Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
Cheese in the Trap





เป็นซีรีส์ที่เคยอ่านกระทู้ที่มีวิเคราะห์ตัวละคร แล้วก็เลย เออ ลองดูซะหน่อยสิ 
แต่ก่อนดูก็ถามเพื่อน อ่านสปอย จนทำให้ได้รู้ว่า นี่เป็นซีรีส์ที่หลายคนบ่นตอนจบ 
บางคนบอก ดูแค่แปดตอน สิบสองตอนก็พอ 
เพื่อนยังบ่นว่า เป็นซีรีส์ที่เป๋ๆ ไปในตอนท้ายๆ 

แต่ถ้าเทียบกับคนที่ดูซีรีส์เกาหลีอย่างตั้งใจจนจบ นับนิ้วมือข้างเดียวถ้วนอย่างเราแล้ว (นี่ดูมาตั้งแต่สมัย All About Eve ฉายช่องห้านะคะ ขอบอกกก) 
เอาน่า ถ้าดูไม่จบก็เท่านั้น ก็เหมือนอีกหลายเรื่องนั่นแหละ 
ก็เลยดู 

...

จบแล้ววววววววววว 

ถ้าถามเรา มันก็ไม่ได้เป๋ขนาดนั้นนะ หรือเพราะเราอ่านสปอยจึงรู้ว่ามันจะจบยังไง เราเลยไม่ได้คาดหวังมากว่ามันจะต้องสมหวัง จบแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว และเรารู้สึกมันรับกับเส้นเรื่องของตัวละครดี 
(อันนี้ไม่รู้ดราม่าระหว่างถ่ายทำนะฮะ อ่านแล้วไม่เข้าใจ จะข้ามๆ มันไป) 

เราชอบที่ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้เป็นสีเทาไปหมดเลย จะเทาค่อนไปทางขาว หรือเทาค่อนไปทางดำก็แล้วแต่ แต่เค้าทำให้รู้สึกว่า ตัวละครมันกลมๆจริงๆ เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้เลยนะ ถึงใครจะบ่นว่าตอนท้ายๆ นางเอกเริ่มงี่เง่า เริ่มไร้เหตุผล เริ่มอะไรก็ตามแต่ แต่เราเข้าใจว่ามันเป็นอารมณ์ของผู้หญิงอ่ะ ผู้หญิงที่มีแฟนด้วย ฮ่าๆ 

เราชอบพระเอกนะ ตัวละครของเค้าเราว่าเป็นตัวละครที่น่าสนใจดี ต้องบอกก่อนว่า เราค่อนข้างชอบตัวละครไม่ว่าจากเรื่องไหนๆ ที่มีปมเกี่ยวกับครอบครัว แต่เป็นปมที่แก้ได้ 
คือเพื่อนถามว่าไม่ชอบพระรองเหรอ สำหรับเรา พระรองไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าน่าสงสาร คือเค้าก็ดีอ่ะ รักจริง รักพี่ แม้ว่าพี่จะไม่ค่อยได้เรื่อง ขยัน มีความฝัน แต่ปมของพระรองมันไม่ใช่ปมที่เราชอบอ่ะ อีกอย่างคือ เราว่าเค้านิสัยเสีย และเราไม่ชอบที่เค้าโทษคนอื่น แทนที่จะโทษตัวเอง แบบเห็นได้ชัด 



ในขณะที่พระเอก มีทุกอย่างที่เราชอบ ทั้งหล่อ (เย้ย) คือ ฉลาดในแบบจิตๆ เค้าจะไม่ทำใคร ถ้าใครไม่ทำเค้าก่อน แต่ถึงวิธีของเค้ามันจะร้ายแรง สุดท้ายมันก็กลับมาจุดเริ่มต้นเดิมคือ กรรมเป็นผลจากการกระทำ ทุกคนได้รับกรรมของตัวเองหมด และไม่ว่ายังไง ทุกคนก็ต้องแก้ที่ตัวเอง ไม่ใช่แก้ที่คนอื่น ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะผิดทั้งหมด หรือเราผิดทั้งหมด แต่ต่างคนต่างมีส่วนผิดด้วยว่างั้น 

ถึงใครจะบ่นว่า บางคนดูไม่เดือดร้อน ไม่อินังขังขอบกับสิ่งที่ตัวเองทำเลย แต่เราว่ามันตอบโจทย์ได้จริงๆ นะ กรรมคือผลของการกระทำจริงๆ และถ้าเค้าแก้ที่ตัวเองได้ ทุกอย่างก็จะขึ้นมา เหมือนที่ตอนท้าย พระเอกก็เข้าใจว่าเค้าต้องแก้ที่ตัวเค้าเอง ไม่ใช่หวังให้นางเอกมาปรับเข้าหาเค้า ทนเค้า เจ็บตัวเพราะเค้าอยู่อย่างนี้ เค้ายอมแก้ที่ตัวเค้าเอง และถ้าเค้าพร้อม เค้าจะกลับมา 

เหมือนที่พี่สาวพระรองยอมแก้ที่ตัวเอง เหมือนที่พระรองยอมแก้ที่ตัวเอง ทุกคนต้องแก้ที่ตัวเองก่อน ก่อนที่จะยอมให้ใครมาเปลี่ยนเพราะเรานะ 

ถ้าจะมีอะไรบ่น คงขอบ่นที่ฉากเซอร์วิสมันน้อยละมั้ง หลายๆ คนคงเฟลเพราะจุดนี้ด้วย จบแบบให้คิดต่อแบบนี้เลยเหรอ แงงงงงง 

ไม่เป็นไร มโนต่อเองได้ ฮ่าๆ 

เรื่องต่อไป เรื่องไหนดีน้า 


ปล. ชอบตอนผิดคิวหัวโขกโต๊ะมากกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

ส่วนฉากนี้ทำร้ายจิตใจมากฮะ 
ดูแล้วนึกถึง Butterfly Effect นึกถึงเพลง Stop Crying your heart out เลย 



ปล.อีก ชอบพระเอกอ่ะ บทนี้ทำให้เราชอบเค้าเลย (คือตอนแรกก็ไม่รู้จัก ฮ่าๆๆๆๆๆ) 



Create Date : 03 กรกฎาคม 2559
Last Update : 3 กรกฎาคม 2559 16:00:34 น. 1 comments
Counter : 3446 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ...

พระเอกหล่อจริงๆ..อิอิ

ต้องไปหามาดูอีกล่ะ...



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2559 เวลา:2:27:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ปลาทองแก้มยุ้ย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เป็นผู้หญิง (แหงดิ) ที่มีความฝันมากมาย แต่ไม่เคยไขว่คว้ามันมา
จนถึงวันนี้ ชีวิตก้าวขึ้นเลข 2 รู้ตัวแล้วว่าเวลาไม่คอยท่า
เธอเลยคิดได้ว่า ถึงเวลาไล่คว้าความฝันแล้ว

คิดและกำลังลงมือทำ ...

หวังว่าวันแห่งความสำเร็จ คงจะมาในไม่ช้า
Friends' blogs
[Add ปลาทองแก้มยุ้ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.