นักสู้ต้องมีวันชนะ
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

ร้อยเรื่องสั้น (เรื่องที่ 1)...ร้านชำเชยๆ




บอกกล่าวก่อนอ่าน....

ก่อนที่จะริอ่านเขียนนิยายรักนั้น จขบ.เป็นคนเขียนเรื่องสั้นมาก่อน...สั้นจริงๆค่ะ ไม่ชอบยาวๆเลย เป็นคนทำงานที่ได้ฉายาว่า"เทพแห่งความกระชับ" หรือ"เจ้าแม่สมาธิสั้น" เขียนไว้เยอะ เป็นแนวขำๆบ้าง จริงจังบ้าง แต่ทุกเรื่องสะท้อนสังคมในช่วงนั้นๆ บางเรื่องก็ยังสะท้อนมาถึงช่วงนี้กันเลย...

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ผลงานตัวเองกระจัดกระจาย ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้...ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเด็กๆ หนังสือโนเนม...เพราะหนังสือดังๆ จขบ.ไม่กล้าส่ง กลัวค่ะ...

พอมาทำบล็อก ก็เลยคิดว่าเอาเรื่องที่เคยเขียนๆมาลงที่นี่ดีกว่า เป็นการเก็บงานไปในตัว...เพื่อนๆก็จะได้อ่านด้วย...ขอบคุณทุกคนที่หลวมตัวเข้ามานะคะ
....อัยย์.....

.....................................................................................................















“ แก้ว! ไปซื้อน้ำปลาร้านแปะย้งให้หน่อย”

แก้วทำหน้างอเมื่อแม่ใช้ให้วิ่งไปซื้อของที่ร้านชำข้างบ้าน แม่นะแม่ ทำไมไม่ซื้อของที่โลตัส หรือบิ๊กซีมาตุนไว้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ใครๆเขาก็เข้าซูเปอร์สโตร์ใหญ่ๆกันทั้งนั้น จะมีก็แต่แม่ของแก้วนี่แหละที่ยังยึดติดอยู่กับร้านชำเจ้าประจำมาตั้งแต่แก้วเป็นเด็ก จนเดี๋ยวนี้แก้วโตเป็นสาวกำลังจะจบม.ปลายแล้ว แม่ก็ยัง...

“ อ้าว! ยังไม่ไปอีก ไม่ได้ยินที่แม่พูดหรือไง”

“ แม่คะ ของที่ร้านแปะย้งแพงกว่าโลตัสตั้งแยะ ทำไมแม่ยัง...?

“เอาน่ะ” แม่ตัดบท “ อุดหนุนคนรู้จักกันจะเป็นไรไป ทุกวันนี้ร้านแกก็ขายไม่ดีอยู่แล้ว จะเจ๊งวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ สงสารแกนะลูก”

แก้วอยากจะบอกแม่ว่า แม่น่ะมองคนในแง่ดีเกินไปที่สงสารคนอย่างแปะย้ง เพราะเท่าที่รู้จักแกมา แกก็ไม่ได้ต่างจากพ่อค้าหน้าเลือดคนอื่นๆสักเท่าไหร่หรอก แกขายของแพง แถมเอาเปรียบลูกค้าอยู่บ่อยๆ อย่างพวกของแถมที่สินค้าบางชนิดเขาแถมมา แกก็เอามาแยกขายต่างหากเป็นประจำ หรือบางช่วงที่น้ำตาลขาดตลาด แกก็จะกักตุนไว้บนโกดังที่ชั้น 2ของร้าน แล้วก็จะเอามาขายในราคาที่แพงลิบ นี่ละ แปะย้งที่แก้วรู้จัก ทั้งเค็มทั้งงก

เมื่อก่อนชาวบ้านในย่านนี้ก็ต้องจำใจซื้อของร้านแปะย้งเพราะไม่มีทางเลือกอื่น แต่เดี๋ยวนี้อำเภอพัฒนาแล้ว มีซูเปอร์ขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาสองแห่ง อยู่ห่างออกไปทางตัวจังหวัดแค่นั่งรถไม่ถึงสิบนาที ชาวบ้านก็เลยแห่ไปซื้อของที่นั่น เพราะมีของมากมายให้เลือกซื้อในราคาที่ประหยัด ทั้งยังได้ความเพลิดเพลินใจไม่เสี่ยงต่อปากของพ่อค้าแม่ค้าอีกด้วย แอร์ก็เย็นสบาย แก้วแสนจะชอบใจ ให้ไปเดินทุกวันก็ยังได้

...คิดดูแล้วก็สมน้ำหน้าแปะย้ง ที่ร้านชำเชยๆของแกกำลังจะเจ๊ง ช่วยไม่ได้จริงๆ แกทำตัวเองแท้ๆ...อีกอย่างโลกเราก้าวไกล จะโทษความเจริญของโลกได้อย่างไร

........................................


หลังจากได้น้ำปลามาแล้ว แม่ก็ลงมือทำกับข้าว อาหารมื้อเย็นวันนั้นแก้วและครอบครัวรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางเสียงฝนที่หล่นกระทบหลังคา ฤดูนี้เป็นฤดูมรสุม และปีนี้ดูเหมือนว่าฝนจะตกเยอะกว่าปีก่อน พ่อพูดขึ้นว่า

“ ถ้ายังตกไม่หยุดอย่างนี้ สงสัยคืนนี้น้ำจะท่วมนะแม่”

“ งั้นพวกเราช่วยกันยกของขึ้นที่สูงดีกว่า เผื่อน้ำมาตอนดึกๆจะได้ไม่ลำบาก” แม่พูดตามประสาคนรอบคอบ บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้นและห้องนอนอยู่ชั้นสอง

ครอบครัวของแก้วคุ้นเคยกับเรื่องน้ำท่วมพอสมควรเพราะอำเภอที่อยู่เป็นที่ลุ่ม เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน น้ำจะท่วมแทบทุกปี แต่ท่วมอย่างเก่งแค่วันสองวัน น้ำก็จะลด ช่วงน้ำท่วมเด็กๆอย่างแก้วจะชอบเป็นพิเศษเพราะได้เดินลุยน้ำเล่น แต่ปีนี้แก้วโตเป็นสาวแล้ว ความชอบเรื่องน้ำท่วมก็จะลดลงไปตามวัยที่รู้จักเหตุผล

คืนนั้น...แก้วนอนฟังเสียงฝนและลมที่พัดอู้ๆจนหลับไป ตื่นขึ้นมา มองออกไปนอกหน้าต่าง เช้าวันนี้ท้องฟ้าไม่เหมือนเดิม ยามเช้าที่ควรสว่างไสว กลับมืดครึ้มด้วยเมฆฝนที่กระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา มองลงไปที่ถนน แก้วไม่เห็นอะไรนอกจากน้ำและน้ำ
...น้ำท่วมแล้ว...

“ ข้างล่าง น้ำสูงจะถึงเอวอยู่แล้ว”
พ่อซึ่งลงไปสำรวจข้าวของที่ชั้นล่างขึ้นมาบอกทุกคนด้วยสีหน้าขรึมๆ แล้วยังพูดต่ออีกว่า มีข่าวว่าถนนกับทางรถไฟก็ถูกตัดขาดหมดแล้วตอนนี้

“ ไฟก็ดับหมดแล้วพ่อ” แม่บอก “ เดี๋ยวต้องใช้เตาถ่านหุงข้าวแล้วละ”

แม่ยกครัวมาไว้ที่ชั้น 2 โชคดีจริงๆที่บ้านของแก้วมีสองชั้น ถ้ามีชั้นเดียว จะหุงหาอาหารกันอย่างไรหนอ อย่าว่าแต่หาที่หุงข้าวเลย จะยืนจะนั่งกันตรงไหนก็ยังไม่รู้

“ ดูท่าว่าจะหนักกว่าทุกปี”
พ่อพึมพำเมื่อมองไปเห็นเมืองทั้งเมืองมืดมิดและจมอยู่ในกระแสน้ำสีขุ่น


...หนึ่งวันผ่านไป...ฝนยังไม่หยุด และระดับน้ำก็สูงจนถึงขั้นวิกฤต น้ำฝนบวกกับน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขา ทำให้อำเภอของแก้วรวมถึงจังหวัดใกล้เคียงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ปีนี้เด็กๆที่เคยสนุกก็สนุกไม่ออกเสียแล้ว มีเสียงเด็กร้องไห้จ้าอยู่แทบทุกบ้าน

ชาวบ้านที่อยู่บ้านชั้นเดียวต่างอพยพโยกย้ายไปอาศัยเพื่อนบ้านที่เป็นบ้าน 2-3ชั้น บ้านของแก้วก็มีเพื่อนบ้านมาขออาศัยอยู่ด้วยหลายคน

...วันที่สองผ่านไปอีกวัน จนถึงวันที่สาม น้ำไม่ท่วมสูงกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่ลดลงแต่อย่างใด ข้าวสารที่บ้านแก้วหมดแล้ว ได้ยินว่าผู้คนในทุกๆที่กำลังอดอยากเช่นเดียวกัน ความเชี่ยวกรากของกระแสน้ำ ทำให้การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบาก ข่าวความหิวโหยของผู้คนแพร่สะพัดในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ก็หย่อนอาหารลงมาให้ชาวบ้านไม่ทั่วถึง

แต่...ชาวบ้านย่านที่แก้วอยู่ช่างโชคดีที่อยู่ใกล้แหล่งข้าวสารอาหารแห้งอย่างร้านแปะย้งที่ยังคงไม่เลิกกิจการเหมือนร้านชำในย่านอื่นๆ
พ่อกับเพื่อนบ้านสามารถลุยน้ำระดับอกไปซื้อของที่ร้านแปะย้งได้

“ไหน...ได้อะไรมาบ้างพ่อ” แม่ถามเมื่อพ่อหอบข้าวของมาถึง

“ เยอะแยะ ข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า แล้วก็นี่ ถั่วเขียวกับน้ำตาลเอามาต้มกินกัน ขนมอะไรมีหมด แปะย้งบอกว่าบนโกดังของแกยังมีอีกเยอะ จะเอาอะไรก็ไปเอา”

“ แหม โชคดีจริง แถวอื่นเขาจะอดตายกันแล้วนะพ่อ มีแต่พวกเรานี่แหละยังมีเสบียงเหลือเฟือ”

“ เฮ้อ จะดีจะชั่วก็ยังได้พึ่งพากัน นี่ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าไม่มีร้านแก พวกเราจะทำยังไง” ใครคนหนึ่งพูด

“ ก็คงรอข้าวถุงจากฮ. หรือไม่ก็จับปลาแถวนี้กินกันไปก่อน”

อีกคนเสริมแบบไม่เครียด เมื่อท้องไม่หิว คนเรามักจะมีอารมณ์ขันเสมอแม้จะอยู่ในยามวิกฤตเพียงใดก็ตาม


วันที่สี่...น้ำลดลงครึ่งหนึ่ง
วันที่ห้า...น้ำลดลงเหลือแค่ตาตุ่ม
วันที่หก...น้ำที่เคยมากมายมหาศาลไม่รู้หายไปไหนหมด

วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ท้องถนนเต็มไปด้วยโคลนตม และแน่นอนว่ามันพังยับเยินไปทุกสาย กว่าเทศบาลจะบูรณะพัฒนาขึ้นมาใหม่ ก็คงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร เพื่อนบ้านขอบอกขอบใจพ่อกับแม่ที่ให้พึ่งพาในยามยาก ทุกคนสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆกันด้วยคาดไม่ถึงว่า อุทกภัยครั้งนี้จะรุนแรงเป็นประวัติการณ์เช่นนี้


............................................

“ แก้ว!” เสียงแม่เรียกแก้ว “ ไปซื้อเกลือป่นร้านแปะย้งให้แม่หน่อย”

“ ได้ค่ะแม่”

เที่ยวนี้แก้วรับปากอย่างกระตือรือร้น เมื่อมาถึงก็เจอแปะย้งกำลังจัดข้าวจัดของอยู่ชุลมุน

“ เอาอะไร อาแก้ว” แกถามเสียงห้วนตามสไตล์

“ เกลือถุงนึง”

แปะย้งรื้อๆค้นๆอยู่พักใหญ่ ก็หยิบถุงเกลือมาให้แก้ว

“ เอ้านี่ ถุงสุดท้ายแล้ว เอาไปเลย อั๊วไม่คิดเงินลื้อ”

แก้วขอบคุณแกแล้วก็ชวนคุยว่า ช่วงน้ำท่วมคงขายดีมากสินะ แปะย้งยิ้มให้แก้ว เป็นยิ้มกึ่งเศร้ากึ่งดีใจชอบกล

“ อั๊วขายดีที่สุดตั้งแต่เปิดร้านมา ขายไปจนของเกือบหมดร้าน บ้านไหนๆก็ลุยน้ำมาซื้อของร้านอั๊วทั้งนั้น”

“ ดีใจด้วยนะแปะ”

“ อั๊วก็ดีใจที่โละๆไปได้ อั๊วจะได้เลิกกิจการซะที”

“ อ้าว!”

“ อั๊วขายดีแค่ช่วงน้ำท่วมปีละครั้ง อั๊วอยู่ไม่ไหวอ่า”

“...”

“ บอกแม่ลื้อด้วยว่าเดือนหน้าอั๊วจะเลิกขายแล้ว จะเอาอะไรก็มาซื้อนะ อั๊วจะขายให้ถูกๆ”

แก้วเดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ถ้าร้านชำร้านสุดท้ายของอำเภอนี้ต้องปิดตัวเองลง


...น้ำท่วมในมรสุมหน้า ผู้คนย่านนี้จะทำอย่างไร...? จะพึ่งบิ๊กซี โลตัสได้เหมือนที่พึ่งร้านแปะย้งหรือเปล่า...?



.............................................................................


........................................................


ขอบคุณภาพประกอบจาก ลุงแมว





.........................................................................








 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551
51 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 17:01:41 น.
Counter : 546 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

ระหว่าง บิลต์อารมณ์เขียนนิยายเรื่องใหม่
ขอเอาเรื่องสั้นมาลงคั่นไปก่อน

จะมีใครมาอ่านมั้ยเนี่ย...?

เรื่องนี้เขียนหลายปีแล้ว สิบเอ็ดปีมั้งคะ
เขียนแบบตรงๆ ไม่ค่อยสำบัดสำนวน เพราะอยากให้เป็นมุมมองใสๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

เอามาลงเป็นเรื่องแรกในตอนนี้ เพราะเห็นว่าน่าจะเข้ากะสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ค่ะ...

....เข้ามาแล้วฝากคอมเมนต์ซักนิดนะคะ...ขอบคุณค่ะ...


 

โดย: ทากชมพู 13 พฤศจิกายน 2551 17:08:14 น.  

 

เราชอบอ่านเรื่องสั้น ...เพราะสมาธิสั้นเหมือนกัน

เห็นห้างใหญ่พวกนี้ขยายไปทุกที่แล้วก็ใจหาย ร้านเล็กๆคงลําบากน่าดู

ตอนไปตลาดอัพวาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยังดีใจที่ชุมชนเค้ามีแรงต่อต้านโลตัส รวมตัวกันเหนียวแน่น
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ข่าวว่าโลตัสเริ่มตอกเสากันแล้ว
...คนเซ็นอนุมัติบ้านเรา ง้างได้ด้วยเงิน

ลงเรื่องต่อนะจ๊ะ เราจะตามอ่าน

 

โดย: เป๋อน้อย 13 พฤศจิกายน 2551 18:31:17 น.  

 

สนุกดีค่ะ พี่อัยย์

ลงเรื่องอื่นต่ออีกนะคะ

เนื้อหาไม่ล้าสมัยเลยค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 13 พฤศจิกายน 2551 19:35:42 น.  

 

หูย ดีใจสุดๆ มีคนอ่านสองคนแว้ว...

 

โดย: ทากชมพู 13 พฤศจิกายน 2551 19:54:08 น.  

 

ดีจัง อ่านแล้วได้อารมณ์ดี ถ้าเกิดร้านขายของชำแถวบ้านเราหมดไปจริงๆ ก้อคงลำบากเนอะ ช่วยๆกันอุดหนุนร้านค้าข้างบ้านบ้างนะ จะติดตามผลงานเรื่องต่อไปจ้า

 

โดย: แอน IP: 124.121.191.84 13 พฤศจิกายน 2551 21:10:42 น.  

 

อ่านสนุกมากไม่ได้แกล้งชมนะ
สั้นๆแต่ได้ความสนุกและเกร็ดชีวิตความเป็นอยู่

วิถีชาวบ้านช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยน้ำใจ

มีจริงๆนะนั่นร้านแบบของแป๊ะย้ง สมัยเด็กๆจำได้ดี

 

โดย: ลุงแอ๊ด 13 พฤศจิกายน 2551 21:13:46 น.  

 

มาอ่านด้วยคนค่ะ
หลงเข้ามาแล้วนี่....เหอเหอ
ชอบเรื่องสั้นเหมือนกัน
แต่สงสัยว่า"เทพแห่งความกระชับ" นี่มันมีความหมายว่าไง ตีความได้หลายอย่างน่ะ

เข้าไปที่บล็อกแล้วบอก(ประชด)ว่าดองบล็อกน่ะ
เค้าดองจริง ๆ นะ...จะดองอีกนานด้วย อิอิ

 

โดย: ชิงดวง 13 พฤศจิกายน 2551 21:28:10 น.  

 

อ่านแล้วเข้าใจถึงเจตนาของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี และเห็นด้วยครับ

เห็นห้างใหญ่ๆ แล้วหนักใจแทนคนไทยส่วนหนึ่งเหมือนกัน ห้างใหญ่กำลังซื้อสูงจึงได้ของในราคาถูก ส่วนร้านเล็กกำลังซื้อต่ำจึงได้ของในราคาแพงกว่า

จะว่าผู้บริโภคขั้นสุดท้ายก็ไม่ได้ เพราะต่างก็อยากได้ของในราคาประหยัดกว่าเพื่อทุ่นค่าใช้จ่ายกันทั้งนั้น

สมัยแรกๆ จะมีเพียงขายส่ง คือต้องซื้อจำนวนเยอะๆ ก็ยังพอเข้าใจได้ว่า ทำมาเพื่อให้เจ้าของร้านเล็กๆ ไปซื้อมาเพื่อจำหน่าย แต่เดี๋ยวนี้ชิ้นเดียวก็ขาย

ร้านค้าเล็กๆ เลยพลอยรับกรรม พากันปิดกิจการเป็นแถว ได้รับรู้และเห็นความลำบากของเจ้าของกิจการเล็กๆ อยู่เหมือนกัน

แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อรัฐฯ อนุมัติให้เขาสร้างเขาทำ

ขอร่วมไว้อาลัยให้กับร้านค้าของชำเล็กๆ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

ปล. เกี่ยวไหมเนี่ย

.........

โม้เสียลืมเมนท์เลย เขียนได้ดีมาก สั้นๆ ได้ใจความ แต่พุ่งตรงสู่เป้าหมาย สมกับความเป็นมืออาชีพครับ

 

โดย: ชวนคุย 14 พฤศจิกายน 2551 7:44:21 น.  

 

จะสั้น จะยาว ก็อ่านค่ะ

อุ๋มชอบอ่านเรื่องสั้นค่ะ เพราะว่ามักจะมีประเด็นสำคัญที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ... ส่วนใหญ่อ่านเพื่อฝึกวิทยายุทธให้ตัวเองรู้จักสังเกตว่่ามันน่าจะมีอะไรที่หักมุมหรือเปล่า ...

ตอนนี้ใจใหญ่ อยากอ่านเพชรพระอุมา ... ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า เพราะงานยุ่งมากมาย ...

... รออ่านเรื่องต่อๆ ไปนะคะ

 

โดย: SIMAKHA 14 พฤศจิกายน 2551 8:48:25 น.  

 

เบรกบรรยากาศจากบล็อกยุโรป มาเป็นอ่านเรื่องสั้นบ้านๆกันบ้างนะคะ

................

ใครมีความเห็นเรื่องร้านชำ เรื่องซูเปอร์สโตร์ เรื่องน้ำท่วมยังไง ก็ลองเมนต์กันดูนะคะ

จขบ.เอง..แม้เป็นห่วงเรื่องร้านชำ
แต่ในชีวิตจริง ก็ต้องไหลไปตามกระแส ...ชอบไปซื้อของที่โลตัสเหมือนกัน หุหุ...

ไม่รู้จะทำยังไง...

ไม่ให้ซื้อที่นั่น จะไปซื้อที่ไหนอะคะตอนนี้...

 

โดย: ทากชมพู 14 พฤศจิกายน 2551 10:21:49 น.  

 

ไม่ว่าอะไรมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียล่ะค่ะพี่อัยย์ ข้อดีของโลตัสก็คือเราสามารถหาซื้อของได้ในราคาถูก และว่ายิ่งถูกก็ยิ่งอยากซื้อ บางทีซื้อมาแล้วยังไม่รุ้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ก็มี แต่อย่างร้านขายของชำข้อเสียก็คือของแพง แล้วบางทีของแถมเค้าก็ไม่ให้ แต่ข้อดีมีตรงที่ เวลาผ่านร้านเค้าแล้วนึกอยากกินอะไรเกิดลืมเอาตังค์ไปก็แปะโป้งเค้าไว้ก่อนได้ แล้วเอาเงินมาจ่ายทีหลังได้

 

โดย: น้องค่ะ (หนึ่งมณี ) 14 พฤศจิกายน 2551 11:36:23 น.  

 

ดีครับสหาย

ชอบอ่านเรืองสั้นมากเลยครับ

เรื่องแรกที่อ่านเรื่องสั้นตอนเรียนอะครับ จำชื่อไม่ได้น่าจะเป็นเรื่องคลีบหักไหรนี้แหละครับ

ช่วงนี้งานยุ่งมากครับ

ปวดหัวกะหนังอยู่อะครับ


 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 14 พฤศจิกายน 2551 12:20:47 น.  

 



อิอิ มองสหายเปงคนแบบนั้นไปได้นะ

คนเรา

ชอบซื้อของร้านชำมากๆ


ได้บรรยากาศดีครับ
เอามาลงเรื่อยๆนะครับ

 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 14 พฤศจิกายน 2551 13:07:45 น.  

 

เรื่องสั้น..ขนาดสั้น
แต่ก็ยืดประเด็นให้คนพูดต่อได้ยาว ...
นี่แหละคือความเท่ของบล็อกนี้.

ร้านชำ ... ห้ามหยิบของเอง จะเอาอะไรบอก หยิบให้
ซูเปอร์สโตร์ ...หยิบเอง ตามใจ สะดวกดี แต่บางทีจะซื้อของหลายชนิด ก็ต้องเดินหากันเกือบทั่วห้าง ถ้าลืมก็ต้องกลับไปหากันใหม่

ร้านชำ ... ตั้งใจไปซื้อไข่ ได้ไข่
ซูเปอร์สโตร์ ... ตั้งใจไปซื้อไข่ ได้เครื่องปั่น ได้กระทะทอดอันใหม่ ได้ ..ฯลฯ แต่ที่ไม่ได้คือ ไข่
......

 

โดย: ซาตานสีดำ (วันนี้ไว้ทุกข์) IP: 203.154.236.198 14 พฤศจิกายน 2551 13:24:56 น.  

 

ถ้าเอากำไรแต่พอดีไม่งกกันนัก หัดพูดจาพาทีกับลูกค้าดีๆกันบ้างมีหรือคนไม่ช่วยซื้อจากร้านชำ จะซื้อตามห้างก็ต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย ซื้อปากซอยแพงกว่าหน่อยก็ประหยัดบางส่วนไปได้ ต่างปรับเข้าหากันท้ายสุดร้านชำก็อยู่ได้ คนใช้บริการก็มีความสุข





 

โดย: เขาพนม IP: 203.113.0.206 14 พฤศจิกายน 2551 13:30:54 น.  

 

คห.15

ไม่ได้ไข่แล้วเผลอๆยังได้เครื่องคอมฯ จ่ายเป็นหมื่น

เพราะอย่างชั้นบนโลตัส รัชดา คือแผนกไอทีน่ะ...
มีทั้งมือถือ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป ฯลฯ

 

โดย: ทากชมพู IP: 58.136.53.70 14 พฤศจิกายน 2551 13:34:14 น.  

 

ร้านชำ .. ผับประจำชุมชน
กลับจากทำงานตอนเย็น เดินผ่านร้าน ...
"เฮ้ยอาโก .. เสือ แก้วนึง กรุงทอง 5 ตัว"
กระดกแก้ว วาบหายไปในคอ ยกบุหรี่จุดกับไม้ขีดที่แขวนไว้ข้างตู้ ...
"โก.. แปะไว้ก่อนนะ"
เป็นชีวิตที่คุ้นเคยตา ...

ซูเปอร์สโตร์ ...
ค่าแรงออก ไปเดินห้างซักหน่อย ซื้อเบียร์มา 2 ขวด (ทำไมมันไม่แช่ให้วะ) ... เดินไปจ่ายตังค์ ..
"ขอโทษค่ะ .. ยังไม่ถึงเวลา ขายให้ไม่ได้นะคะ"
อ้าว ...
งั้นเอาบุหรี่ 5 ตัว เอ๊ย ซองนึง ...
"รับไฟแช็ค ขนมจีบ หมากฝรั่งเพิ่มมั้ยคะ ..ตอนนี้เรามีโปรโมชั่น ซื้อ... แถม..." บลาๆๆๆๆ
"ขาดอีกแค่ 5 บาท พี่จะได้แสตมป์อีกหนึ่งดวง พี่รับซาลาเปา ... ๆๆๆๆ"
"พี่มีแสตมป์ 5 ดวงแล้ว เพิ่มเงินอีก 30 บาท แลกซื้อกาละมังมั้ยคะ คุ้มมากเลยนะคะ...."
!!!!!!

 

โดย: ซาตานสีดำ (วันนี้ไว้ทุกข์) IP: 203.154.236.198 14 พฤศจิกายน 2551 14:06:23 น.  

 

อยู่บ้านนอกที่มีสโตร์ใหญ่ๆ เข้าถึง
แต่มีร้านชำเล็กๆ อยู่หน้าปากซอย

ยามปกติ จะขับรถไปซื้อที่สโตร์ใหญ่ๆ เพราะเป็นคนขี้เกียจพูด บางครั้งซื้อของเต็มรถเข็นโดยไม่ต้องเอ่ยวาจาแม้แต่คำเดียว ชอบ แต่เบื่อตรงต้องแต่งตัว แต่งหน้าให้อยู่ในสภาพดี เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องเจอใครต่อใครบ้าง โทรมไม่ได้ เสียภาพพจน์

แต่ยามฉุกเฉิน จะเดินลากแตะ ผมเผ้าไม่ต้องหวี หน้ามัน(ขนาดทอดไข่ได้)ออกไปซื้อที่ร้านชำหน้าปากซอย ซื้อของอย่างเดียว แต่ต้องสนทนาพาทีพอสมควร ตั้งแต่เรื่องดิน ฟ้า อากาศ ถามสารทุกข์สุขดิบ ลามไปจนเรื่องการเมือง ตามประสาคนชนบท

ไม่รู้ว่าชอบแบบไหนมากกว่า

เลยใช้บริการทั้งสองแบบ แล้วแต่สถานการณ์...

 

โดย: เขียนยาวว่ะวันนี้ (ทาสบอย ) 14 พฤศจิกายน 2551 14:41:09 น.  

 

อุ๋มคิดว่าสาเหตุที่ไม่มีใครช่วยแกะทากให้อุ๋ม เพราะแบบนี้เองค่ะ

คลิกที่นี่ค่ะแล้วจะรู้เหตุผลเหมือนอุ๋ม

 

โดย: SIMAKHA 14 พฤศจิกายน 2551 15:54:18 น.  

 

เพิ่งเลิกประชุมฮะพี่สาวสุดที่ร๊ากกกกกกก

วันนี้ทั้งวันเลย...หน้ามึนๆ อยู่ ไม่รู้อะไรเป็นอะไร

หูก็ร้อน หน้าก็เย็น..หน้าหนาวเต็มที่แล้วเน่อ

ยังไม่ได้อ่านเรื่องสั้น เดี๋ยวจะกลับขึ้นไปอ่านนะครับพี่ ตอนนี้ยุ่งๆ อยู่ พรุ่งนี้จะไปอ่างขางงงงงงง

ต้องคุยกับทีมให้เสร็จก่อน....

 

โดย: น้ำจาย IP: 202.28.24.245 14 พฤศจิกายน 2551 16:47:24 น.  

 

ร้านขายของชำอยู่ไกลบ้านมากกว่าโลตัส(express)อ่ะ
แถมยังมี 7-11 และ ซีพีเฟรชมาร์ทอยู่ติดกันซะอีก
เลยไปซื้อร้านของชำลำบากหน่อย

ได้แต่คิดถึงเสน่ห์ของร้านขายของชำค่ะ

 

โดย: ชิงดวง 14 พฤศจิกายน 2551 17:08:07 น.  

 

เรื่องสั้นคิวต่อไป

อยากให้เพื่อนๆช่วยกันเลือกว่า...จะเอาเรื่องโจร หรือเรื่อง ผี ?

 

โดย: ทากชมพู IP: 58.136.53.70 14 พฤศจิกายน 2551 17:35:24 น.  

 

เอาเรื่องผี ค่ะ เรื่องนี้ อ่านจนจบกินใจดีจัง

 

โดย: pafun.p IP: 124.121.230.81 14 พฤศจิกายน 2551 17:58:40 น.  

 

อ่า ของแบบนี้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์จริงๆ นะครับเนี่ย บางสิ่งบางอย่างมันเราก็ไม่เลือกมัน เพียงเพราะว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในบางครั้งบางโอกาส ซึ่งแน่นอน ของส่งนั้นก็คงจะไม่รอให้เราใช้เพียงแค่บางครั้งบางโอกาสเช่นกัน

ถ้าจะบอกว่ามันเป็นไปตามธรรมดาของโลกก็อาจจะดูว่าเป็นคำพูดที่ค่อนข้างอำมหิตเกินไปซักหน่อย แต่ทว่ามันก็ไม่ได้เกินเลยไปจากนี้เท่าไหร่นะครับ

บางครั้งบางทีเราต้องยอมรับว่าข้อดีของห้างใหญ่ๆ มันดีกว่าเยอะจริงๆ แบบเห็นได้ชัดด้วย แต่ก็อย่างวานะครับ ในเมือรัฐบาลไม่เลือกที่จะทำห้างเหล่านั้นออกมาเอง หรือไม่ส่งเสริมให้ชุมชนมีห้างเป็นของชุมชนเองละก็

เราก็ต้องยอมรับที่มันจะเป็นเช่นนี้..

ผมเองยังชื่นชมระบบสหกรณ์ของชุมชนอยู่ ซึ่งถ้าจัดการดีๆ ผมว่าชุมชนสามารถสู้กับห้างใหญ่ๆ ได้เลยนะครับ

ซึ่งยังไงก็ตาม ร้านชำก็จะหมดความสำคัญลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน

โลกมันเปลี่ยนไปหรือเปล่าครับพี่ บางทีเราก็อาจต้องเลิกใช้เพจ แล้วหันมาใช้โทรศัพท์มือถือแทน

แบบนั้น

เรื่องนี้สั้นๆ ดีครับ ชอบอ่านสั้นๆ แต่ชอบเขียนยาวๆ เอิ้กๆๆๆ

 

โดย: ฤทัยนาวา 14 พฤศจิกายน 2551 18:08:22 น.  

 


ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

เรื่องเกี่ยวกะโจร...แรงงงง...สะอึก!
เรื่องเกี่ยวกะผี....หลอน...ขำ...(คิดว่านะ)


อ่านอันไหนก่อนคะ..?

 

โดย: อัยย์ (ทากชมพู ) 14 พฤศจิกายน 2551 18:11:22 น.  

 

เป็นพวกสมาธิสั้นด้วยอีกคน

บางเรื่องก็แล้วแต่จะคิดในมุมไหนนะคะ
ทั้งด้านดี ด้านร้าย
แล้วแต่มุมมอง พื้นฐาน และสถานการณ์ของคนคิดด้วย

ขอไปทะเลก่อน แล้วจะกลับมาอ่านเรื่องโจร กับเรื่องผี
เรื่องไหนก่อนก็ได้
ขอบคุณที่มีเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ

 

โดย: HoneyLemonSoda 14 พฤศจิกายน 2551 18:13:07 น.  

 

สวัสดีครับทากชมพู

อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้แล้ว...

ทำท่าเหมือนจะเดาถูก แต่ก็เดาไม่ถูก

ต้องบอกว่าชั้นเชิงไม่เบาทีเดียว


ขอแจมด้วยคนนะ พอดีเพิ่งพบไฟล์ความเรียงสั้นๆชุดนี้ เขียนไว้ตั้งแต่หนุ่มแล้ว...เอามาให้อ่านเล่น เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องแต่ง



ภาพชีวิตกับคนเหวี่ยงแห


เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ฉันเดินถ่ายรูปเล่นตามริมแม่น้ำ พลันสายตาของฉัน ก็พบกับภาพคนเหวี่ยงแหกำลังตั้งท่าจด ๆ จ้อง ๆ สายน้ำไหลเอื่อยกับดวงตะวันยามเย็นช่างเป็นภาพชีวิตที่งดงามเสียนี่กระไร

ฉันเดินเข้าไปใกล้เพื่อขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก คนเหลี่ยงแหยังตั้งท่าจด ๆ จ้อง ๆ ฉันก็ตั้งกล้องเตรียมกดชัตเตอร์ เขายังคงจดจ้องสายตาอยู่เหนือผิวน้ำ แต่เขาก็ยังไม่ยอมเหวี่ยงแหเสียที

ฉันเล็งกล้องค้างอยู่นาน เพราะต้องการได้ภาพที่แหกำลังคลี่บานอยู่กลางอากาศและมีดวงอาทิตย์กลมโตสีแดงสดซึ่งกำลังจะลับลงแล้วอยู่เบื้องหลัง ฉันจึงใช้วิธีนับ

“หนึ่ง…สอง…สาม…เอ้าเหวี่ยงได้เลย”

เขาหันหน้ากลับมาทางฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า

“จะเหวี่ยงเข้าไปได้ยังไงล่ะ ปลามันยังไม่ขึ้นมาเลยนี่”.






 

โดย: พ่อพเยีย IP: 202.149.25.233 14 พฤศจิกายน 2551 18:49:55 น.  

 

สุขสันต์วันหยุดครับ



จริงๆตอนนี้ในซอยก็มีร้านขายของชำอยู่ร้านสองร้าน
ก็ได้ใช้บริการบ้างเวลาอะไรขาด แต่ร้านเขาก็อยู่ได้มาตลอดนะ

ถ้าเป็นทุกต้นเดือนก็จ่ายของจากห้างเหมือนกันเพราะมีของครบ

 

โดย: ลุงแอ๊ด 14 พฤศจิกายน 2551 19:30:40 น.  

 

ร้านชำอยู่ตรงข้ามบ้านเลยค่ะ

เวลาอยากได้อะไร

เรียกหลานไปซื้อให้

แต่เวลาที่หลานอยากได้อะไร

จะต้องไปซื้อให้ที่ซูเปอร์สโตร์เท่านั้น

เรื่องต่อไป ถ้าให้เลือก

ขอเลือกเรื่องแรงๆค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 14 พฤศจิกายน 2551 19:51:24 น.  

 

จุ๊ จุ๊ นะพี่อัยย์

ยุ้ยบอกพี่คนเดียวนะนี่

ที่หลังไมค์ค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 14 พฤศจิกายน 2551 21:22:57 น.  

 

อ่านแล้วมองเห็นภาพแปะย้งเดินไปเดินมาอยู่ไหวๆ ด้วยท่าทางคุ่นคิดถึงอนาคตของร้านชำที่เป็นทั้งที่อยู่ที่กิน...

แม่ผมชอบไปนั่งที่ร้านชำร้านหนึ่งชื่อร้าน เจ๊กอิ๊ว เจ้าของร้านเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานไม่มีวันหยุด กินน้อย ใช้น้อย เป็นแบบอย่างที่คุณแม่นำมาเล่าให้ลูกๆฟังเสมอๆ

แม่ชอบไปนั่งคุยกับเจ๊กอิ๊ว หรือผู้ภรรยาจนดึกดื่นด้วยเรื่องค้าขาย เป็นขาประจำกันหลายปี ขาดเหลืออะไรเป็นต้องไปเอามาจากร้านนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ร้านใกล้บ้านก็ตามที

แม่คงได้เทคนิคการค้ามาจากเจ็กอิ๊วอยู่บ้าง จึงเป็นทั้งชาวสวนและแม่ค้าในเวลาต่อมา...

 

โดย: Insignia_Museum 14 พฤศจิกายน 2551 21:30:58 น.  

 

คห.30 มีกระซิบด้วย

 

โดย: ลุงแอ๊ด 14 พฤศจิกายน 2551 21:44:00 น.  

 

สวัสดียามค่ำ
อ่านแล้วมีความรู้สึกที่ดีของคนสีผิวเดียวกัน เมื่อยามคับขันความเมตตาที่มีอยู่ในจิตใต้สำนึกก็ได้แสดงออก พวกกาขาวเอากำไรส่งประเทศแม่อย่างเดียว
เป็นธรรมดาที่ประเทศเราไม่ค่อยจะได้ปลูกฝังเรื่องการเป็นชาตินิยม อย่างประเทศญี่ปุ่น ห้างต่างประเทศก็อยู่ไม่ได้เพราะคนในชาติเขาไม่ซี้อ ความรักชาติแบบนี้เราไม่มี
มีแต่ไอ้พวกคลั่งชาติ

Shall we dance เรื่องนี้ไม่ได้ดู คุณจิงเจอร์ โรเจอร์ รับตามตรงว่าไม่คุ้นเธอเลย แต่ต้องขอบคุณคุณทากชมพูมากที่แนะนำเพื่อนที่ไม่เคยได้พบไปรูจักกัน

อากาศเย็น ดูแลสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์

 

โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม 14 พฤศจิกายน 2551 22:17:58 น.  

 

สวัสดีครับ เข้ามาอ่านแล้วตามคำเชิญนะครับ อันที่จริงไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ถ้าผมไม่ไปทำงาน ตจว ก็จะว่าง ไม่ได้ทำอะไร ผมเคยเข้ามาอ่านที่นี่ด้วยครับ ที่เป็นตอนๆ นั้นครับ ผมชอบอ่านพวกเรื่องสั้นเหมือนกันครับ แต่ก่อนซื้อหนังสือบ่อย บางเล่มก็ยังไม่ได้อ่านก็มี จะชอบของคุณมนันยา มีเยอะ เอ๊ะ อย่างงั้นเขาเรียกว่า เรื่องแปล มากกว่าใช่ไม๊ครับ

อ่านเรื่องนี้ของคุณทากชมพู มันใกล้ตัวมากเลยครับ คือที่บ้านผมก็เปิดร้านขายของแบบอาแปะนี่แหละ ตอนนี้ร้านเซเว่นมาเปิดหัวซอยท้ายซอยเลย คนข้างบ้านบางทีจะซื้อของให้สามี แปรงสีฟันอันเดียว มันไปคาร์ฟู แทนที่จะอุดหนุนเราข้างบ้าน ซึ่งเราก็ช่วยเขาหลายๆ อย่างด้วยครับ เฝ้าหน้าบ้าน ฝากกุญแจ ให้จอดรถหน้าบ้านเรา ความรู้สึกช่างเหมือนเรื่องสั้นของ จขบ เลยครับ

แต่ก่อนเวลาไปต่างจังหวัดก็จะชอบซื้อของพวกร้านเซเว่นพวกนี้ เพราะขี้เกียจคุยกับเจ้าของร้าน อาซ้อ อาซิ้มบางคนหน้าตาดุๆ ไม่เต็มใจขาย แต่เดี๋ยวนี้จะช่วยอุดหนุนเขาครับ กลัวจะปิดไปเหมือนร้านอาแปะ อยากอนุรักษ์บรรยากาศโรแมนติกเก่าๆ เอาไว้

 

โดย: dj booboo 14 พฤศจิกายน 2551 23:31:01 น.  

 

เข้ามายามดึก ชื่นใจจางงง...

เพื่อนๆเข้ามาอ่านเรื่องสั้นซีไรต์(?)กันเพียบ...


ยังงี้ค่อยกลับไปนอนหลับฝันดีหน่อย...

 

โดย: อัยย์ IP: 115.67.123.116 15 พฤศจิกายน 2551 0:07:55 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องสั้นแล้ว...ให้ข้อคิดดีครับ..


เขียนบ่อย ๆสิครับ ชอบอ่านเรื่องสั้นนะครับ..

 

โดย: กิ่งโศก (Taboonkam ) 15 พฤศจิกายน 2551 7:59:55 น.  

 

พี่อัยย์ ... อุ๋มขอโหวต เรื่องผีค่ะ อยากอ่านเรื่องผี

เรื่องโจรเห็นบ่อยตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว เอาเรื่องผีเลยดีกว่า

 

โดย: SIMAKHA 15 พฤศจิกายน 2551 9:25:18 น.  

 

หวัดดีจ้า กำลังเลิกงานอะ ถอยแล้ว eos1000D ไปถ่าย

รูปงานลอยกระทงมา ว่างๆจะเอาขึ้น blog นะ

อืม สบายดีป่าวคับ วันนี้ทำอะไรบ้าง

ผมมาทำงานวันนี้ พรุ่งนี้ก็มา อืม ไม่มีวันหยุดเลย

เนี่ยเดี๋ยวต้องกลับไปซักผ้าต่อแล้ว อืม ชายโสดเนอะ

ไม่มีใครทำให้ ว่าง

ว่าง ๆ จะแวะมาอ่าน นิยายนะ อืมๆ รีบกลับบ้านก่อนจ้า

 

โดย: ซ้อมเต้น 15 พฤศจิกายน 2551 16:03:30 น.  

 

อากาศหนาวห่มผ้าหนาๆ ละกาน จขบ. อืม สิ้นเดือนจะไป

เที่ยวจะเก็บภาพสวยๆมาฝากเน่อ

รูปเรือข้างบน มุมสวยดีนะแต่มืดไปหน่อย

อืม หิวข้าวแล้ว ไปละ

คิดถึง เช่นกัน..

 

โดย: ซ้อมเต้น 15 พฤศจิกายน 2551 16:05:28 น.  

 

แฟนยังหาไม่เจอ ยังทันอยู่ เหลืออีกตั้ง 40 กว่าวัน

ต้องหาให้ทันก่อนปีใหม่ให้ได้ อิๆๆ

 

โดย: ซ้อมเต้น 15 พฤศจิกายน 2551 16:07:10 น.  

 

ห้างต่างชาตินอกจากทำให้โชห่วยตายยังทำให้เงินไหลออกนอกประเทศด้วยครับ

 

โดย: kirofsky 15 พฤศจิกายน 2551 19:17:54 น.  

 

ฝันดีค่ะ พี่อัยย์

ตลาดสามชุกอยู่ในลิสท์ที่จะไปเยือนเหมือนกัน

พาคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 15 พฤศจิกายน 2551 21:17:25 น.  

 

สวัสดียามดึก
ดร.ชิวาโก้ เรื่องนี้ก็ชอบแต่ตอนจบเศร้าจัง ยังเก็บดีวีดีไว้เมื่อคิดถึงก็เอาออกมาดูย้อนอดีต จูลี่ คริสตี้ ก็เป็นคนหนึ่งที่น่ารักในสมัยนั้น ระยะหลังไม่ได้ติดตามผลงานของเธออีก
ขอบคุณที่พาเธอไปเยี่ยมที่บ้าน ให้จขบ.มีสุขภาพที่แข็งแรง ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดี

 

โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม 15 พฤศจิกายน 2551 22:12:36 น.  

 

 

โดย: อุ้มสี 16 พฤศจิกายน 2551 1:24:52 น.  

 




เปลี่ยนจากท่องเที่ยวมาเป็นเรื่องสั้น วาเลยเหวอนิดๆค่ะ
ตอนนี้สิบโมงค่ำของที่ยุโรปค่ะ
พรุ่งนี้วามีนัด เลี้ยงลาเพื่อนร่วมงาน
ไม่ไปไม่ได้ มีตั้งแตเที่ยงเลย แล้วถ้าจะยาวไปจน ดึกแค่ไหนไม่รู้

เอาล่ะค่ะ ว่าด้วยเรื่องสั้น คงสั้นจริงๆ
วาก็เลยว่าอ่านซะเลยตอนนี้

สิบปีที่เขียนมา เรื่องน่าอ่านไม่น้อยเลยชิค่ะนี่
มีรวมเล่มเมื่อไหร่ แล้วส่งให้วาอ่านมั่งสิค่ะ
จะอ่านตอนนั่งไปทำงานน่ะค่ะ


Photobucket

 

โดย: Sweety-around-the-world 16 พฤศจิกายน 2551 4:44:31 น.  

 

พี่อัยย์ขา

กลับมาแล้ว

แวะไปรับแท็กที่บล็อกหน่อยนะคะ

ทำไม่ยากเลยสำหรับพี่อัยย์

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 16 พฤศจิกายน 2551 10:53:18 น.  

 


สหายๆๆ นะสหายย


จะไม่ปลอยให้รอดไปได้เลยหรอครับ


 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 16 พฤศจิกายน 2551 12:46:07 น.  

 




อิอิ เราไม่กลัวหรอกสหาย


สมุนคอยคุ้มกันเยอะ ผ่านมาไม่ได้หรอก

ดูเสียก่อนนะครับ




มาจากป่าทั้งนั้น ออิอิ

 

โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 16 พฤศจิกายน 2551 12:51:54 น.  

 



เปิดค้างไว้ อ่านไป ก็วิ่งไปทำงาน พาแขกดูห้องเสร็จก็วิ่งมาอ่านต่อ..

อ่านจบแล้ว สงสารแปะยิ้มจัง..


อ่านไปนึกภาพตามก็เห็นเป็นฉากๆเลยค่ะ มีรวมเล่มมั้ยเอ่ย..

จะเอาไปปูเสื่อนอนอ่านใต้ต้นมะพร้าวที่ชายหาดน่ะค่ะ..


เป็นกำลังใจให้นะคะ..เรื่องต่อไปเอาเรื่อง ผี..จ้า..ชอบอ่ะ..

 

โดย: หญิงจ่อย.. (sonnen ) 16 พฤศจิกายน 2551 17:18:52 น.  

 

พิมพ์ผิดอีก..แปะย้ง ย่ะ ไม่ใช่แปะยิ้ม..

 

โดย: หญิงจ่อย.. (sonnen ) 16 พฤศจิกายน 2551 17:20:07 น.  

 

หากพี่อัยย์จะไปเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ต้องการไกด์ บอกนะคะ

มีรถรับส่งถึงที่ค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 16 พฤศจิกายน 2551 17:43:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทากชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






เป็นนักล่าน้ำตก บ้านๆ ธรรมดาๆ พื้นๆ ง่ายๆ

เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร...เบื่ออันธพาล



สะดุดรัก..คู่ปรับหัวใจ นิยายสุดรักสุดหวงของอัยย์วางแผงแล้ว แวะรัก..กลางฤดูร้อน นิยายสุดรักอีกเรื่อง.. วางแผงแล้ว !!
Friends' blogs
[Add ทากชมพู's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.