ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก
กรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก คือ การทำประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน เพื่อให้ความคุ้มครองความเสียหายสืบเนื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินเป็นการสูญเสียหรือความเสียหายซึ่งเป็นผลของการหยุดชะงักของธุรกิจหรือจากการของเจ้าของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบต่อธุรกิจที่ดำเนินอยู่ ณ สถานที่เอาประกันภัย ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากความสูญเสียหรือความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินซึ่งผู้เอาประกันภัยใช้เพื่อประกอบธุรกิจณสถานที่เอาประกันภัยภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินที่ซื้อไว้
ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักมีทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร เหมาะกับสภาพความเสี่ยงแบบใดไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักมีแบบเดียวแต่มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปได้แก่ การประกันภัยกำไร (Profit Insurance), การประกันภัยรายได้ธุรกิจ (BusinessIncome Coverage), การประกันภัยรายได้ (Income Insurance), แต่ที่เป็นที่รู้จักและแพร่หลาย มี 3 ชื่อ คือ การประกันภัยความเสียหายสืบเนื่อง(ConscquentoalLoss Insurance) หมายถึงการประกันภัยความเสียหาย ทางการเงินซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความเสียหายทางวัตถุอันเกิดจากภัยที่เอาประกันภัยได้, ประกันภัยการสูญเสียกำไร หรือ Lossof Profit Insurance ที่ใช้ในประเทศอังกฤษ ที่มีความหมายเหมือนกับ การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก(BusinessInterruption Insurance) เป็นคำที่เรียกใช้ในประเทศอเมริกา ซึ่งคำทั้งสองคำนี้ หมายถึงการประกันภัยความเสียหายอันเนื่องมาจากการหยุดชะงักของธุรกิจจากเหตุการณ์อันไม่อาจ คาดการณ์ล่วงหน้าได้ เช่น การเกิดเพลิงไหม้โรงงานเครื่องจักรเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรแล้วทำให้เกิดเพลิงไหม้
เพราะฉะนั้น ธุรกิจของใครที่คิดว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหมือนที่กล่าวมาข้างต้น จึงควรทำประกันภัยประเภทดังกล่าว ในยุคสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ตัวเจ้าของธุรกิจหรือธุรกิจกิจการต่างๆที่มีการผลิต ควรที่จะทำการประกันภัย ธุรกิจหยุดชะงักไว้ ควบคู่กับการประกันภัยทรัพย์สินเพราะดังได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าเมื่อเกิดความสูญเสีย หรือเสียหายขึ้น เช่นการเกิดอัคคีภัย นอกจากทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการชดใช้แล้วขณะที่รอการซ่อมแซมหรือสร้าง โรงงานอาคารใหม่ผู้เอาประกันภัยก็ยังคงมีรายได้ที่จะประคับประคองธุรกิจต่อไปมีเงินที่จะจ่ายในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่าย ที่ยังคงต้องจ่ายต่อไปเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เพราะถ้าหากไม่มีการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักดังกล่าวแล้ว เจ้าของธุรกิจหรือกิจการดังกล่าวจะต้องหาเงินมาชดเชย ในส่วนที่ขาดหายไป เช่น รายได้หรือค่าใช้จ่ายคงที่ที่ยังคงต้องจ่าย ได้แก่ ดอกเบี้ยเงินฉัน้ ค่าเงินเดือนพนักงานค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น ซึ่งแต่ก่อนธุรกิจเหล่านี้สามารถทำการฉัน้ยืมได้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่ในภาวะปัจจุบันที่ค่าเงินตึงตัว สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อลดลงจึงเป็นการยากที่จะทำการยืมได้ดังนั้น เจ้าของธุรกิจ กิจการจึงอาจจะต้องเลิกการผลิต หรือปิดกิจการลงมีผลทำให้เกิดการว่างงานและเป็นผลเสีย ต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ดังนั้น การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักจึงเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวได้ ในต่างประเทศเคยมีการสำรวจพบว่าเจ้าของโรงงานที่มีการทำประกันภัยเฉพาะทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักนั้นปรากฏว่ามีเป็นจำนวนมากที่ธุรกิจเหล่านั้นไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แม้ว่าจะได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินเต็มตามจำนวนเงินเอาประกันภัยแล้วก็ตาม
Create Date : 30 ตุลาคม 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2560 16:48:03 น. |
Counter : 1522 Pageviews. |
|
|