Group Blog |
ขอวีซ่าเชงเก้นกับกงศุลเยอรมันในอเมริกา
ไปเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นทริปที่จัดกันอย่างเร่งด่วนนิดนึง เพราะตอนแรกกะว่าไม่ไปล่ะ เพราะเมื่อต้นปีก็เพิ่งไปญี่ปุ่นมา และปิดเทอมหน้าร้อนเราก็อยากนอนอยู่บ้านสบายๆบ้าง แต่คุณสามีนี่สิ อยากไปๆๆ รบเร้าจะไปให้ได้ บีบีก็เลยตามใจเธอละกัน ยังไงเธอก็เป็นคนจ่ายเงินอยู่แล้วนิ แล้วข้อมูลท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เช่น เวปตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ หรือโรงแรมต่างๆ เราก็ใช้จากเวปเดิมหรือเอเจนซีเดิมที่เคยใช้เมื่อปีที่แล้ว มันเลยไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ แล้วเราก็ได้แผนการเดินทางออกมาแบบนี้ค่ะ
1. พาสปอร์ตตัวจริงกับสำเนา 2. ใบคำร้องขอวีซ่า กรอกข้อมูลออนไลน์เสร็จแล้วปรินท์ออกมาค่ะ 3. รูปถ่ายไซส์พาสปอร์ต จำนวน 2 รูป 4. ใบขับขี่ตัวจริงและสำเนา อันนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่จะบอกว่าเราเป็นผู้อาศัยของรัฐใดค่ะ 5. กรีนการ์ดตัวจริงและสำเนา 6. ทะเบียนสมรสตัวจริงและสำเนา 7. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับ 8. หลักฐานการจองโรมแรมระหว่างทริปทุกคืน บีบีปรินท์ใบจองห้องพักจากอีเมล์ แล้วก้อทำใบปะหน้าเป็นตาราง Date / Country / City / Hotel & address ทำแนบไปด้วยเหมือนทุกครั้งที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ 9. ประกันสุขภาพระหว่างการท่องเที่ยว ในใบประกันต้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องคลอบคลุม medical expenses, hospitalization and repatriation ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 Euro หรือ 50,000 USD ค่ะ 10. ใบรับรองการทำงาน 11. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน 12. ใบรับรองการทำงานและสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนของสปอนเซอร์ คือในใบสมัครขอวีซ่าบีบีบอกไปว่าคุณสามีเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ บีบีเลยส่งเอกสารของคุณสามีไปด้วย 13. สเตทเมนท์ธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน บีบีส่งไป 3 บัญชีค่ะ คือบัญชีส่วนตัวของบีบี บัญชีส่วนตัวของคุณสามี และบัญชีร่วมของเราค่ะ 14. ค่าธรรมเนียม 112 USD จ่ายเป็นเงินสดค่ะ แบ่งเป็นค่าใบรับรอง (Certificate) จากท่านกงศุลกิตติมศักดิ์ 19 เหรียญ และค่าธรรมเนียมวีซ่า 93 เหรียญ (ค่าธรรมเนียมวีซ่านี่รวมกับค่าส่งพาสปอร์ตจากกงศุลมาคืนเราด้วยค่ะ ส่งแบบเอกสารด่วนของ FedEx ด้วยค่ะ) 15. แบบฟอร์ม Required declaration ปรินท์แบบฟอร์มนี้ไปด้วยค่ะ แล้วเอาไปเซ้นต์ต่อหน้าท่านกงศุลค่ะ
มีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอก
บีบีขอวีซ่ากังกงศุลกิตติมศักดิ์เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2012 แต่ตอนนี้สถานฑูตเยอรมันในอเมริกาออกกฎใหม่เกี่ยวกับการขอวีซ่าเยอรมันและวีซ่าเชงเก้งคือ ผู้สมัครวีซ่าทุกคนต้องทำไบโอเมตริค กฎนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 May 2014 ค่ะ สำหรับการทำไบโอเมตริคหนึ่งครั้ง สามารถเก็บลายนิ้วมือและรูปถ่ายไว้ใช้ขอวีซ่าได้นาน 5ปีค่ะ
ที่บีบีบอกว่ามันเป็นข่าวร้ายก็เพราะว่าต่อไปเราไม่สามารถขอวีซ่าผ่านกงศุลกิตมศักดิ์ได้อีกแล้ว ดังนั้นผู้สมัครที่เพิ่งจะขอวีซ่าเชงเก้นเป็นครั้งแรกจะต้องเดินทางไปขอวีซ่าที่กงศุลใหญ่เท่านั้น
ส่วนข้อดีของมันก็คือใครที่เคยมีวีซ่าเชงเก้นมาก่อน สามารถขอวีซ่าผ่านทางไปรษณีย์ได้ค่ะ ถ้าคุณมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งตามนี้
1. คุณเคยมีวีซ่าเชงเก้นที่ออกโดยกงศุลเยอรมันภายใน12 เดือนที่ผ่านมา หรือ
2. คุณมีวีซ่าเชงเก้นที่ใช้แล้วอย่างน้อย2 วีซ่า โดยสถานฑูตหรือกงศุลประเทศที่เป็นสมาชิกเชงเก้นเป็นผู้ออกให้ภายใน24 เดือนที่ผ่านมา หรือ
3. คุณมีวีซ่าเชงเก้นหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นภายใน24 เดือนที่ผ่านมา และได้ใช้วีซ่าไปแล้ว หรือ
4. คุณมีใบ advance parole and approval notice document(I-797) และต้องการจะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในเยอรมันระหว่างการเดินทางกลับประเทศของคุณ (ถ้าบีบีจำไม่ผิด ใบ advance parole คือใบอนุญาติออกนอกประเทศของคนที่อยู่ในกระบวนการขอกรีนการ์ดค่ะ) *****บีบีอ้างอิงข้อมูลมาจากกงศุลเยอรมันในซานฟรานตามเวปนี้นะคะ//www.germany.info/Vertretung/usa/en/03__Consulates/San__Francisco/03/Visa__in__San_20Francisco___C3_9CS.html
การขอวีซ่าที่กงศุลใหญ่ต้องนัดวันเวลาก่อนนะคะ ไม่รับ walk in ค่ะ การจองคิวสามารถจองได้ที่เวปไซส์ของกงศุลใหญ่แต่ละกงศุล ส่วนเอกสารที่ใช้ในการสมัคร ใช้เหมือนกันกับของบีบีด้านบนเลยค่ะ ส่วนค่าธรรมเนียมจ่ายเป็นเงินสดหรือ moneyorder ได้ค่ะ แต่ไม่รับเช็คเงินสดกับเครดิตการ์ดนะคะ อัตราค่าธรรมเนียมวีซ่าดูตามเวปนี้เลยค่ะ //www.germany.info/Vertretung/usa/en/05__Legal/02__Directory__Services/01__Visa/__Visa__Fee.html
ส่วนการขอวีซ่าทางไปรษณีย์เอกสารหลักที่ใช้ก็ตามของบีบีค่ะ เพียงแต่ว่าเอกสารตัวจริงเช่น กรีนการ์ด / ใบขับขี่/ ทะเบียนสมรส เราจะไม่ส่งตัวจริงหรือสำเนาไป แต่เราจะส่งเอกสารโนตาไรซ์ไปแทนค่ะ การรับรองเอกสารแบบโนตาไรซ์ (Notarized documents) คือการเอาเอกสารฉบับจริงไปให้ผู้มีอานาจรับรอง-รับรองให้ค่ะ ผู้มีอำนาจรับรองเอกสารที่ว่านี่มีตั้งแต่บริษัทที่เป็นPublic Notary ธนาคารต่างๆ หรือUPS บางสาขาค่ะ ขั้นตอนการรับรองเอกสารก็ง่ายค่ะๆไปที่ร้านที่เขารับรองเอกสารแล้วบอกเค้าว่า Notarize document แล้วก็เอาเอกสารฉบับจริงให้พนักงาน แล้วพนักงานจะเอาเอกสารเราไปถ่ายเอกสารและเขียนใบรับรองพร้อมประทับตราลายเซนต์ให้ เสร็จแล้วจะเย็บใบรับรองติดกับสำเนาเอกสาร เสียค่ารับรองลายเซนต์ละ 10$ (บางธนาคารถ้าเราเป็นลูกค้าเค้า เค้าจะทำให้เราฟรีด้วยค่ะ) ส่วนค่าธรรมเนียมวีซ่าบีบีแนะนำให้จ่ายเป็น moneyorder นะคะ สั่งจ่าย German Consulate General สาขาที่เราสมัคร ไม่แนะนำให้ส่งเงินสดไปทางไปรษณีย์ค่ะ เดี๋ยวหาย
บล็อคนี้บีบีเขียนช้าไปหน่อยแต่หวังว่าข้อมูลบางอย่างคงพอช่วยเพื่อนๆที่กำลังจะขอวีซ่าได้มั่งนะคะ ^^
โดย: Poppy IP: 49.230.186.228 วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:55:14 น.
|
Sugar lip
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] วันหนึ่ง เราจะต้องทำบล็อคหน้าตาสวยๆออกมาให้ได้ คอยดูสิ หึ บีบีได้มาใช้ชีวิตอยุ่ที่อเมริกาถึงวันนี้ก้อเกือบ 3 ปีล่ะค่ะ การได้มาใช้ชีวิตต่างแดนตัวคนเดียว เวลามีปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นมา มันก้อไม่รุ้จะไปถามใคร ภาษาเราก้อไม่ดี บีบีก้อจะหาข้อมูลในเวป google แล้วบีบีก้อจะได้คำตอบออกมาในรูปแบบของ bloggang บีบีเลยรู้สึกถึงความสำคัญของบล็อค รู้สึกขอบคุณคนเขียนบล็อคทุกๆคน ที่เสียสละเวลามาเล่าประสบการณ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างบีบี ดังนั้นบีบีก้อเลยตั้งใจไว้ว่าจะทำบล็อคเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ และ how to ต่างๆ ของบีบี เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆมั่งค่ะ
Friends Blog Link |