Group Blog All Blog
|
Day 13 : Germany (Fussen) Day 13 : German (Fussen) โปรแกรมเที่ยวของวันนี้คือ ปราสาท Neuschwanstein และปราสาท Hohenschwangau ค่ะ บีบีเชื่อว่าที่นั่นเป็นสถานที่ที่เด็กผู้หญิงทุกคนที่ชอบนิทานแบบ fairy tale มีเจ้าชายรูปหล่อ เจ้าหญิงแสนสวย อาศัยอยู่ในปราสาทที่สวยงาม หุหุ  ปราสาท Neuschwanstein คิดว่าออกเสียงว่า นอย-ชวา-สไตส์ เนื่องจากการออกเสียงที่ยาก คนไทยหลายคนเลยชอบเรียกปราสาทนี้ว่า ปราสาททิงนองนอย แต่ส่วนบีบี บีบีขอเรียกว่า ปราสาทพารานอย แทนละกัน เพราะจากประสบการณ์ที่ไปเยือนปราสาทนี้มา รวมถึงประวัติของการสร้างปราสาทและคนปกครอง ทำให้บีบีรู้สึกจิตตกและหดหู่จริงๆ ส่วนปราสาท Hohenschwangau เป็นปราสาทใกล้ๆกันกับปราสาทในฝันค่ะ ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ไหนๆก้อมาล่ะ แวะหน่อยละกัน  การเดินทางไปปราสาท Neuschwanstein นั้น ไม่ยากค่ะ แต่ค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร สรุปแล้วถ้าคิดจะไปเที่ยวที่นั่น เผื่อเวลาไปเลยค่ะหนึ่งวันเต็ม เรานั่งรถไฟจากสถานีมิวนิคไปลงที่สถานีฟุซเซ่น (Fussen) ประมาณ 2 ชั่วโมง (บีบีใช้บัตร Eurail Pass ขึ้นฟรีค่ะ) ไปถึงสถานีฟุซเซ่นแล้วให้เดินออกขึ้นรถบัสที่ด้านหน้าสถานีเพื่อไปปราสาท ขึ้นรถบัสสาย 73 หรือ 78 รถมาทุกๆ 15 นาที ค่ารถเที่ยวเดียว 3 ยูโร หรือจะซื้อแบบตั๋วไปกลับก้อได้ค่ะ ราคาไม่เกิน 6 ยูโร    รถบัสจะมาส่งเราที่ตีนเขาปราสาทค่ะ ลงรถบัสแล้วเดินไปนิดหน่อยก้อจะเจอกับที่ขายตั๋วเข้าชมปราสาท เราสามารถซื้อตั๋วเข้าชมปราสาท Neuschwanstein และปราสาท Hohenschwangau ได้ที่นี่ที่เดียวค่ะ ค่าตั๋วบอกตรงๆว่าจำไม่ได้ จำได้แต่ว่าซื้อตั๋วแบบคอมโบ คือซื้อตั๋วของทั้งสองปราสาทขายรวมกันราคาถูกกว่าแยกซื้อทีละปราสาทค่ะ ตอนที่ซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่เค้าจะถามว่าเราอยากได้ไกด์ทัวร์พูดภาษาอะไร อยากตอบว่าภาษาไทย แต่ว่าเค้ามีให้เลือกแค่ภาษาเยอรมันกับอังกฤษเท่านั้น เลยจำเป็นต้องตอบภาษาอังกฤษไป แล้วเจ้าหน้าที่ก้อจะบอกว่าให้เราเข้าชมปราสาท Hohenschwangau ก่อน แล้วก้อกำหนดเวลาเข้าชมปราสาทมาให้ด้วยเสร็จสรรพทั้งสองปราสาท บีบีเลยถามไปว่า ถ้าเกิดเราเดินช้าแล้วไปไม่ทันเวลาที่ต้องเข้าชมล่ะ เจ้าหน้าที่ก้อบอกว่าไม่เป็นไร ก้อรอเข้ารอบต่อไปละกัน    จากจุดที่เราซื้อตั๋วสามารถมองเห็นปราสาท Hohenschwangau ได้ชัดเลยค่ะ บีบีกับคุณสามีก้อเดินต้วมเตี้ยมชมนกชมไม้กับไปเรื่อยๆจนถึงปราสาท ปราสาท Hohenschwangau นี้อยู่ไม่ไกลค่ะ เดินแปปเดียวก้อถึง ทางเดินก้อสะดวกสบาย ขึ้นลงได้หลายทาง      ไปถึงตัวปราสาทแล้วเราก้อต้องรอเวลาเข้าชมค่ะ ถึงเวลาเข้าชมจะมีไกด์ออกมารับที่ทางเข้าปราสาท แล้วก้อพาเข้าชมด้านในปราสาท ได้ใจความมาว่าเจ้าของปราสาทนี้เป็นพ่อของเจ้าของปราสาทในฝัน จากปราสาทนี้สามารถมองเห็น ปราสาท Neuschwanstein ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว เนื่องจากว่าคนลูกที่เป็นคนสร้างปราสาททิงนองนอยนั่น โตที่ปราสาทนี้ และพักที่นี่ระหว่างที่ปราสาททิงนองนอยกำลังก่อสร้าง    ออกจากปราสาท Hohenschwangau แล้ว เราก้อเดินขึ้นเขาไปปราสาท Neuschwanstein ต่อค่ะ เดินขึ้นเขาไปประมาณ 30-45 นาทีได้ สำหรับใครที่ไม่อยากเดิน สามารถใช้บริการรถม้าได้ค่ะ แต่ดูแล้วคงแพงพอสมควร แต่ถ้าใครไม่อยากจ่ายแพงและไม่อยากเดินขึ้นเขา ให้เดินจากปราสาท Hohenschwangau ลงไปที่จุดขายตั๋วด้านล่าง แล้วนั่งรถบัสขึ้นไปปราสาท Neuschwanstein ได้ค่ะ ค่ารถบัสไม่เกิน 3ยูโรค่ะ      ปราสาท Neuschwanstein ฝรั่งส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อของ Dream Castle เพราะว่าวอลท์ดิสนีย์เอาปราสาทนี้มาใช้เป็นปราสาทต้นแบบของนิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทรา จนกลายมาเป็นปราสาทสัญลักษณ์ของวอลท์ดิสนีย์จนถึงปัจจุบัน    ไปถึงปราสาทแล้วก้อต้องรอเข้าชมตามรอบเวลาที่กำหนดไว้ในบัตรเหมือนเดิมค่ะ ระหว่างรอบีบีก้อเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ปราสาทนี้สวยอ่ะ ใหญ่โต โออ่า ใช้เวลาในการสร้างหลายสิบปี หมดเงินไปเยอะมาก แต่น่าเศร้าที่พอสร้างเสร็จแล้ว เจ้าของปราสาทย้ายเข้าอยู่ได้ไม่ถึงปีก้อตาย ตายแล้วไม่ตายปล่าวนะคะ เพราะเฮียแกมีหนี้สินเยอะมาก (ส่วนใหญ่ก้อหมดไปเพราะค่าปราสาทนี้ล่ะ) ญาติๆแกเลยตัดสินใจขายปราสาทนี้ไปเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ค่ะ     ด้านในปราสาทห้ามถ่ายรูปค่ะ ผิดหวัดนิดหน่อย แต่ก้อไม่น่าเสียดายหรอก เพราะไกด์พาเดินดูด้านในแค่ 5 ห้องเอง (ปราสาทออกจะใหญ่ แต่พาเดินดูแค่เนี๊ย) ออกจากปราสาทแล้วเราเดินไปที่สะพานแมรี่ (Mary bridge) เพื่อดูวิวปราสาทจากที่นั่นค่ะ ถ่ายรูปสมใจแล้วก้อพากันเดินกลับ กว่าจะเดินมาถึงข้างล่างหมดแรงเลย ตอนแรกกะว่าจะเดินเล่นรอบๆเมืองฟุซเซ่นสักหน่อย แต่ไม่ไหวล่ะ เดินทั้งวัน เหนื่อยมาก      นั่งรถไฟกลับมิวนิคดีกว่า พอถึงมิวนิคก้อหาอะไรกินแถวสถานีรถไฟนั่นล่ะ กินเสร็จแล้วก้อกลับโรงแรม เหนื่อยล่ะ นอนเลยละกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ  
|
Sugar lip
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] วันหนึ่ง เราจะต้องทำบล็อคหน้าตาสวยๆออกมาให้ได้ คอยดูสิ หึ บีบีได้มาใช้ชีวิตอยุ่ที่อเมริกาถึงวันนี้ก้อเกือบ 3 ปีล่ะค่ะ การได้มาใช้ชีวิตต่างแดนตัวคนเดียว เวลามีปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นมา มันก้อไม่รุ้จะไปถามใคร ภาษาเราก้อไม่ดี บีบีก้อจะหาข้อมูลในเวป google แล้วบีบีก้อจะได้คำตอบออกมาในรูปแบบของ bloggang บีบีเลยรู้สึกถึงความสำคัญของบล็อค รู้สึกขอบคุณคนเขียนบล็อคทุกๆคน ที่เสียสละเวลามาเล่าประสบการณ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างบีบี ดังนั้นบีบีก้อเลยตั้งใจไว้ว่าจะทำบล็อคเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ และ how to ต่างๆ ของบีบี เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆมั่งค่ะ
Friends Blog Link |
|||||||||||||
