดแต่อยากแจมค่ะ
ไปหามาได้ยังไงค่ะนี่

คุณอัยย์จะup เรื่องใหม่วารออยู่นะคะ
ตอนนี้ยังอยู่ที่ทำงานค่ะ เมื่อวานทีแล้ว ซะลาใจเข้าblogนานไปหน่อย
งานไม่เสร็จเลย จะฮา หรือโฮดีนะคะนี่



 

โดย: Sweety-around-the-world 19 พฤศจิกายน 2551 23:41:17 น.  

 


แวะมาบอกราตรีสวัสดิ์หลับฝันดีค่ะ
ตอนที่ 2 ของตลาดสามชุกแปะภาพแล้วนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 19 พฤศจิกายน 2551 23:59:52 น.  

 

...จบได้เห็นกรรมจริง ๆ เลยค่า...คุณอัยย์...

แต่เจ้าอาวาสนี่น่าจะตกนรกลึกกว่า ไปอ่านเรื่องร้านชำเชย ๆ แล้วน้ำตาจะไหล
จริงด้วยค่ะที่ร้านค้าจะขายของแพงกว่าห้างใหญ่ แต่ความที่ใกล้และคุ้ยเคยกันก็หยวน ๆ กันไป
มีอยู่ช่วงนึงเคยไม่มีเงินติดบ้านเลย ได้อาศัยไปเชื่อของที่ร้านเอามากินใช้ ซึ่งทุกวันนี้ป้าแกเสียไปแล้ว
ลูกหลานก็ไม่มีใครทำต่อ ... "ไม่มีอะไรที่ดีไปหมด ไม่มีอะไรที่เสียไปหมด" ...
เฮ้อ...คิดถึงเรื่องเก่าอีกแระ แบบว่าชักจะอาวุโส...

 

โดย: ลิตช์ (Litchi ) 20 พฤศจิกายน 2551 3:42:12 น.  

 

แรงจริงครับ

ที่แรงก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า เราเป็นเมืองพุทธ การจะเขียนเรื่องราวอะไรที่มันพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันที่เคารพเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง

เราจะปิดหูปิดตา ไม่รับรู้เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันปิดบังเรื่องพวกนี้ไว้ เหมือนเอาทรายไปกลบอุจจาระสุนัข

เป็นสิ่งที่น่าคิดพิจารณาอีกเหมือนกัน

วันนี้ผิดพรุ่งนี้อาจถูก วันนี้ถูกพรุ่งนี้อาจผิด การจะตัดสินอะไรผิดถูก ยากมาก ขึ้นอยู่กับความคิด ประสบการณ์ สถานการณ์ ปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย

ในฐานะศิลปินผู้สร้างสรรค์ ผมคิดว่าอยู่ที่เรามากกว่าว่าจะนำเสนอในมุมใด การตัดสินถูกผิดอย่างไรก็ปล่อยให้ผู้ชมผลงานตัดสินเอาตามความรู้สึกของเขา

ผมเคยไปดูรูปของ อ.ถวัลย์ ฯ ก็ว่าแรง เหมือนเหยียบย่ำหัวใจชาวพุทธทีเดียว แต่ท่านก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ของไทย

แว๊กกก เผลอปล่อยความคิด จินตนาการออกมาอีกแล้ว งานของคุณทากชมพู สั้นๆ แต่สามารถสร้างความคิดได้มากมายจริงๆ

กฏแห่งกรรม กระเทาะสังคม ฯลฯ

สรุปว่ายอดเยี่ยมครับ

 

โดย: ชวนคุย 20 พฤศจิกายน 2551 9:14:04 น.  

 



ขอบคุณมาก ขอบคุณทุกๆคนเลยค่ะ

ความสุขของคนเขียนหนังสือ ไม่มีอะไรมากไปกว่า...มีคนได้มาอ่านค่ะ

ส่วนจะดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ เป็นอีกเรื่อง...

กำลังเตรียมอัพเรื่องต่อไป เป็นเรื่องเบาๆ ไม่ให้แง่คิด

 

โดย: ทากชมพู 20 พฤศจิกายน 2551 10:28:02 น.  

 

ร้ายกว่าโจรก็มีข่าวให้ได้ยิน พระนอกรีด

 

โดย: เขาพนม 20 พฤศจิกายน 2551 19:00:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทากชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






เป็นนักล่าน้ำตก บ้านๆ ธรรมดาๆ พื้นๆ ง่ายๆ

เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร...เบื่ออันธพาล



สะดุดรัก..คู่ปรับหัวใจ นิยายสุดรักสุดหวงของอัยย์วางแผงแล้ว แวะรัก..กลางฤดูร้อน นิยายสุดรักอีกเรื่อง.. วางแผงแล้ว !!
Friends' blogs
[Add ทากชมพู's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.