ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 ตุลาคม 2552
 

ลูกเป็นอะไร ตอนที่ 10

นับถึงตอนที่ 10 นี้ น้องซันก็อายุ 6 ขวบกว่าๆแล้วค่ะ

ดิฉันงมหาสาเหตุมาเป็นปี ก็ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

มาคราวนี้ได้ฤกษ์เบิกชัย พาน้องซันเข้าทำ MRI แล้ว คิดไว้ว่าวันนี้คงจะได้คำตอบหล่ะ...เข้าข้างตัวเองอีกแล้ว ฝันไปหล่ะ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก เอ็งเอ้ยยยยย

................

หลังจากที่ได้หาข้อมูล...อีกนั่นแหล่ะ (ดิฉันมันประเภท นักค้นคว้าดีเด่น วันวันหาแต่ข้อมูล) พบว่าดิฉันสามารถพาลูกเข้าทำ MRI ในรพ.ไหนไหนก็ได้ ที่มีไอ้เจ้าเครื่องนี้

หรือ

ที่ศูนย์ MRI ของเอกชน ซึ่งเท่าที่ได้ข้อมูลมาคือที่ประชาชื่น

ณ เวลานั้น (4 ปีที่แล้ว) รพ.ที่น้องซันใช้บริการอยู่เป็นประจำ ยังไม่ได้สั่งซื้อเครื่อง MRI มา เดาเอาว่าน่าจะหลายสิบล้านอยู่ แต่ปัจจุบันนี้มีเรียบร้อยแล้วค่ะ (แอบโฆษณาให้เค้านิ๊ดนึง... รพ. พระรามเก้า)

ดิฉันเลือกที่จะทำที่ประชาชื่น เพราะเหตุผลว่าคุณหมอประจำตัวน้องซันแนะนำไป ซึ่งดิฉันเองยังนึกภาพไม่ออกว่าสถานที่จะเป็นอย่างไร

สิ่งที่น้องซันจะต้องทำก็คือ ต้องหลับให้ได้ และคราวนี้ต้องหลับลึก เพราะไอ้เจ้าเครื่อง MRI นี้ มันคือเครื่องมือที่ใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง เวลาเปิดเครื่องเสียงจะดังเหมือนเราเอาเหล็กสองแท่งมาตีกันเป๊งโป๊ง เป๊งโป๊ง ตลอดทั้งชั่วโมง ซึ่งน้องซันต้องอยู่ในเครื่องนี้ 1 ชั่วโมง

คุณหมอส่งใบสั่งไปที่ประชาชื่น แต่ไม่ได้มีการบอกให้ดิฉันเรื่องที่น้องซันต้องหลับลึกให้ฟัง คุณหมอคงคิดว่าดิฉันคงรู้ เพราะเห็นว่านังแม่คนนี้ มันหาข้อมูลมาดี แต่ขอบอก......ดิฉันไม่รู้ค่ะ

ไปถึงสถานที่จริง เกือบ 2 ทุ่ม ก็ต้องกุมขมับ สถานที่โอ่โถง แต่คนใช้บริการเยอะมาก เนื่องจากว่าเป็นศุนย์ที่มีชื่อเสียง และหลายหลายรพ. ได้ส่งผู้ป่วยเข้ามาใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่นี่ เพราะเค้าไม่ได้มีแค่ MRI แต่ยังมีอีกหลายหลายเครื่องมือมากมาย

แล้วน้องซันจะหลับได้อย่างไร คนออกจะครึกครื้นซะขนาดนี้ นี่ดิฉันอุตส่าห์ไม่ให้ลูกนอนมาทั้งวัน แถมยังจองคิวตอนดึก กะว่าจะให้หลับสบายสบาย

แอบย่องไปฟังเสียงเจ้าเครื่อง MRI ทำงานในคิวก่อนหน้าน้องซัน โอ้โห มันดังดีแท้

อย่ากระนั้นเลย..ดิฉันอนุญาติให้คนอ่ืนแซงคิว แล้วโทรศัพท์ไปหาพี่ชายซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ ให้ช่วยเอายานอนหลับมาให้น้องซันทานหน่อย ดิฉันต้องการให้อยู่ในความดูแลของหมอ เพราะที่ศูนย์นี้จะไม่มีหมอด้านอื่นประจำ นอกซะจากรังสีเทคนิค อะไรประมาณนี้แหล่ะค่ะ

ไม่นานนัก พี่ชายดิฉันก็มาพร้อมกับยา Domicum เป็นยาต้องห้ามที่หาซื้อกันไม่ได้ นอกเสียจากคุณหมอจะเป็นคนจ่าย แต่พี่ชายดิฉันเป็นหมอ เลยหนีบเอามาจ่ายให้หลานได้

ยา Domicum เป็นยากล่อมประสาทชนิดแรง (ถ้าจำคดีหมอผัสพร ที่โดนหั่นศพได้ เค้าจะถูกหลอกให้ทานยาชนิดนี้ก่อนอ่ะค่ะ) ในผู้ใหญ่ปกติ ทานเพียง 1/4 เม็ด และอยู่ในสถานที่ที่พร้อมจะพักผ่อน ก็หลับได้ไม่ถึง 5 นาทีหล่ะค่ะ
แต่ถ้ามีคนมาชวนคุย หรืออยู่ในที่ที่ไม่พร้อมจะนอน หรือฝืนความรู้สึกตัวเอง ก็จะไม่นอน จะยังทำอะไรเป็นปกติได้ เพียงแต่ไม่รู้ตัว

น้องซันก็เช่นกันค่ะ ตื่นเต้นกับสถานที่อย่างนั้นจะตาย มีหรือจะหลับได้

พี่ชายดิฉันเพิ่มยาให้จาก 1/4 เป็น 1/2 และ 3/4

น้องซันก็ไม่นอน แต่อาการออกแล้วค่ะ คือยิ้ม แล้วร้องเพลง Small World ซึ่งเป็นเพลงล่าสุดที่น้องซันประทับใจ เพราะเพ่ิงกลับจากไปเที่ยว Tokyo Dysneyland กันมา

ร้องซ้ำไปซ้ำมา พี่ชายดิฉันโวยวายแล้วว่า พอ พอ เลิก ไม่สามารถให้ต่อไปได้แล้ว นี่มันจะ Over Dose แล้ว ขืนทานมากกว่านี้ ปากเขียว ออกซิเจน Drop ตายกันพอดี เพราะที่ศูนย์เค้าไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยชีวิตไว้ด้วย

เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ก็ดีกันทุกคน เอาใจช่วยให้น้องซันหลับ แต่ผลกลับตรงกันข้าม ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาห้าทุ่มกว่าแล้ว คิวต่างต่างก็หมดเกลี้ยงแล้ว ดิฉันเกรงใจเจ้าหน้าที่มาก เพราะศูนย์เค้าปิดเที่ยงคืน หากว่ายังขืนดื้อที่จะอยู่คงไม่เกิดประโยชน์อะไร

เพิ่งมาสืบทราบภายหลังว่า ศูนย์ประชาชื่นไม่ค่อยมีเคสเด็กเล็กเท่าไหร่นัก เหตุผลก็คืออย่างที่ดิฉันเจอนี่แหล่ะค่ะ เพราะการทำ MRI จะกระดุกกระดิกไม่ได้เลย ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอุโมงเครื่องมือนั้น หากขยับขเยื้อนร่างกายแม้เพียงนิดเดียว ต้องเริ่มนับกันใหม่เลยทีเดียว ภาพที่ออกมาจะไม่ชัด ค่าที่ได้ก็ผิดเพี้ยนไป

คืนนั้น ดิฉันกลับถึงบ้านตีหนึ่ง ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน น้องซันนอนเอาศีรษะหนุนตักดิฉันมาตลอดทาง

ลูกหลับสบาย บนตักที่ลูกคุ้นเคย ในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ


ดิฉันกับสามีไม่มีคำพูดอะไรออกมาเลยซักคำ แต่ดิฉันร้องไห้ตลอดทางค่ะ

กลับมาถึงบ้าน ลูกสาวคนโตนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนอน ดิฉันวางน้องซันลงนอนข้างพี่สาว หมดแรงแล้วค่ะ ขอนอนกอดลูกทั้งสองคนนิ่งน่ิงนานนานก็พอ สำหรับคืนนี้

เราทำไม่สำเร็จอีกแล้ว






Create Date : 22 ตุลาคม 2552
Last Update : 25 ตุลาคม 2552 8:24:05 น. 0 comments
Counter : 764 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

rptperfect
 
Location :
Shanghai China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




นักเรียนนอก ทำงานไฟแรงอย่างดิฉันเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีวันที่ต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ...สามีเองก็เอ่ยปากเองแท้แท้ว่าไม่ชอบภรรยาที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ชอบผู้หญิงทำงาน
แต่...ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อลูกคนแรกคลอดออก เราทั้งคู่ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่า การได้ดุแลลูกด้วยตัวเอง

ตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ด้วยเงินเดือน 3 หมื่นบาท ใน 15 ปีก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถามสามีแค่ว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเลี้ยงเรากับลูกไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ถามไปอย่างนั้น ไม่ต้องการคำตอบ เพราะได้ตัดสินใจไปแล้ว

เพราะลูก คำเดียว

[Add rptperfect's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com