Less is More ในโลกภาพยนตร์

ทำบทความอยู่ ผู้กำกับท่านนี้บอกว่า สำหรับเขา Less is More แต่กับผู้อำนวยการสร้าง More is More

เขามองถึงแง่การสร้างความสยดสยองให้กับคนดู มันจำเป็นด้วยเหรอ ที่เราต้องนำเสนอภาพรุนแรง ภาพที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อแดงฉานให้คนดู เขามองว่า ถ้าเกิดมันเป็นหนังสัตว์ประหลาด หรือหนังแนวโหดร้ายทารุณอันนั้นก็ว่าไป แต่หนังของเขามันไม่ใช่ เพราะงั้น เขาคงไม่ทำหนังเรื่องนี้แบบ More is More แน่นอน

สำหรับเขา การสร้างความรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น มีคนมองอยู่ตรงนี้ เหมือนมีใครอยู่รอบตัวเรา ให้มันดูลึกลับๆ ปิดบังนิดๆอย่างนี้ น่าสนใจกว่า เขาเชื่อว่า ยิ่งเปิดเผยน้อยเท่าไร การรับรู้ของคนดูก็ยิ่งมากขึ้น ด้วยการจินตนาการที่มาจากผัสสะของคนดู

...

เราก็เลยมามองกลับดูบ้างว่า Less is More จริงๆเหรอ

มันจะเป็น Less is More ที่ประสบผลสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อผู้กำกับปูเรื่องให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละคร เห็นอกเห็นใจ เข้าใจในเขาแล้วหรือเปล่า

เหมือนตอนเราดู The Constant Gardener การที่นางเอกตาย แต่เราไม่ได้เห็นภาพความรุนแรงเลยสักนิด เราเห็นสายตาของพระเอกที่มองเธอ เห็นคนข้างๆวิ่งออกไปอาเจียน มันก็ทำให้เราจินตนาการไปแล้วว่าสิ่งที่เธอได้รับมันโหดร้ายแค่ไหน

แต่นั่น เป็นเพราะเราผูกพันกับตัวละครแล้วหรือไม่ เพราะนางเอกให้การแสดงที่ดีจนเรารู้สึกถึงการมีเธอในทุกๆฉากหรือเปล่า เพราะพระเอกแสดงผ่านทางสายตาได้อย่างยอดเยี่ยม และเพราะบท เขียนให้คนข้างๆทำหน้าผะอืดผะอมแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วหรือเปล่า เราถึงจินตนาการว่า สภาพศพของเธอเละเทะแค่ไหน

ถ้าไม่ได้องค์ประกอบพวกนี้มาช่วย เราจะยังรู้สึกว่า Less is More อยู่ไหม

หรืออย่าง Cloverfield (เขียนงี้ป่ะ) ที่เราแทบจะไม่เห็นสัตว์ประหลาดเลยจนกระทั่งนาทีเกือบท้ายๆ (หรือไม่เห็นเลยนะ) มันทำให้เราจินตนาการความน่ากลัวของมันไปถึงขีดสุดแล้วหรือเปล่า


หรืออย่าง Signs มัน Less is More หรือเปล่า กับการสร้างภาพให้เราจินตนาการถึงมนุษย์ต่างดาว (ซึ่งมันรวมถึงภาพรับรู้เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวของเราในโลกจริงๆด้วย) พอภาพที่เห็นออกมา จินตนาการของเราสูญเสียไปหรือไม่ มีเสียงก่นด่าความอ่อนของมนุษย์ต่างดาวบ้างหรือเปล่าหนอ

ในขณะเดียวกัน More is More มันไม่ดีจริงๆเหรอ

หนังอย่างพวก เปรตเดินดินกินเนื้อคน มันตอบสนองต่อคนดูเฉพาะกลุ่ม ซึ่งแน่นอน หนังของผู้กำกับคนนี้มันไม่ใช่ไง เพราะงั้น จะให้เค้าไป More is More ถึงขนาดนั้นก็คงไม่ได้ แต่จะให้เขา Less มันก็ไม่ใช่อีก

(แต่เท่าที่อ่าน ขนาดแค่ Saw คุณผู้กำกับคนนี้ก็ไม่ชอบแล้วนะ)

แต่บางครั้ง More เกินไปเรากลับรู้สึก Less นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบของหนังมันไม่ดีด้วยหรือเปล่า

เหมือนตอนดู Final destination เราจะลุ้นไปกับตัวละครว่าจะตายยังไง แล้วเราก็โดนหลอกหลายตลบ นั่นเพราะการถ่ายทำ การเขียนบทมีส่วนช่วยด้วยรึป่าว แต่ภาคหลังๆ หลายๆเรื่อง เน้นแค่ เลือดเยอะ แหวะเยอะๆ หัวเหอกระจุยกระจายเยอะๆ ตอบสนองต่อคนดู แต่เราไม่เอาใจช่วยอะไรแล้ว เพราะเราไม่ลุ้น ไม่คิดว่าเป็นเราเอง ไม่คิดว่าจะเจ็บจะปวดยังไง มันเหมือนสนองคนดูเฉยๆ แต่ก็กันคนดูออกห่างจากเรื่องไป

แต่อย่าง Piranha More สุดๆ เห็นแล้วไม่ลุ้นนะว่าจะรอดหรือเปล่า ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะรู้ว่า ยังไงก็ตาย เป็นประเภท เพราะมรึงเป็นตัวเอกไง เลยรอด ไม่มีมาลุ้นว่าเอ๊ะ เค้าอาจจะหักมุมให้ตายก็ได้

นั่นแปลว่า more is More ยังไงก็ไม่ประสบผลสำเร็จหรือเปล่า

...

สุดท้าย ไม่ว่าจะ Less หรือ More

ถ้าเอามาใช้ไม่เหมาะกับเนื้อหาของหนัง แนวทางของหนัง ไม่มีองค์ประกอบด้านอื่นๆที่ดี

มันก็ออกมาห่วยแตก และไร้ซึ่งการจดจำทั้งหมดเหมือนกัน

...

กับผู้กำกับคนนี้ เราคงต้องรอเข้าไปดูในหนังเองว่า Less is More จริงๆหรือไม่

แต่หน้าหนัง แนวหนัง มันน่าจะ Less แล้วเวิร์กนะ
เพราว่ามันคือหนังผี !!!

Create Date : 20 มกราคม 2555		0 comments
Last Update : 20 มกราคม 2555 15:32:43 น.
Counter : 843 Pageviews.
Share Tweet