ในโลกนี้มีอะไรไม่เคยเปลี่ยนแปลง..ทุกสิ่งล้วนมีด้านที่ขัดแย้งกันทั้งนั้น...บางที...คนที่เคยผูกพัน...ไม่จำเป็น " ต้องมีหัวใจดวงเดียวกัน " เสมอไป
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
วิปลาส....ฆาตกรรม คดีดังต่างแดน ..เรื่องตุ๊กตา จากซากมนุษย์ .... (ตอน.....จินตนาการสยอง)

ตอน : จินตนาการสยอง



........เค้าดึงร่างที่ปราศจากลมหายใจออกมาจากกองหนังสือ ร่างนั้นเริ่มขาวซีดแต่ก็ยังงดงามอยู่ดี

มันเหมือนตุ๊กตาตัวใหญ่ ที่เค้าปราถนาอยากเล่นมานาน ดูเสื้อผ้าสิ ช่างไม่มีรสนิยมเอาซะเลย

เปลียนให่ม เปลี่ยนให่มดีกว่า...............เมื่อเค้าถอดกระโปรงออกด้วยความตื่นเต้น....โอ้ขุดชั้นใน

ของเธอเซ็กซี่จริงๆเลย ยกทรงสีฟ้า กางเกงในสีแดงสด มันช่างเข้ากับรูปร่างของเธออย่างไม่มีที่ติ

......เค้าลูบคลำมันเบาๆ ค่อยๆถอดที่ละชิ้นโดยเฉพาะกางเกงในที่เค้าถอดแล้วใส่

ใส่แล้วถอดซ้ำๆด้วยความด้วยความพึงพอใจ น่าลองมีเซ็กกับธอดีไหม? ไม่ดีน่ะ เค้าคิด.....

จะทำอะไรต่อดี น่าโมโหตัวเองนักที่ไม่ได้เตรียมกล้องกับฟิล์มเอาไว้ก็นั่นหล่ะ ใครจะคิดว่าจะมีเหยื่อมาเยือนในวันนี้

.....แต่เค้าก็มีอุปกรณ์อีกเพียบ ชั้นในและยกทรงอันแสนจะวาบหวามหลายรูปแบบ ที่เค้าขโมยสะสมไว้

เอามาลองใส่ให้เธอดีกว่าดูซิว่าตัวไหนจะเหมาะกับเธอที่สุด ของพวกนี้เค้าใช้ความพยามนานนับปี

บางตัวยังมีกลิ่นน้ำหอมติดอยู่จางๆ เค้าชอบหยิบมันขึ้นมาดมบ่อยๆ

.....เค้าไม่เคยมีตุ๊กตาเป็นของตัวเองมาก่อน เค้าจะแต่งตัวให้ให่มน่ะ เค้าค่อยๆเลือกมันอย่างถนุถนอม

หยิบเอากางเกงในผ้าซาตินที่มีลูกไม้ระบายมาใส่แทนกางเกงในสีแดงตัวเก่า หยิบตัวนั้นใส่ตัวโน้นด้วยความสุขล้นเหลือ

ตามจินตนาการที่เคยฝันใฝ่มานาน เหมือนเด็กที่ได้ตุ๊กตาตัวโปรด...............................

...............เพียงแต่เป็นตุ๊กตามนุษย์ขาวซีดที่มีเลือดไหลรินออกมาจากกะโหลก................

....................................................................................................................................................................

..... ดึกมากแล้ว ทุกคนนอนกันหมดแล้ว แต่เค้ายังคงเล่นตุ๊กตาไม่เลิก เสียงสายฝนกรนะทบหลังคาเบาๆ ไม่มีเสียงอื่นใด

เค้ารู้ดีว่าหลังจากนี้เค้าจำต้องทำลายมันทิ้งกอ่นพระอาทิตย์ขึ้น....น่าเสียดาย...อันที่จริงห้องใต้ดินก็มีตู้เย็นขนาดใหญ่

แต่เค้าไม่อยากเสี่ยงเก็บเธอเอาไว้ เพราะสักวันจะต้องมีคนมาพบ เค้าน่าเก็บอะไรไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย อะไรดี?

ยกทรงหรือกางเกงใน ไม่หรอก มีเยอะแล้ว เออ!!!เธอมีขาที่เพรียวสวย และที่สำคัญเธอสวมรองเท้าส้นสูง

......เค้าตัดสินใจเก็บเท้าซ้ายของเธอไว้เป็นที่ระลึก เค้าทำจริงๆกดคมมีดลงไปบนเนื้อซีดเหนียวตรงข้อเท้าซ้าย

และแน่นอนต้องสวมรองเท้ส้นสูงไว้ด้วย ส่วนที่เหลือง่ายมาก เอาไปถ่วงน้ำซะ

..... เค้ารอจนเวลาสองยาม ชายร่างยักษ์ขนศพที่ปราศจากข้อเท้าซ้ายขึ้นรถ และตรงไปที่สะพานเซนต์จอห์น

ซึ่งชว่งนี้จะไม่ค่อยมีรถผ่านมา เค้าทำทีเป็นรถเสียกลางสะพาน เมื่อได้จังหวะเค้าก็โยนมันลงแม่น้ำวิลลาเมตต์

โดยมีหินถ่วง ร่างของเธอค่อยๆจมลงสู่เบื่องล่างของแม่น้ำนั้น \'\'ลาก่อน ลินดา สลอว์สัน\'\' เค้าขับรถกลับบ้านอย่างสบายใจ

แต่แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่เข้ามารบกวนจิตใจเค้า ใช่แล้วแหวนโลหะวงเล็กที่นิ้วกลาง คงเป็นแหวนโรงเรียนมันสลักว่า \'\'เซนต์ ซัมบอดี 1967\'\'

....... เค้าน่าจะถอดมันออกก่อนทิ้งศพ รู้สึกหงุดหงิดในความสะเพร่าของตัวเอง

ไม่มีใครพูดถึงลินดา สลอว์สันจริงๆ ญาติพี่น้องไม่รู้เลยว่าเธอหายไปไหน เพราะเธอแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว

ในพอร์แลนด์นานแล้ว สำนักงานตัวแทนจำหน่ายเอ็นไซโคลพีเดียแทงบัญชีว่าเธอลาออกซึ่งน่าจะเป็นอย่างนั้น

ร้อยละเก้าสิบของเซลส์แมนล้วนลาออกเนื่องจากรายได้จากการขายไม่พอเลี้ยงชีพ

ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายเธอไปเสนอขายให้ใครที่ไหน?.........











............ความทรงจำในวัยเยาว์................

.....เด็กผมแดง ตาสีฟ้า นามเจอโรเม่ เฮนรี่ บรูโดส์ หรือ เจอรี่ เกิดเมื่วันที่ 31 มกราคม 1939 ที่เว็บสเตอร์ เซาท์ดาโกตา

ในครอบครัวที่เผอิญพระเจ้าจับให้มารวมกันด้วยหลงผิด

.....ตอนที่เจอรี่เกิดทั้งสองผิดหวังอย่างแรงที่ลูกของเค้าคนนี้เป็นผู้ชาย เพราะเค้ามีลูกชายอยู่แล้วซึ่งก็คือพี่ชายของเจอรี่

ลูกคนถัดไปหวังว่าจะต้องเป็นผู้หญิง ที่จริงพวกเค้าตั้งใจมีลูกคนเดียวด้วยซ้ำ

....เจอรี่จึงกลายเป็นส่วนเกินของครอบครัว และเชื่อเถอะหนูน้อยสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกผิดหวังของพ่อแม่ได้อย่างรวดเร็ว

".....หญิงดื้อด้านเห็นแก่ตัวและโหดร้าย" ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของเค้า

....อายลีน บรูโดส์ มารดาหญิงที่เย็นยะเยือก ไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อคนรอบข้าง แต่งตัวเนียบแบบเคร่งขรึม เธอไม่มีวันสวม

รองเท้าส้นสูงเด็ดขาด

....เฮ้นรี่ บรูโดส์ บิดาชายร่างเล็ก สูง 5 ฟุต 4 นิ้ว หัวหน้าครอบครัวที่ชอบพาครอบครัวย้ายไปเรื่ยๆเพื่อหางานที่ดีกว่า

เส้นทางชีวิตส่วนใหญ่เหยียบย่ำอยู่กับพื้นนาและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เค้ามักมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ระแวงแต่ว่าใครกลั่นแกล้ง

เพราะปมด้อย ถ้าถูกเอาเปรียบคดโกงเขาจะตอบโต้ด้วยคำด่าที่หยาบคาย

....ในช่วงห้าปีแรกของชีวิต เจอรี่ยังไม่สามารถรับรู้ถึงแรงกดดันในครอบครัวมากนัก เค้ารู้แต่ว่า แลรี่ พี่ชายเป็นที่โปรดปราน

ของพ่อและแม่หนักหนา ทุกสิ่งที่พี่ชายเค้าทำล้วนถูกต้อง แต่สิ่งเดียวกันถ้าเค้าทำมันจะกลายเป็นความผิดร้ายแรง

....แลรี่เป็นเด็กน่ารัก ฉลาด ดีงามไปหมด ขณะที่เจอรี่ถูกเลี้ยงดูแบบทิ้งๆขว้างๆ และเหตุนี้เองมันจึงเปิดโอกาสให้หนูน้อย

ได้เวะเวียนอยู่กับกองขยะ และทำให้เค้าพบกับสิ่งมหัศจรรย์แห่งชีวิต

.......... มันคือรองเท้าส้นสูง!

....รองเท้าที่ถูกโยนทิ้งเพียงเพราะสายรัดข้อเท้ามีตำหนิ สิ่งที่แม่รังเกียจนักหนา

หนังของมันดำสนิท แวววาว กลิ่นหอมจากหนังเป็นความแปลกใหม่ที่ทำให้เค้าอยากจะอธิบาย

....ในวัยแค่นั้น เจอรี่ ไม่สามารถแยกแยะว่าตนคลั่งไคล่กับมันเป็นพิเศษ เค้าเพียงอยากทดลองใส่มันเดินเล่นไปมา

ตามถนนเพราะความอยากรู้อยากลองตามประสาเด็ก คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันหัวเราะด้วยความเอ็นดู

.... แต่นางอายลีนไม่คิดอย่างนั้น เธอรู้สึกว่าลูกของเธอทำในสิ่งที่น่าละอายเกินกว่าจะให้อภัยได้

เด็กน้อยถูกตบตีด่าถอ ประหนึ่งว่าเค้าเป็นอาชญากร

...เจอรี่ไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรผิด หลังจากแม่ลากตัวกลับบ้าน และขว้างรองเท้าคู่นั้นออกไปนอกบ้าน เค้าโดนแม่ดุด่าทั้งวัน

ไม่มีที่ท่าจะหายโกรธ แต่แล้วเจอรี่ก็แอบเก็บเอาซ่อนไว้ในบ้าน ใส่เดินไปเดินมาตอนแม่หลับแล้ว

....ไม่นานสิ่งที่ปกปิดไว้ก็ถูกนางอายลีนจับได้อีก ไม่มีอะไรจะแก้ตัว รองเท้าถูกเผาต่อหน้า แล้วจับเค้าขังไว้ในห้องที่มืดและอับเป็นเวลานาน

เมื่อแม่พอใจกับการลงโทษจึงปล่อยหนูน้อยออกมา สิ่งแรกที่เค้าทำคือวิ่งไปหาหญิงข้างบ้านที่เมตตาเค้ามาโดยตลอด เจอรี่น้อยร้องไห้

สะอึกสะอื้นบนตักเธอจนหลับไป เค้าถือเสมือนเธอเป็นแม่ที่แท้จริง ส่วนแม่ของเค้าเป็นเพียงแม่มดใจร้าย

.... นอกจากหญิงใจดีแล้ว เจอรี่ยังมีเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งที่เค้าไว้ใจมากที่สุด เป็นเด็กหญิงห้าขวบผอมกะหร่อง ใบหน้าขาวซีด ไม่สดใสเหมือนเด็กวัยเดียวกัน เจอรี่เด็กเกินกว่าที่จะรู้หรือเข้าใจอาการของเด็กที่กำลังจะตายด้วยวัณโรคเป็นอย่างไร เมื่อเพื่อนคนเดียวของเค้าตายลงในเวลาต่อมา สร้างความเศร้าโศกให้แก่เค้าดป็นอันมาก เค้าเฝ้าโทษพระเจ้าที่มาแย่งเพื่อนที่เค้ารักไป เหลือเพียงหญิงข้างบ้านใจดี

....ไม่มีอะไรแน่นอน หญิงใจดีที่เค้าเหลือเพียงคนเดียวต้องมาตายจากเค้าไปอีกคนด้วยโรคเบาหวานเรื้อรัง เด็กน้อยไม่เข้าใจทำไม

หญิงที่เค้ารักเสมือนแม่ก็ทิ้งเค้าไปอีกเช่นกัน เจอรี่ไม่เข้าใจเรื่องความตาย รับรู้เพียงว่าบัดนี้เค้าถูกทิ้งไว้อย่างเดียวดายในโลกที่โหดร้าย

ผู้หญิงเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้สักคน พวกเธอพร้อมที่จะทอดทิ้งไม่ว่าเค้าจะมอบความจริงใจให้สักเพียงใดก็ตาม

....วันเวลาผ่านไปครอบครัวบรูโดส์ก็อพยพไปยังริเวอร์ตัน แคลิฟอร์เนีย ชีวิตผกผันอีกครั้งเจอรี่เข้าเรียนเกรดเอ ที่นั้นเค้าได้ครูประจำชั้นเป็นสาวผมทอง ขาเพรียวสวย เธอสวมรองเท้าส้นสูงเป็นมันเยื้องกรายประหนึ่งนางพญาหงส์

....เจอรี่เฝ้ามองด้วยความหลงใหล เค้าพบว่าครูมีรองเท้าสองคู่ คู่ที่เธอใส่ประจำ อีกคู่เป็นรองเท้าธรรมดาที่เธอใส่สับเปลี่ยน เจอรี่รอบติดตามทุกระยะ

.....วันหนึ่งรองเท้าส้นสูงของครูหายไป คงมีใครแกล้งแอบเอาไปซ่อนเธอคิด แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อรองเท้าได้เข้าไปอยู่ใต้โต๊ะของเจอรี่ที่ท่าลุกลน ครูถามเจอรี่ด้วยเสียงดังลั่นว่าทำไม เจอรี่รับสารภาพเพราะความอยากได้ เพื่อนๆต่างมองเค้าด้วยสายตาแปลกๆ เจอรี่วิ่งหนีออกจากห้อง ไม่มีการลงโทษใดๆ แต่สังคมได้ลงโทษเค้าแล้ว


.......ยังไม่จบน่ะค่ะ ไว้เจอกับตอนสยองตอนต่อไปจร้า................




....






Create Date : 30 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2550 10:19:53 น. 11 comments
Counter : 1214 Pageviews.

 
น่ากลัว+น่าสงสาร อะ


โดย: น้องผิง วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:42:21 น.  

 

ตื่นเต้นจังค่ะ


โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:05:16 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักครับ

คุณปราณรึเปล่าเอ่ย ?

เดาจากชื่อบล้อกน่ะครับ
ปราณฝัน หรือ ปานฝัน น้อ





โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:08:11 น.  

 
สนุกดีค่ะ น่าจะเป็นนิยายนะคะเนี่ย


โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.113.45.68 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:54:31 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่กรุณาให้เกียรติไปฟังเพลงเก่าๆ(ของคนแก่ๆ)ที่บล็อค

ยินดีที่รู้จักค่ะemoemo


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:00:44 น.  

 

สุขสันต์วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ค่า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:53:51 น.  

 
น่าสงสารจังเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ

คนเราทำสิ่งที่แล้วร้ายได้ เพราะ เก็บกดจากครอบครัว

ครอบครัวไม่เข้าใจ อ่านแล้วอืม มันเหมือนในละครที่เราดูกันเลยค่ะ


โดย: yadegari วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:3:50:41 น.  

 
ตื่นเต้นดีเนอะ


โดย: ฟ้าสวยมาก วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:6:38:04 น.  

 
+++ มาลงชื่อว่าจะอ่าน อิ อิ


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:8:50:37 น.  

 
..หวัดีค่ะแวะมาทักทายคร้า เที่ยงนี้ทานไรเอ่ย อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยละค่ะ.....
......เนื้อเรื่องข้างบน จะเก็บไว้อ่านคืนนี้ค่ะอิอิ


โดย: เพราะฉันห่างไกล วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:11:40:07 น.  

 
ชอบมากครับ


โดย: หนึ่ง นาอุดม IP: 58.8.52.244 วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:44:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pranfun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add pranfun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.