อยู่เยอรมันมาก็นานเกือบปีหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ไปดูหนังในโรงหนังกับเค้าซะที เำพราะคิดว่าดูไปยังไงก็ไม่คุ้ม (เพราะฟังก็ไม่ค่อยออก ซับก็ไม่มี) ปกติจะนิยมซื้อแผ่น DVD มาดูที่บ้านมากกว่า เพราะมีซับให้ เวลาไม่เข้าใจก็ Stop ไว้แล้วเปิดดิกได้ เหมือนได้ฝึกภาษาไปด้วย

แต่เมื่อไม่นานมานี้เห็นเรื่อง Wall-E แล้วแบบว่าเกิดอาการอยากดูมากมาย (ที่เมืองไทยอาจจะนาน แต่สำหรับที่นี่เพิ่งเข้าไม่นานมานี้เองจ้า) คนที่ไปดูมาแล้วก็บอกว่าดี ควรจะไปดู ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่คุ้มหรือดูไม่รู้เรื่อง เพราะว่าในเรื่องพูดกันไม่มาก ดูยังไงก็รู้เรื่อง ไม่ต้องใช้ความสามารถทางด้านภาษามากนัก ก็เลยได้ฤกษ์ประเดิมการดูหนังโรงครั้งแรกในเยอรมันด้วยเรื่อง Wall-E นี่ล่ะค่ะ

พอตัดสินใจได้แล้วก็ต้องรอไปดูวันอังคารค่ะ เพราะที่นี่ (ที่เราอยู่อ่ะนะ ที่อื่นไม่รู้มีเหมือนกันป่าว) ทุกวันอังคารจะมีโปรโมชั่น Kino Tag หรือวันดูหนัง คือบัตรดูหนังจะถูกกว่าวันอื่นค่ะ ไปดูกันรอบสองทุ่มสิบห้า ไปถึงก็เห็นเด็กๆ ยืนกันหน้าโรงหนังเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เลยค่ะ คิดว่าต้องมาดู Wall-E แน่นอน

ตื่นเต้นๆ คิดในใจว่าหน้าตาโรงหนังจะเป็นยังไง (บ้านนอกมากๆ) บรรยากาศจะเหมือนบ้านเรารึป่าว พอไปซื้อบัตรก็ปกติ คล้ายๆ บ้านเราล่ะ แต่คนดูเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะเลยได้ทีแถวหน้าๆ หน่อย ราคาก็ 4.5 ยูโรค่ะ (ไม่รู้ลดจากราคาปกติเท่าไร แต่ถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ถือว่าไม่แพงมาก)

หนังฉายรอบสองทุ่มสิบห้าค่ะ โรงที่ 2 เราก็เข้ากันไปก่อนเวลานิดนึงค่ะ พอเดินผ่านคนตรวจตั๋วก็มองหาโรง 2 เลย เห็นปุ๊บก็เดินตรงดิ่งไปเลยค่ะ เดินไปถึงก็เลี้ยวขวาเข้าประตู ด้วยความตื่นเต้น เข้าไปบรรยากาศก็ไม่ต่างจากโรงหนังทั่วไป (แต่ไม่มีม่านหรูหราไฮโซ เหมือนบ้านเรานะค่ะ เป็นโรงธรรมดาไม่ใหญ่มาก มีประตูทางเข้าแค่ด้านเดียวเท่านั้น

เดินเข้าไปก็หาทีนั่งเลยค่ะ เราเดินเข้าประตูอยู่ทางขาวมือ นึกภาพตามนะค่ะ ทางเดินก็อยู่ทางขาวมือ เราก็เดินลงไปตามบันไดเรื่อยๆ ค่ะ A B C …. พอเจอแถว H ที่เราจองไว้ก็เห็นว่ามีคนนั่งอยู่เยอะแล้ว ไม่อยากจะไปเดินตัดหน้าเค้า เห็นว่าแถว I ด้านหน้าว่างอยู่ เลยเดินไปทางแถว I เพื่อจะเดินย้อนมาตรงแถว H ที่เราจองไว้ (นึกภาพตามนะค่ะ)

พอเดินมาถึงสุดแถว I ป้้าดๆๆ แถวมันตันนี่หว่า (คือว่าโรงหนังปกติบ้านเราจะเดินขึ้นลงด้านริมได้สองทาง เราก็คิดว่ามันเหมือนกัน แต่ของที่นี่มันดันเดินได้ด้านเดียว เสี่ยวเลยคร้าบ ต้องเดินก้มหน้าก้มตาย้อนกลับมาแถว H ที่เราจองไว้ แล้วก็เดินผ่านคนที่นั่งอยู่แล้วไป ไม่รู้ว่ามันจะงงกันไหมว่า พวกแกจะนั่งแถวไหนกันแน่เอ๋ย เดินย้อนไปย้อนมา)

เสี่ยวแรกผ่านไปแล้ว (รอเสี่ยวสองแป๊บนึงนะค่ะ) เราก็เนียนมานั่งที่ที่จองเอาไว้ค่ะ ริมสุดเลยติดกำแพงเลยค่ะ สักพักก็เริ่มฉายหนังตัวอย่าง เป็นเรื่อง Madagascar ภาค 2 น่าดูดีค่ะ พอฉายหนังตัวอย่างจบ ถ้าเป็นบ้านเราก็เข้าเพลงสรรเสริญ แต่ของที่นี่จะเปิดไฟค่ะ เปิดทำไมนะหรือ อิอิ เค้าเปิดไฟมาขายไอติมค่ะ แบบว่ามีคนหิวไอติมมาขายถึงในโรงหนังเลยค่ะ แปลกดีเนอะ

ช่วงเปิดไฟเราก็เลยได้มองเห็นบรรยากาศคนดูในโรงหนัง มองไปมองมาก็เอะใจนิดนึงว่าไม่เห็นมีเด็กๆ เลย (เด็กที่เห็นตอนอยู่ที่หน้าโรงหนัง) โรงก็ไม่เห็นเต็มเหมือนตอนไปจองตั๋วเลย เอ๋ มันยังไงๆ อยู่น้า แต่ก็ไม่ได้เฉลียวใจ นั่งกันต่อไปค่ะ

พอขายไอติมกันเสร็จสับก็ปาเข้าไปสองทุ่มครึ่งกว่าแล้ว เริ่มปิดไฟ ฉายหนังล่ะทีนี้ พอเริ่มฉายก็แปลกใจค่ะ ทำไมหนังมันมีผู้คนเต็มไปหมด ไหนว่าเป็นหนังการ์ตูนอนิเมชันนี่หว่า ก็ดูๆ ไปซักพัก สะกิดคนข้างๆ มันแปลกๆ แล้วน้า คนข้างๆ บอก สงสัยหนังตัวอย่างมั่ง มีให้ดูอีกเรื่องมั่ง พอนั่งไปซักห้านาที เอ....หนังตัวอย่างมันยาวจังเนอะ ไม่ตัดไปตัดมาด้วย ดูจะท่าไม่ดีแล้วล่ะนะ เอาไงดี เอาตั๋วขึ้นมาดูก็โรง 2 ถูกแล้วนี่หว่า เราก็เดินเข้ามาโรงสองนิ เอ๋ยังไงๆ จะเดินออกไปก็แบบว่า นั่งซะในสุดเลย หนังก็ฉายไปแล้ว มันด่าบุพการีแน่ๆ แต่ถ้าจะทนนั่งดูต่อไปก็ไม่ไหวอ่ะ ดูไม่รู้เรื่อง อยากดู Wall-E ด้วยไม่รู้ป่านี้ฉายไปถึงไหนแล้ว

สุดท้ายก็เลยตัดสินใจปีนออกมาตรงแถวหน้าเลยค่ะ อาศัยช่วงหนังมืดๆ ปีนแล้วก็หอบข้าวของก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากโรงเลยไม่เหลียวมอง สบตาใครทั้งสิ้น

ออกมาจากโรง ป้าดๆๆๆ มองไป อ้าวนี่มันโรง 1 นี่หว่า กรรม เราเดินผ่านโรง 2 เข้าประตูของโรง 1 นี่เอง (คือว่าประตูมันติดกันเลยค่ะ ถ้ามองจากทางเดินจะเห็นประตูบานแรก ซึ่งเป็นของโรง 2 แต่พอเดินผ่านประตูนั้นมา ถึงจะเห็นเลข 2 แล้วประตูที่อยู่หลังเลข 2 มันก็คือประตูของโรง 1 ซึ่งเลข 1 น่ะมันอยู่หลังประตูอีกที เราเลยมองไม่เห็น แล้วก็คิดว่ามันเป็นประตูของโรงสอง) เวณกรรมอะไรกันนี่ ขำก็ขำ อายก็อาย